รุ่งทวีชัยฟาร์ม นวัตกรรมเลือดจระเข้
ธุรกิจติดดาวสัปดาห์นี้จะพาไปรู้จักกับธุรกิจแปลกๆ ใหม่ๆ เกี่ยวกับฟาร์มจระเข้ เพาะพันธุ์ปลาเสือตอ พันธุ์ปลาหายาก
โดย...สุกัญญา สินถิรศักดิ์
ธุรกิจติดดาวสัปดาห์นี้จะพาไปรู้จักกับธุรกิจแปลกๆ ใหม่ๆ เกี่ยวกับฟาร์มจระเข้ เพาะพันธุ์ปลาเสือตอ พันธุ์ปลาหายาก และธุรกิจงูหลาม และงูเหลือม ที่รุ่งทวีชัยฟาร์ม อ.ดอนตูม จ.นครปฐม
วิสาชิณี รุ่งทวีชัย เจ้าของรุ่งทวีชัยฟาร์ม เล่าถึงที่มาที่ไปก่อนที่จะมาทำฟาร์มจระเข้ว่า เริ่มต้นจากความที่เป็นคนชอบเลี้ยงสัตว์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงทั่วไป เช่น แมว สุนัข หรือจะเป็นสัตว์เลื้อยคลานต่างๆ เช่น แย้ กิ้งก่า กระรอก เป็นต้น เมื่อชอบก็จะซื้อมาเลี้ยงที่บ้าน และด้วยความที่บ้านเป็นสวนขนาดใหญ่ มีพื้นที่กว้าง จึงปล่อยให้สัตว์ที่ซื้อมาใช้ชีวิตตามธรรมชาติ
ส่วนจุดเริ่มต้นของการมาเริ่มเลี้ยงจระเข้ เริ่มเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ญาติๆ ชวนไปดูจระเข้ที่ฟาร์มหมูของเพื่อนที่นำมาเลี้ยงไว้ แล้วก็เกิดความชอบ เลยขอซื้อกลับมา 20 ตัว ซึ่งยังเป็นตัวเล็กๆ ความยาวประมาณ 1 ฟุต พอนำกลับมาบ้านก็ไม่รู้จะไปไว้ไหน บ่อจระเข้ก็ไม่มี และคุณพ่อซึ่งเป็นคนไทยเชื้อสายจีนไม่ค่อยชอบสัตว์ชนิดนี้ เลยนำจระเข้ทั้ง 20 ตัวไปซ่อนไว้ในบ่อกบ
“พอเลี้ยงไปประมาณ 6 ปี จระเข้ก็เติบโตมาก ความยาวกว่า 2 เมตรแล้วบ่อกบที่ไม่ได้สร้างไว้รองรับการเลี้ยงจระเข้ก็เริ่มร้าว เริ่มแตก ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะจับก็จับไม่เป็น ก็เลยคิดว่าจะขาย ตอนนั้นมีคนมาตีราคาให้ตัวละ 4,000 บาท ซึ่งถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับระยะเวลาในการเลี้ยงนาน 6 ปี จึงต่อรองขอให้ซื้อเหมา 20 ตัว 1 แสนบาท ถ้าตอนนั้นคนซื้อยอมซื้อในราคานี้ ก็คงไม่ได้ทำฟาร์มจระเข้ แต่คนซื้อไม่ยอมซื้อในราคานั้น”
วิสาชิณี เล่าอีกว่า ในที่สุดก็เลยเริ่มต้นปรับปรุงบ่อกบนั้นให้รองรับการเลี้ยงจระเข้ด้วย ซึ่งก็ต้องไปเรียนวิธีการจับจระเข้ พร้อมกับจ้างลูกน้องให้ไปฝึกด้วย แล้วก็มีจุดพลิกผันในชีวิตอีกครั้ง เพราะหลังจากที่เริ่มเลี้ยงจริงจัง จระเข้เหล่านี้ก็กลายเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ และมีลูกจระเข้จำนวนมาก ซึ่งในเวลานั้นมีรายการทีวีเข้ามาขอถ่ายเป็นเชิงความรู้ พอรายการออกอากาศไป ปรากฏว่ามีคนโทรศัพท์เข้ามาจำนวนมาก ทั้งขอความรู้ ทั้งสนใจขอซื้อ ก็เลยตัดสินใจขายไปบางส่วน เหมือนเป็นลูกฟาร์มเครือข่าย
หลังจากนั้นก็เริ่มกลายเป็นปัญหาใหม่ เพราะพอขายไปและถึงเวลาที่ลูกฟาร์มจะต้องจับ เขาก็โทรศัพท์มาให้ไปจับ ก็ต้องไปฝึกจับอย่างจริงจัง ต่อจากนั้นก็มีอีกหนึ่งจุดเปลี่ยน พอช่วงจระเข้ราคาตกมากเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว ความยาว 2 เมตรเหลืออยู่ตัวละ 2,000 บาท ก็ขาดทุน ลูกค้าฟาร์มเครือข่ายก็ขาดทุน ก็เริ่มหาวิธีที่จะทำให้ขาดทุนน้อยลง หรือยังพอได้กำไรบ้าง นั่นคือ การขายเนื้อจระเข้ แยกเนื้อ แยกหนัง ก็ต้องไปฝึกชำแหละ ก็เหมือนชีวิตเปลี่ยนอีกครั้ง
วิสาชิณี กล่าวว่า ในขั้นตอนของการชำแหละเนื้อ และแยกหนังจระเข้ ก็จะต้องทิ้งเลือด ซึ่งช่วงเวลานั้นบังเอิญมีโอกาสไปรู้จักกับอาจารย์ท่านหนึ่งที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน ทำงานวิจัยต่างๆ ก็ขอเลือดจระเข้ไปวิจัย แล้วพบว่า เลือดจระเข้สามารถพัฒนาให้เป็นอาหารเสริมได้ แต่ต้องผ่านกระบวนการเจาะเลือด เก็บเลือด และสกัดเลือดให้เป็นแคปซูลอย่างถูกต้อง หากที่มาที่ไปของเลือดไม่ถูกต้อง นอกจากจะไม่เป็นประโยชน์แล้ว อาจจะก่อเกิดโทษได้ รวมถึงการดื่มเลือดจระเข้สดๆ ก็ไม่แนะนำเช่นกัน
สำหรับกระบวนการเลี้ยงจระเข้เพื่อจำหน่าย ก็จะเริ่มต้นจากการที่จระเข้พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ผสมพันธุ์จนออกไข่ นำไข่ไปฟัก แล้วก็ส่งไปยังลูกฟาร์ม โดยลูกฟาร์มก็จะนำไปเลี้ยงต่อ ใช้เวลาในการเลี้ยงนาน 34 ปี ถึงจะนำไปชำแหละหรือนำมาดูดเลือดได้ ส่วนจระเข้ที่อยู่ในฟาร์มรุ่งทวีชัย จะมี 2 ส่วนด้วยกัน คือ ส่วนที่ชำแหละเนื้อ และนำเลือดไปสกัดเป็นแคปซูลอาหารเสริม และส่วนที่ใช้เจาะเลือดโดยที่ไม่ต้องฆ่าจระเข้ คล้ายกับการบริจาคเลือด
ด้านการทำตลาดให้กับแคปซูลเลือดจระเข้ ก็จะทำร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยเลือดบางส่วนมาจากที่ฟาร์ม และบางส่วนมาจากการรับซื้อเลือดจากลูกฟาร์ม ส่วนการขยายลูกฟาร์มก็ทำตลาดกับฟาร์มหมู ฟาร์มไก่ในพื้นที่ใกล้เคียง ที่สนใจเลี้ยงจระเข้ในเชิงการค้า
วิสาชิณี กล่าวว่า ส่วนการเลี้ยงปลาเสือตอ ซึ่งเป็นพันธุ์ปลาหายากที่แทบหาไม่ได้ในเมืองไทยแล้ว และยังหาวิธีในการเพาะพันธุ์ปลาไม่ได้ โดยเริ่มต้นเมื่อ 11 ปีที่แล้ว จากความชอบเลี้ยงปลาและไปเจอพันธุ์ปลาเสือตอนี้จากชาวบ้าน ซึ่งบอกว่ามาจากบึงบอระเพ็ด (ปัจจุบันไม่มีแล้ว) ก็เก็บสะสมมาเรื่อยๆ ทั้งปลาเสือตอสายพันธุ์ที่พบในประเทศไทยและพบในกัมพูชา
ทั้งนี้ ความที่เป็นปลาพันธุ์หายาก เลยอยากทำการเพาะพันธุ์ จึงทำการวิจัยร่วมกับกรมประมง แต่ปัจจุบันยังไม่สามารถหาวิธีเพาะพันธุ์ได้ จึงอยากชวนผู้ที่มีความรู้ในการเพาะพันธุ์ปลาเสือตอมาร่วมแบ่งปันข้อมูล โดยในอนาคต ถ้าการเพาะพันธุ์สำเร็จ ส่วนหนึ่งก็คืนธรรมชาติ ส่วนหนึ่งก็นำมาเพาะพันธุ์เพื่อเชิงพาณิชย์
ด้านธุรกิจงูหลามและงูเหลือม เริ่มต้นจากความชอบและความบังเอิญเช่นกัน โดยบังเอิญไปเจอคนที่สะสมงูหลามและงูเหลือมที่มีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง และไม่อยากทำต่อแล้ว เลยขายงูพร้อมใบอนุญาต ซึ่งปัจจุบันไม่สามารถขอใบอนุญาตเลี้ยงได้แล้ว หากไม่ได้ขอตั้งแต่ก่อนปี 2538 โดยงูหลามและงูเหลือมจะขายหนังอย่างเดียว เพราะคนไม่นิยมรับประทานเนื้องูหลามและงูเหลือม จะนิยมรับประทานงูเห่ามากกว่า ส่วนเลือดงูหลามและงูเหลือม คนก็ไม่นิยมเช่นกัน โดยหนังงูหลามและงูเหลือมถ้าเป็นฟาร์มที่มีใบอนุญาตถูกต้อง จะเป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศมาก โดยเฉพาะตลาดยุโรป
แนวทางนับจากนี้ของรุ่งทวีชัยฟาร์ม ในส่วนของฟาร์มจระเข้ จะไม่เน้นการขายเนื้อที่ชำแหละแล้ว แต่จะเน้นเจาะเลือดโดยไม่ฆ่าจระเข้ และนำเลือดเหล่านั้นมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีความเป็นไปได้ ซึ่งเป็นผลจากงานวิจัย
นี่คือความสำเร็จของรุ่งทวีชัยฟาร์ม ที่เริ่มมาจากความชื่นชอบการเลี้ยงสัตว์ และมีการพัฒนาฟาร์มจนกลายเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ


