การค้าด่านเชียงของคึกคัก
ส่งสินค้าผ่านสะพานมิตรภาพโตฉลุยยอดใช้แพข้ามแม่น้ำหดเหตุต้นทุนสูง
ส่งสินค้าผ่านสะพานมิตรภาพโตฉลุยยอดใช้แพข้ามแม่น้ำหดเหตุต้นทุนสูง
การค้าผ่านด่านเชียงของคึกคัก หลังเปิดสะพานมิตรภาพ ขนส่งใช้แพข้ามแม่น้ำลดลง เหตุค่าใช้จ่ายสูง
นายศรชัย สร้อยหงษ์พราย นายด่านศุลกากรเชียงของ จ.เชียงราย เปิดเผยว่า การนำเข้าส่งออกผ่านด่านเชียงของ มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทยลาว แห่งที่ 4 ที่เชื่อมระหว่าง อ.เชียงของ จ.เชียงรายเมืองห้วยทราย ประเทศลาว เนื่องจากการเดินทางสะดวกมากขึ้นและประหยัดเวลา
ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา (ต.ค. 2556-ม.ค. 2557) มีมูลค่าการค้าผ่านด่านเชียงของ แบ่งเป็นการนำเข้า 978 ล้านบาท และส่งออก 4,502 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งมีมูลค่าการนำเข้า 1,228 ล้านบาท และการส่งออก 3,880 ล้านบาท
ด้านสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ พืชผักสด ผลไม้สด ดอกไม้ ไม้ประดับใบยาสูบแห้ง ซึ่งส่วนใหญ่กว่า 80% นำเข้าจากประเทศจีน ขณะที่สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ ยางพารา อัลมอนด์และแมกคาเดเมียแห้ง ผลไม้สด ดอกกล้วยไม้ โดยประเทศเป้าหมาย คือ ประเทศจีน เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวเชื่อมโยงไปยังประเทศจีนตอนใต้ ซึ่งเป็นตลาดสำคัญของไทย
ขณะเดียวกัน การเปิดสะพานแห่งนี้ยังส่งผลให้การขนส่งทางน้ำลดลงด้วย โดยก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการนิยมขนส่งสินค้าข้ามแม่น้ำโขงทางแพ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง โดยค่าข้ามแพอยู่ที่ประมาณ 1,800 บาทต่อคันรถต่อเที่ยว อีกทั้งต้องเสียเวลารอแพด้วย ดังนั้น ปัจจุบันจึงนิยมขนสินค้าข้ามสะพานเกือบทั้งหมด เพราะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 500 บาทต่อคันต่อเที่ยว และประหยัดเวลาได้ 2-3 ชั่วโมง
สำหรับจำนวนรถเข้าออกด่านเชียงของในช่วงเดือน ต.ค. 2556-ม.ค. 2557 พบว่ามีรถบรรทุกขาเข้า 7,462 คัน รถบรรทุกขาออก 7,464 คัน รถบรรทุกท่องเที่ยวขาเข้า 3,415 คัน และรถบรรทุกท่องเที่ยวขาออก 2,724 คัน
“ในด่านเชียงของมีการอำนวยความสะดวกทางการค้าอย่างดี เพราะมีการนำระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาใช้ในเกือบทุกขั้นตอน ทำให้มีปัญหาการส่งออกนำเข้าน้อย ไม่มีความแออัดหน้าด่าน” นายศรชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันต้องมีการตรวจสอบสินค้าทุกด่าน เช่น ตรวจที่ประเทศไทย ลาว และจีน แต่เมื่อการตรวจสินค้าข้ามแดนภายใต้กรอบอาเซียนมีผลบังคับใช้ในอนาคตจะยิ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการ เนื่องจากจะมีการตรวจสอบสินค้าร่วมกันเพียงครั้งเดียว
ทั้งนี้ ประเทศไทยได้ออก พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกสินค้าข้ามแดนเรื่องการตรวจสินค้าข้ามแดนแล้ว แต่ต้องรอการลงนามในพิธีสารอย่างเป็นทางการร่วมกันเพื่อให้มีผลบังคับใช้ ซึ่งในส่วนของด่านเชียงของมีการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับเรื่องดังกล่าวอย่างดี โดยจัดพื้นที่ตรวจสอบร่วมระหว่างไทยลาว และอัตรากำลังคนแล้ว


