posttoday

โฮมชอปปิ้งยกเครื่องโลจิสติกส์ชูบริการเร็วหวังโค่นทีวีไดเร็คปีหน้า

22 พฤศจิกายน 2556

ในปี 2557 โฮมช็อปปื้ง หรือการเลือกซื้อสินค้าทางทีวี จะกลายเป็นธุรกิจขายตรงอีกช่องทางหนึ่งที่มีความร้อนแรง จากการที่มีคู่แข่งรายใหม่ดาหน้าเข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเกาหลี ญี่ปุ่น ด้วยศักยภาพของตลาดที่มีมูลค่า 1.21.5 หมื่นล้านบาท และกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา จึงมีโอกาสเติบโตสูงถึง 20-30% อย่างต่อเนื่องอีกหลายปีข้างหน้านี้

ในปี 2557 โฮมช็อปปื้ง หรือการเลือกซื้อสินค้าทางทีวี จะกลายเป็นธุรกิจขายตรงอีกช่องทางหนึ่งที่มีความร้อนแรง จากการที่มีคู่แข่งรายใหม่ดาหน้าเข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเกาหลี ญี่ปุ่น ด้วยศักยภาพของตลาดที่มีมูลค่า 1.21.5 หมื่นล้านบาท และกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา จึงมีโอกาสเติบโตสูงถึง 20-30% อย่างต่อเนื่องอีกหลายปีข้างหน้านี้

จุล โชติกะวรรณ กรรมการบริหาร บริษัท พรอพเพอร์ตี้ เทคโนโลยี ผู้ให้บริการช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านระบบคอลเซ็นเตอร์ เปิดเผยว่า แผนธุรกิจปีหน้านี้ของ 1577 โฮมชอปปิ้ง มุ่งให้ความสำคัญด้านบริการ ทั้งในด้านบุคลากร การคัดสรรสินค้าที่ดีมีคุณภาพหมุนเวียน 700 รายการ และการส่งสินค้าถึงมือลูกค้าอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

ดังนั้น ปลายปีนี้บริษัทได้ทุ่มงบลงทุน 20 ล้านบาท ปรับปรุงระบบโลจิสติกส์ หรือขนส่งสินค้าใหม่ สั่งซื้อเครื่องจักรระบบสายพาน เพื่อแพ็กบรรจุภัณฑ์สินค้าได้รวดเร็ว ช่วยหย่อนระยะเวลาส่งสินค้าสู่ผู้บริโภคเร็วขึ้น 1 วัน จากปกติกรุงเทพฯ และปริมณฑลใช้เวลา 12 วัน และต่างจังหวัด 45 วัน อีกทั้งยังเพิ่มพื้นที่คลังสินค้า และย้ายสำนักงานใหม่จากวิภาวดีรังสิตมาอยู่บริเวณรามคำแหง มีพื้นที่ทั้งหมด 1.2 หมื่น ตร.ม.

ขณะที่นโยบายของบริษัท เดินหน้าทำตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและสกินแคร์จะเป็นสินค้าเรือธงในปีหน้านี้ และล่าสุดแตกไลน์สินค้าใหม่ เครื่องประดับ จิวเวลรี ซีแซด แบรนด์เอลีน่า มาทดลองทำตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้าย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ครบวงจรยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงที่ชื่นชอบการแต่งตัว อีกทั้งเป็นสินค้าที่เหมาะเป็นของขวัญช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังมาถึงนี้

สำหรับปีหน้านี้ บริษัททุ่มงบการตลาด 250 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 20% ของรายได้ และจะเริ่มบุกขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.lanlabuy.com พร้อมกับจัดกิจกรรมต่างๆ เพิ่มขึ้น การทำตลาดทางโซเชียลมีเดียผ่านบนเฟซบุ๊ก ซึ่งจะเพิ่มงบโฆษณาทางออนไลน์ในสัดส่วน 5-10% และสื่อทางเคเบิล 80-90% เพื่อทำให้แบรนด์สินค้าสามารถเข้าถึงและขยายฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งสื่อออนไลน์นับว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางของการขับเคลื่อนที่สำคัญ

“ในปีหน้านี้สมรภูมิตลาดโฮมช็อปปิ้งแข่งขันรุนแรงขึ้น จากการมีผู้เล่นในตลาดทั้งรายใหญ่และรายเล็กมากกว่า 100 ราย รวมถึงมีคู่แข่งจากญี่ปุ่นและเกาหลี จะเข้ามาเปิดตลาดในไทยและอาเซียน แต่ละค่ายต่างพาเหรดงัดกลยุทธ์ต่างๆ ออกมาช่วงชิงกำลังซื้อของผู้บริโภค ต้องจับตาความร้อนแรงตลาดนี้กันให้ดี และเตรียมรับมือกับการแข่งขัน” จุล กล่าว

จากนี้ไปตลาดโฮมช็อปปิ้งมูลค่า 1.2-1.5 หมื่นล้านบาท มีศักยภาพจะเติบโตได้อีกมาก โดยเฉลี่ย 20-30% เมื่อเปรียบเทียบแล้วยังเป็นช่องทางจำหน่ายที่น้อย คิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 1% ของธุรกิจค้าปลีกหากเทียบกับจีน โฮมช็อปปิ้งมีสัดส่วน 3.5% ก็จัดว่าเป็นตลาดที่ใหญ่มากแล้ว แต่ในอนาคตอินโดนีเซียจะกลายเป็นตลาดเนื้อหอมที่ใครๆ ก็อยากเข้าไปเปิดตลาด เพราะมีประชากรสูง 200 ล้านคน

แม้ว่าปลายปีนี้ 1577 โฮมชอปปิ้ง จะเผชิญกับปัจจัยลบ การชุมนุมขับไล่รัฐบาล ส่งผลให้พฤติกรรมการรับชมทีวีทางเคเบิลทีวีเปลี่ยนไปดูข่าวสารการเมืองเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ได้รับผลกระทบต่อยอดขายมากนัก อีกทั้งบริษัทได้จัดแคมเปญโปรโมชั่นส่งท้ายปลายปีแจกรถยนต์และทองคำ ระหว่างวันที่ 1 พ.ย.-31 ม.ค.นี้ เพื่อกระตุ้นยอดขายเติบโต 510% และมั่นใจว่ารายได้สิ้นปีนี้โต 20% หรือราว 1,400 ล้านบาท ตามเป้าหมาย

ความท้าทาย 1577 โฮมชอปปิ้ง ในปีหน้านี้คงหนีไม่พ้นสมรภูมิการแข่งขันที่ดุเดือด และการปรับขึ้นค่าสื่อโฆษณาบนเคเบิลทีวีสูงขึ้นตามเรตติ้งของแต่ละช่อง จากปีนี้มีการปรับขึ้นเป็นระลอกอยู่แล้ว แต่บริษัทยังคงวางเป้าหมายโค่นบัลลังก์ผู้นำตลาดทีวีไดเร็ค กวาดส่วนแบ่ง 20% มีรายได้แตะ 2,400 ล้านบาท และมีฐานลูกค้าโต 30% หรือเพิ่มจาก 1.2 ล้านคน เป็น 1.56 ล้านคน คงต้องจับตาดูก้าวสำคัญนี้ชนิดอย่ากะพริบตากันเลยทีเดียว

ข่าวล่าสุด

ญี่ปุ่นเตรียมเดินเครื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดของโลกอีกครั้ง หลังเหตุฟุกุชิมะ 15 ปี