มอลลี ไพรซ์ หนูน้อยเจ้าแม่ธุรกิจลูกกวาด

โดย...ลภัสรดา ภูศรี

สำหรับเด็ก 6 ขวบทั่วไป อาจใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการวิ่งเล่นสนุกสนานไปวันๆ

แต่ไม่ใช่กับ มอลลี ไพรซ์ หนูน้อยชาวอังกฤษที่ทุ่มเทเวลาหลังเลิกเรียน และในวันหยุดสุดสัปดาห์ไปกับการบริหารธุรกิจในฐานะเจ้าของร้านขนมแบรนด์ของตัวเองที่มีชื่อว่า มอลลีส์ (Mollie’s) ในเมืองโชรส์เบอรีของอังกฤษ

จริงอยู่ว่า ตามหลักกฎหมายแล้ว เด็กวัยเพียง 6 ขวบ ไม่สามารถเป็นเจ้าของธุรกิจได้ แต่ตามพฤตินัยแล้ว มอลลี คือหัวเรือใหญ่ผู้ทำหน้าที่บริหารร้านขนมของตัวเองอย่างแท้จริง โดยมี เบคกี ไพรซ์ ผู้เป็นแม่ให้ความช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ อยู่เบื้องหลังเท่านั้น

“อาจฟังดูเหลือเชื่อ แต่ลูกสาววัย 6 ขวบของฉันคนนี้ บริหารร้านในทุกขั้นตอนตั้งแต่แรกเริ่ม ทั้งออกไอเดียให้เปิดร้านขายขนมและลูกกวาดสไตล์ “พิกแอนด์มิกซ์” หรือแบบบุฟเฟต์ ที่รวบรวมเฉพาะสินค้าขึ้นชื่อจากฝั่งอังกฤษและสหรัฐ และชั่งขายตามน้ำหนัก ซึ่งสามารถสร้างจุดขายให้กับร้านได้เป็นอย่างดี ไปจนถึงลงแรงทำงานในร้านทุกวันเสาร์ ขณะที่ในทุกๆ วันอาทิตย์ มอลลีก็จะตื่นตี 5 เพื่อเดินทางไปพูดคุยกับซัพพลายเออร์ผู้จัดส่งสินค้าในเบิร์กมิงแฮมเพื่อคัดเลือกสินค้าด้วยตัวเองอีกด้วย” เบคกี ผู้เป็นแม่ เล่ากิจวัตรของลูกสาวนักธุรกิจตัวน้อย

จากความสร้างสรรค์และความทุ่มเทของมอลลีนี้เอง ผลักดันให้ร้านขนมลูกกวาดมอลลีส์ สามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว โดยในระยะเวลาเพียง 1 ปี มอลลีส์ สามารถเปิดสาขาเพิ่มเติมได้เป็นแห่งที่ 3 ในศูนย์การค้าไพรด์ ฮิลล์ ในชรูว์สบิวรี เมื่อปี 2012

และดูเหมือนว่า ยิ่งโตขึ้น มอลลีก็ยิ่งมีไอเดียธุรกิจสุดสร้างสรรค์เพิ่มขึ้น โดยไอเดียล่าสุดที่ต้องยกนิ้ว ให้ คงหนีไม่พ้นการ “ติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิ” ไว้หน้าร้าน เพื่อเช็กสภาพอากาศตามจริงเพื่อใช้กำหนดราคาการขายไอศกรีม โดยหากวันไหนที่อากาศหนาวแบบติดลบ ร้านจะขายไอศกรีมซิกเนเจอร์ในราคา ที่ถูกกว่าวันที่อากาศร้อน ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์การตลาดที่กระตุ้นยอดขายได้อย่างชาญฉลาดทีเดียว

นอกจากนี้ มอลลียังเป็นคนสั่งการให้ตกแต่งร้านด้วยหุ่นกระป๋องชุดทหารขนาดใหญ่ 2 ตัวยืนเฝ้าประตูร้านทั้งสองด้านอีกด้วย ซึ่งเจ้าตัวมองว่า จะช่วยกระตุ้นให้ร้านดูน่าสนใจกับลูกค้าทุกเพศทุกวัย

นอกจากนี้ ไม่น่าเชื่อว่าหนูน้อยวัย 6 ขวบ ยังเป็นเจ้าของไอเดียวางแผนจะนำขนมหวานจากฝั่งอเมริกามาขายในร้านให้มากขึ้น เพื่อสร้างจุดขายแปลกใหม่ ให้กับร้าน ดังเช่นในขณะนี้ที่ภายในร้านมีขนมเจลลีบีน อยู่มากกว่า 50 รสชาติทีเดียว

เช่นเดียวกับไอเดียการนำเครื่องทำสายไหมมาตั้งในร้าน พร้อมเพิ่มเซ็กชั่นสำหรับสาวกขนมเอ็มแอนด์เอ็มเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าใช้เวลาในร้าน และคุ้นเคยกับร้านมากขึ้น ก็เป็นผลจากความคิดของมอลลี ที่มองว่าเด็กๆ ทุกคนย่อมอยากใช้เวลาอยู่ภายในร้านขนมให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ และยิ่งเด็กๆ เรียกร้องอยู่นานเท่าไร คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ดูแล ก็จะได้มีโอกาสเดินดูร้านได้อย่างทั่วถึง และหลงรักร้านขนมแห่งนี้เช่นกัน

“มอลลี ไม่เคยลังเลที่จะบอกว่าไอเดียของเธออันไหนเวิร์กหรือไม่เวิร์ก และเมื่อไอเดียไหนไม่ได้ผล มอลลี ก็ไม่ถอดใจเลยแม้แต่น้อย แต่กลับไปทำการบ้านคิดหาไอเดียใหม่อยู่เสมอ จึงอาจพูดได้ว่า เคล็ดลับสำคัญที่ทำให้ร้านลูกกวาดมอลลีส์ ประสบความสำเร็จขนาดนี้ ก็เพราะความทุ่มเทของมอลลีเลยก็ว่าได้” เบคกี กล่าวอย่างภาคภูมิใจ

นับเป็นธุรกิจที่สะท้อนให้เห็นแล้วว่า แค่มีความหลงใหลและความมุ่งมั่นที่จะทำธุรกิจ “อายุ” ก็เป็นเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้น