posttoday

คนพม่าน่าคบ

19 พฤศจิกายน 2556

หากย้อนไป 5 ปีก่อนหน้านี้ “พม่า” ไม่ได้อยู่ในเรดาร์ความสนใจของคนไทยมากนัก โดยส่วนใหญ่ที่เดินทางไปพม่าเน้นทัวร์ไหว้พระ ต่างจากปัจจุบันที่เดินทางกันอย่างคึกคัก ทั้งเพื่อท่องเที่ยวและธุรกิจ

หากย้อนไป 5 ปีก่อนหน้านี้ “พม่า” ไม่ได้อยู่ในเรดาร์ความสนใจของคนไทยมากนัก โดยส่วนใหญ่ที่เดินทางไปพม่าเน้นทัวร์ไหว้พระ ต่างจากปัจจุบันที่เดินทางกันอย่างคึกคัก ทั้งเพื่อท่องเที่ยวและธุรกิจ

เช่นเดียวกับนักการทูตคนไทยที่ประจำการในพม่า ที่หัวบันไดสถานทูตแทบไม่แห้งในแต่ละวัน รับบททั้งเจ้าบ้าน (ต่างแดน) ที่ปรึกษา และเพื่อนคู่คิดของคนไทยที่อยากจะรู้จักและหาช่องทางธุรกิจในขุมทองแห่งใหม่นี้มากขึ้น

ชัยณรงค์ กีรติยุตวงศ์ อัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง เล่าว่า อยู่พม่ามาไม่ถึง 1 ปีเต็ม แต่ก็ได้ประสบการณ์หลากหลาย เพราะมาตอนที่พม่าบูมมาก แต่ละวันต้องรับคนไทยประมาณ 35 คณะ ส่วนใหญ่ต้องการเข้ามาขอคำปรึกษาเกี่ยวกับช่องทางการลงทุนในพม่า

“ผมคิดว่าเรื่องช่องทางธุรกิจคงไม่ต้องแนะนำกันมาก นักธุรกิจมองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเงินอยู่ตรงไหน แต่สิ่งสำคัญคือต้องบินมาดูตลาดเอง ไทยกับพม่าใกล้กันนิดเดียว มาได้บ่อยๆ ส่วนถ้ามีปัญหาเรื่องประสานงานกับหน่วยงานราชการ ทางสถานทูตก็พร้อมจะช่วยเหลือ”

ในมุมมองของนักการทูตคนนี้ เชื่อว่า นักธุรกิจที่จะประสบความสำเร็จในตลาดต่างแดนนั้น คือ คนที่เข้าไปในตลาดตั้งแต่คนอื่นยังไม่ไป โดยตอนแรกอาจแค่ไปเที่ยว หาเพื่อน สานความสัมพันธ์กับคนท้องถิ่นไว้ก่อน และเมื่อถึงวันที่ต้องการธุรกิจ ก็สามารถพึ่งพาเพื่อนเหล่านั้นเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ดี ซึ่งจะดีกว่าการมาหาพันธมิตรธุรกิจโดยตรงภายหลัง

เมื่อถามถึงความรู้สึกที่มีต่อคนพม่า หลังจากเข้ามาคลุกคลีอย่างใกล้ชิดเกือบ 1 ปี ชัยณรงค์บอกว่า หากเทียบกับคนชาติอื่นๆ ชาวพม่ามีลักษณะคล้ายกับคนไทยมากกว่า ทั้งเรื่องของจิตใจ ความเชื่อทางศาสนา

“คนพม่าน่ารัก น่าคบ ยิ่งเป็นคนรุ่นเก่า จะใจดี น่ารัก สุภาพเรียบร้อย คนพม่ารู้จักเกรงใจเหมือนคนไทย เวลาคบเป็นเพื่อนแล้วสนิทใจ”

ขณะที่ในมุมของการเป็นคู่ค้านั้น คนไทยส่วนใหญ่รู้สึกพอใจมีความสุขเมื่อทำธุรกิจกับคนพม่า โดยคนพม่ามีความเชื่อทางศาสนาอย่างแรงกล้า มีความซื่อสัตย์ เป็นคนระมัดระวัง ดังนั้นตอนเริ่มจะทำธุรกิจด้วย อาจจะยาก เช่น ก่อนเซ็นสัญญา คนพม่าจะพิจารณาอย่างรอบคอบ อาจใช้เวลาตัดสินใจ แต่เมื่อเซ็นสัญญาแล้ว ก็จะเคารพสัญญาอย่างเคร่งครัด

เมื่อมองไปไกลถึงการก้าวสู่ประชาคมอาเซียน ที่หลายฝ่ายอาจคิดว่า เพื่อนบ้านหลายประเทศ รวมถึงพม่า อาจกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของไทย แต่ชัยณรงค์มองมุมบวกว่า เมื่อประเทศเพื่อนบ้านเจริญมากขึ้น ก็จะมีเงินมาซื้อสินค้าของไทยที่เขาผลิตไม่ได้เช่นกัน

“อย่ากลัวเขารวย อย่ากลัวเขาเป็นคู่แข่ง อย่ากลัวเขาเจริญ แต่ต้องมองว่า เราต้องพัฒนาและโตไปด้วยกัน ความเจริญรุ่งเรืองของเพื่อนบ้าน คือ ความรุ่งเรืองของเรา”

แนวคิดโตไปด้วยกันนี้ สอดคล้องกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต ที่ภูมิศาสตร์การลงทุนจะต้องเปลี่ยนไป นักธุรกิจและนักลงทุนจะต้องเลิกมองประเทศไทยเดี่ยวๆ แต่ต้องมองให้ครอบคลุมไปทั้งภูมิภาค เช่น บางธุรกิจหรืออุตสาหกรรมที่ไม่สามารถทำในประเทศไทยได้อีกต่อไป ก็ต้องหันไปทำธุรกิจดังกล่าวในประเทศเพื่อนบ้านแทน

สุดท้าย ชัยณรงค์ฝากถึงคนที่อยากทำธุรกิจในพม่าว่า ตอนนี้การค้นหาข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับพม่าทำได้ง่าย แต่สิ่งสำคัญ คือ การเข้ามาดูตลาดจริง สร้างเครือข่ายเพื่อน เพื่อแบ่งปันข้อมูล จะได้เรียนรู้ทั้งข้อมูลเชิงบวกและลบที่อาจไม่เคยรู้ หากไม่ลงพื้นที่จริง

“ผมห่วงแต่รายเล็กที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ แต่แห่ตามคนอื่นมา ถ้าตามแห่ ก็จะเสี่ยงเยอะ”

ข่าวล่าสุด

HAAB (หาบ) มัดรวม 9 รสชาติที่สุดแห่งปี ที่ชาวโซเชียลไม่อยากมูฟออน