posttoday

ฟ้องกรรมการบริษัทลูกหนี้ไห้รับผิดส่วนตัวได้

31 ตุลาคม 2556

ฟ้องกรรมการบริษัทลูกหนี้ให้รับผิดส่วนตัวได้ปัจจุบันเจ้าหนี้ปล่อยสินเชื่อให้กับบริษัทซึ่งเป็นนิติบุคคล เมื่อนิติบุคคลเป็นหนี้แล้วไม่ยอมชำระหนี้ ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายเหตุผล เช่น มีหนี้สินล้นพ้นตัว บริหารงานผิดพลาด เก็บเงินจากลูกค้าไม่ได้ ถูกลูกค้าโกงหรือกรรมการบริษัทของลูกหนี้โกงบริษัทนำเงินออกไปนอกระบบ ไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวของตนหรือของผู้อื่น ทำให้เจ้าหนี้ที่สุจริตไม่ได้รับชำระหนี้ มีหลายท่านสอบถามมาว่าจะทำอย่างไร ถ้าปรากฏข้อเท็จจริงว่า กรรมการบริษัทลูกหนี้ทุจริตคดโกง ยักยอกทรัพย์สินของบริษัท จนทำให้บริษัทไม่มีทรัพย์สินเพียงพอที่จะนำมาชำระหนี้ได้ ทนายคลายทุกข์ขอแนะนำเทคนิคการดำเนินคดีกับกรรมการบริษัทของลูกหนี้ที่คดโกงให้รับผิดเป็นการส่วนตัว โดยขอนำเสนอเป็นรายประเด็นดังนี้

ฟ้องกรรมการบริษัทลูกหนี้ให้รับผิดส่วนตัวได้ปัจจุบันเจ้าหนี้ปล่อยสินเชื่อให้กับบริษัทซึ่งเป็นนิติบุคคล เมื่อนิติบุคคลเป็นหนี้แล้วไม่ยอมชำระหนี้ ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายเหตุผล เช่น มีหนี้สินล้นพ้นตัว บริหารงานผิดพลาด เก็บเงินจากลูกค้าไม่ได้ ถูกลูกค้าโกงหรือกรรมการบริษัทของลูกหนี้โกงบริษัทนำเงินออกไปนอกระบบ ไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวของตนหรือของผู้อื่น ทำให้เจ้าหนี้ที่สุจริตไม่ได้รับชำระหนี้ มีหลายท่านสอบถามมาว่าจะทำอย่างไร ถ้าปรากฏข้อเท็จจริงว่า กรรมการบริษัทลูกหนี้ทุจริตคดโกง ยักยอกทรัพย์สินของบริษัท จนทำให้บริษัทไม่มีทรัพย์สินเพียงพอที่จะนำมาชำระหนี้ได้ ทนายคลายทุกข์ขอแนะนำเทคนิคการดำเนินคดีกับกรรมการบริษัทของลูกหนี้ที่คดโกงให้รับผิดเป็นการส่วนตัว โดยขอนำเสนอเป็นรายประเด็นดังนี้

1.การใช้สิทธิเรียกร้องของลูกหนี้

ถ้าลูกหนี้ถูกทวงหนี้จากเจ้าหนี้และไม่มีเงินชำระหนี้ แต่ลูกหนี้เป็นเจ้าหนี้บุคคลอื่น เช่น ลูกหนี้ได้ขายสินค้าหรือรับจ้างทำงานกับบุคคลที่สาม หนี้ถึงกำหนดชำระแล้ว แต่ลูกหนี้ไม่ยอมทวงหนี้หรือเพิกเฉยไม่ฟ้องศาลเป็นคดีแพ่ง เพื่อเรียกให้ชำระหนี้ทั้งที่ตัวเองมีสิทธิเรียกร้องต่อบุคคลที่สาม การกระทำดังกล่าวของลูกหนี้ถือว่าเป็นเหตุให้เจ้าหนี้ต้องเสียประโยชน์ เพราะทำให้ทรัพย์สินของลูกหนี้เสื่อมถอยลงและไม่เพียงพอที่เจ้าหนี้จะฟ้องร้องบังคับคดีเอาจากทรัพย์สินของลูกหนี้ได้ ดังนั้น เจ้าหนี้จึงสามารถเป็นโจทก์ฟ้องบุคคลที่สามที่เป็นลูกหนี้ของลูกหนี้เดิมในนามของเจ้าหนี้แทนลูกหนี้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 233 ให้อำนาจเจ้าหนี้กระทำการดังกล่าวได้ถึงแม้เจ้าหนี้กับบุคคลที่สาม จะไม่ได้มีนิติสัมพันธ์ต่อกันก็ตาม เพราะการที่เจ้าหนี้ไปฟ้องลูกหนี้ของลูกหนี้เดิม เป็นการกระทำไปเพื่อป้องกันสิทธิของตนเองในมูลหนี้ที่เป็นหนี้ต่อกัน แต่เจ้าหนี้ถ้าจะฟ้องบุคคลที่สาม ซึ่งเป็นลูกหนี้ของลูกหนี้เดิม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 234 บัญญัติว่า เจ้าหนี้ต้องยื่นคำร้องต่อศาลให้ออกหมายเรียกลูกหนี้เข้ามาในคดีนี้ด้วย

2.กรรมการบริษัทลูกหนี้ยักยอกทรัพย์หรือคดโกงบริษัทต้องรับผิดแทนบริษัทลูกหนี้

ปัจจุบันมีบริษัทหลายบริษัทที่สั่งซื้อสินค้าหรือใช้บริการบุคคลอื่นแล้ว ไม่ยอมชำระเงินค่าสินค้าหรือบริการ แต่กรรมการบริษัทร่ำรวย เนื่องจากยักยอกทรัพย์สินหรือคดโกงทรัพย์สินของบริษัทไปใส่ชื่อส่วนตัวหรือบุคคลในครอบครัว บุคคลใกล้ชิด ตัวแทน หรือนำเงินไปลงทุนในบริษัทอื่น อันมีลักษณะเป็นการคดโกงบริษัทที่ตนเองเป็นกรรมการ ถ้ามีพยานหลักฐานชัดเจนว่ากรรมการของบริษัทได้กระทำการละเมิด คดโกงบริษัทที่ตนเองเป็นกรรมการและทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1169 บัญญัติว่าให้บริษัทฟ้องเรียกค่าเสียหายเอาจากกรรมการได้ ถ้าบริษัทไม่ฟ้องเนื่องจากกรรมการบริษัทเป็นคนคดโกงด้วยตนเองจึงไม่ฟ้องตัวเอง ผู้ถือหุ้นคนใดคนหนึ่งก็สามารถฟ้องกรรมการที่คดโกงได้ นอกจากนี้ เจ้าหนี้ของบริษัทก็สามารถฟ้องกรรมการที่คดโกงได้เช่นกัน หากบริษัทไม่ยอมฟ้องกรรมการของตนเอง การฟ้องร้องกรรมการบริษัทลูกหนี้ให้รับผิดในฐานละเมิดทำให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทลูกหนี้ ไม่ต้องเรียกบริษัทลูกหนี้เข้ามาในคดี สามารถฟ้องกรรมการบริษัทลูกหนี้ในฐานะส่วนตัวได้โดยตรง การฟ้องของเจ้าหนี้ก็ฟ้องในนามของเจ้าหนี้ได้โดยตรง และไม่ถือว่าเป็นการฟ้องแทนบริษัทลูกหนี้หรือเป็นการฟ้องเพื่อประโยชน์ของเจ้าหนี้ ดังนั้น เมื่อเจ้าหนี้ชนะคดีเงินที่ได้จากคำพิพากษาของศาลก็ตกเป็นของเจ้าหนี้ที่ฟ้องคดี ไม่ได้ตกเป็นของบริษัทลูกหนี้ หากเจ้าหนี้เห็นว่ากรรมการบริษัทลูกหนี้คดโกงก็ใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1169 วรรคสอง จัดการกับกรรมการบริษัทขี้โกงได้นะครับ

ก่อนหน้านี้เคยมีคำพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับคดีกรรมการบริษัทลูกหนี้คดโกงหรือยักยอกทรัพย์สินของบริษัทลูกหนี้ เช่น คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3771/2545, 5806/2539, 5610/2548, 950/2546 ลองไปค้นคว้าดูนะครับ เป็นประโยชน์ต่อเจ้าหนี้อย่างมากนะครับ

อ่านแล้วอาจจะไม่ค่อยเข้าใจเนื่องจากเป็นเทคนิคขั้นสูงในการทวงหนี้และบังคับชำระหนี้นะครับ ในทางปฏิบัติมีการดำเนินคดีประเภทนี้น้อยมาก เนื่องจากมีความสลับซับซ้อนและเจ้าหนี้ที่จะฟ้องคดีต้องไปจ้างนักสืบหาพยานหลักฐานให้ครบถ้วนก่อนว่ากรรมการบริษัทลูกหนี้ยักยอกหรือคดโกงทรัพย์สินของบริษัทลูกหนี้ไป เมื่อมีพยานหลักฐานครบถ้วนแล้ว จึงไปจ้างทนายความมืออาชีพดำเนินการฟ้องร้องทางแพ่ง ซึ่งต้องฟ้องร้องภายใน 1 ปี นับแต่รู้หรือควรรู้ว่ากรรมการบริษัทลูกหนี้ได้ทำความเสียหายให้กับบริษัทลูกหนี้ หรือไม่เกิน 10 ปีนับแต่วันที่กรรมการบริษัทลูกหนี้กระทำการละเมิดต่อบริษัทลูกหนี้

ตัวบทกฎหมายอ้างอิง

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 233 ถ้าลูกหนี้ขัดขืนไม่ยอมใช้สิทธิเรียกร้อง หรือเพิกเฉยเสียไม่ใช้สิทธิเรียกร้อง เป็นเหตุให้เจ้าหนี้ต้องเสียประโยชน์ไซร้ ท่านว่าเจ้าหนี้จะใช้สิทธิเรียกร้องนั้นในนามของตนเอง แทนลูกหนี้เพื่อป้องกันสิทธิของตนในมูลหนี้นั้นก็ได้ เว้นแต่ในข้อที่เป็นการของลูกหนี้ส่วนตัวโดยแท้

มาตรา 420 ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น

มาตรา 1169 ถ้ากรรมการทำให้เกิดเสียหายแก่บริษัท บริษัทจะฟ้องร้องเรียกเอาสินไหมทดแทนแก่กรรมการก็ได้ หรือในกรณีที่บริษัทไม่ยอมฟ้องร้อง ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งคนใดจะเอาคดีนั้นขึ้นว่าก็ได้อนึ่ง การเรียกร้องเช่นนี้ เจ้าหนี้ของบริษัทจะเป็นผู้เรียกบังคับก็ได้เท่าที่เจ้าหนี้ยังคงมีสิทธิเรียกร้องแก่บริษัทอยู่

ข่าวล่าสุด

ยุคทอง YouTube Podcast เดือนเดียวยอดชมบนทีวีพุ่ง 700 ล้านชั่วโมง