RAMรักษาแชมป์ราคาหุ้น
ยันไม่แตกพาร์ไม่จำเป็นเพิ่มทุนใหม่เจ้าของมักน้อยพอใจปันผล12บาท
ยันไม่แตกพาร์ไม่จำเป็นเพิ่มทุนใหม่เจ้าของมักน้อยพอใจปันผล12บาท
หุ้นโรงพยาบาลรามคำแหงแพงที่สุดใน SET เฉียด 2,000 บาท ยันไม่เปลี่ยนพาร์ ผู้ถือหุ้นเปรมปรีดิ์ปันผล
หุ้นบริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง (RAM) นับเป็นหุ้นที่มีราคาแพงที่สุดในตลาดหุ้นไทย เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา ปรับตัวขึ้นไปแตะระดับ 2,000 บาทต่อหุ้น แม้ว่าขณะนี้ราคาจะปรับตัวลดลงมาอยู่ในระดับ 1,978 บาท แต่ก็ยังทำสถิติเป็นหุ้นที่แพงที่สุดในตลาดหุ้นไทย
นายเอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง (RAM) เปิดเผยว่า บริษัทไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) ปัจจุบันอยู่ที่ 10 บาทต่อหุ้น เพราะไม่มีเหตุผลที่จะเปลี่ยนแปลง แม้ว่าสภาพคล่องการซื้อขายหุ้น RAM จะค่อนข้างต่ำ และราคาหุ้นจะสูงเกือบ 2,000 บาทต่อหุ้นก็ตาม เป็นเพราะผู้ถือหุ้นไม่มีความคิดจะขายหุ้นออกมา เพราะพอใจกับผลตอบแทนในรูปของเงินปันผล ซึ่งแต่ละปี RAM ประกาศจ่ายในอัตรา 12 บาทต่อหุ้น
“ผู้ถือหุ้นดั้งเดิมไม่มีใครคิดจะขายหุ้น ต้นทุนเขาต่ำ เพราะเป็นหุ้นที่ไม่เคยมีการเพิ่มทุนจดทะเบียนเลย จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้มูลค่าหุ้นทุกวันนี้อยู่ในระดับสูง ดังนั้น ต้นทุนของผู้ถือหุ้นดั้งเดิมก็คือตามราคาเริ่มต้นที่ราคาพาร์ 10 บาท เทียบกับราคาหุ้นปัจจุบัน เขาก็มีความสุขกับราคาหุ้น ณ ปัจจุบันกำไรเป็น 1,000%” นายเอื้อชาติ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทไม่มีแผนจะระดมทุนใดๆ เพิ่มเติม เพราะปัจจุบันหุ้น RAM มีกำไรสุทธิต่อหุ้นประมาณ 70 บาท ในจำนวนนี้ได้จัดสรรจ่ายเป็นเงินปันผล 12 บาท ยังเหลืออยู่อีกประมาณ 50 บาทต่อหุ้น เงินส่วนนี้ก็มีมากเพียงพอเพื่อนำไปใช้ในการลงทุนต่างๆ ของบริษัท และยังมีวงเงินกู้จากสถาบันการเงินพร้อมให้กู้อีกมาก
สำหรับแผนการลงทุนนั้น ทาง RAM ไม่ได้กำหนดวงเงินลงทุนในแต่ละปี ขึ้นอยู่กับโอกาสในการลงทุนที่จะมีเข้ามามากกว่า โดยให้เป็นไปตามสภาพของธุรกิจ
ล่าสุด บริษัทได้เข้าลงทุนสัดส่วน 50% มูลค่า 249 ล้านบาท ในบริษัท อาร์ พลัส แอสเซท และอีก 50% ถือหุ้นโดยบริษัท โรงพยาบาลสินแพทย์ เพื่อร่วมลงทุนประกอบกิจการโรงพยาบาลขนาด 100 เตียง บนถนนเพชรบุรี กรุงเทพฯ งบลงทุนประมาณ 700 ล้านบาท คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จและเริ่มเปิดดำเนินการในปี 2561 สาเหตุที่ต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจะเริ่มดำเนินการได้ เพราะต้องใช้เวลา 2 ปี ในการขอใบอนุญาต จึงจะสามารถก่อสร้างได้และกว่าจะสร้างเสร็จ
ปัจจุบันในกลุ่มโรงพยาบาลรามคำแหง เมื่อรวมกับบริษัทในเครือและบริษัทย่อยมีจำนวนเตียงให้บริการประมาณ 3,000 เตียง และทุก 100 เตียง ที่เพิ่มขึ้นจะต้องมีจำนวนผู้ป่วยนอก 500 คนต่อวัน
ด้านผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปีนี้ มีกำไรสุทธิ 235 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23 ล้านบาท หรือเติบโต 10% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 212 ล้านบาท ส่วนครึ่งปีนี้กำไรสุทธิ 576 ล้านบาท เติบโตถึง 45% จากที่มีกำไรสุทธิ 395 ล้านบาท ในระยะเดียวกันปีก่อน
การดำเนินธุรกิจของโรงพยาบาลรามคำแหงแตกต่างจากโรงพยาบาลขนาดใหญ่หลายแห่ง โดยเฉพาะบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ (BGH) เจ้าของโรงพยาบาล กรุงเทพฯ กลุ่มเปาโล ซึ่งใช้วิธีการเพิ่มทุนจดทะเบียน สำหรับนำเงินไปซื้อหรือสร้างธุรกิจโรงพยาบาลทั้งในต่างจังหวัดและประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อต้องการเติบโตก้าวกระโดดและรองรับการเปิดเออีซีในปี 2558 ล่าสุด ได้ใช้หุ้นเพิ่มทุนแลกกับหุ้นของโรงพยาบาลรัตนเวช โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของ จ.พิษณุโลก
นายปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ได้ซื้อหุ้น BGH จำนวน 1,520,900 หุ้น ราคาเฉลี่ย 138.80 บาทต่อหุ้น วันที่ 21 ต.ค. และวันรุ่งขึ้นซื้ออีก 663,700 หุ้น ราคาเฉลี่ย 137.81 บาท


