หมดกังวลเรื่องคราบขาวบนผนัง Skim Coat

หลายท่านอาจเคยได้ยินว่า การตกแต่งผนังด้วยปูนฉาบผิวบางสี หรือที่เรียกกันว่า “Skim Coat” นั้น ไม่เหมาะกับการใช้งานภายนอกหรือในบริเวณที่เปียกชื้น เช่น ห้องน้ำ เพราะมักเกิดคราบขาวด่าง บางท่านอาจคิดว่าเป็นความผิดพลาดของช่างฉาบ หรือเป็นเพราะวัสดุคุณภาพต่ำ แท้จริงแล้วโดยธรรมชาติของปูนซีเมนต์เมื่อโดนน้ำจะดูดซึม และทำปฏิกิริยาไฮเดรชั่น (Hydration) เกิดเป็นคราบขาวบนพื้นผิว กรณีเป็นปูนสีเทาจะดูกลมกลืน แต่สำหรับผนังปูนสีจะเห็นเป็นรอยด่างชัดเจนมาก

เราสามารถป้องกันปัญหานี้ได้โดยใช้ “น้ำยาต้านทานการดูดซึมน้ำ (Water Repellent)” เคลือบผิวหลังจากที่ปูนฉาบ Skim Coat แห้งตัว น้ำยาจะทำหน้าที่ป้องกันมิให้น้ำซึมผ่านเข้าไปในผิวปูน ทั้งยังช่วยลดการเกิดฝุ่นที่พื้นผิวได้ด้วย ทั้งนี้เราสามารถแบ่งประเภทของน้ำยาได้เป็น 2 ลักษณะ คือ

1.น้ำยาเคลือบผิวลักษณะฟิล์ม หรือที่เรียกว่า “อะครีลิกโพลีเมอร์” เป็นสารที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ เมื่อทาแล้วจะกลายเป็นฟิล์มใสมันเงาเคลือบบนพื้นผิว น้ำยาชนิดนี้มีราคาไม่แพง แต่ข้อเสียคือมีกลิ่นฉุน และหากใช้ภายนอกซึ่งต้องโดนแดดอยู่เสมอจะทำให้ฟิล์มที่เคลือบเกิดการแข็งกรอบ ล่อน หรือแตกร้าว อาจเป็นสาเหตุให้น้ำและความชื้นซึมผ่านเข้าไปสะสมในผิวปูนจนเห็นเป็นจ้ำๆ ดวงๆ หรือที่เรียกว่าอาการ “ช้ำน้ำ” ได้

2.น้ำยาเคลือบแบบซึมเข้าสู่เนื้อวัสดุ หรือที่เรียกกันว่า “ซิลิโคน” เป็นสารที่มีโมเลกุลขนาดเล็กจนสามารถซึมเข้าสู่เนื้อปูนได้ เมื่อทาแล้วพื้นผิวจะดูเป็นธรรมชาติ ไม่มันเงา ใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก น้ำยาชนิดนี้แบ่งตามชนิดของตัวทำละลายได้เป็น 2 ประเภท คือ

2.1 สูตรน้ำ (Water Base) สีใสออกเหลือง มีกลิ่นฉุนเล็กน้อย ใช้เป็นตัวทำละลาย

2.2 สูตรน้ำมัน หรือสูตรโซลเวนต์ (Solvent Base) เป็นสีขาวน้ำนม มีกลิ่นฉุนค่อนข้างมากตามประเภทของโซลเวนต์ที่ใช้ ซึ่งต้องเขย่าตัวน้ำยาให้เข้ากันให้ดีก่อนการใช้งาน

ปัจจุบันมีน้ำยาอีก 2 ประเภท ที่มีโมเลกุลขนาดเล็กเป็นพิเศษ สามารถซึมเข้าสู่ผิววัสดุได้ดียิ่งขึ้น ได้แก่

ไซล็อกเซน (Siloxane) มีขนาดโมเลกุลเล็กกว่าซิลิโคนปกติ จึงซึมเข้าสู่เนื้อวัสดุได้ดีกว่าน้ำยาทั่วๆ ไป

ไซเลน (Silane) เป็นชนิดมีโมเลกุลที่เล็กที่สุดและสามารถซึมเข้าสู่เนื้อวัสดุได้ดีที่สุด พื้นผิวหลังการเคลือบจะมีความลื่น สามารถชำระล้างฝุ่นผงที่เกาะอยู่เมื่อโดนน้ำได้

จะเห็นได้ว่า ปูนฉาบแบบ Skim Coat สามารถเลือกใช้ได้ทั้งในพื้นที่แห้งและพื้นที่เปียก ไม่ว่าจะเป็นภายในหรือภายนอก แต่สิ่งสำคัญคือ ผู้ใช้งานจะต้องเข้าใจธรรมชาติของวัสดุ รวมถึงเลือกใช้น้ำยาเคลือบผิวให้เหมาะสม เพื่อประโยชน์ใช้สอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ