ทหารไทยเล็งดูดเอสเอ็มอีจิ๋วเข้าพอร์ตปีละ5พันราย
ปักธงบุกตลาดเอสเอ็มอีรายเล็กต่ำกว่า 50 ล้านบาท ตั้งเป้ากวาดลูกค้าใหม่ปีละ 5,000 บัญชี
ปักธงบุกตลาดเอสเอ็มอีรายเล็กต่ำกว่า 50 ล้านบาท ตั้งเป้ากวาดลูกค้าใหม่ปีละ 5,000 บัญชี
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย เปิดเผยว่า กลยุทธ์การเติบโตสินเชื่อของธนาคารในปีหน้าจะให้น้ำหนักไปที่กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีที่มียอดขายต่ำกว่า 50 ล้านบาท ลงมาต่อเนื่องจากปีนี้
“สินเชื่อกลุ่มนี้ยังไม่มีคู่แข่งเข้ามาทำมากนักเพราะวงเงินเฉลี่ยต่อรายไม่สูงอยู่ที่ 5 ล้านบาท และส่วนใหญ่จะเป็นบุคคลมากกว่านิติบุคคล หากได้ฐานไม่กว้างพอก็มีความเสี่ยงจะไม่คุ้มทุน แต่ที่ผ่านมาเท่าที่เราดูการเดินบัญชีก็พบว่าคุณภาพหนี้ของลูกค้าไม่มีปัญหา นอกจากนี้ยังช่วยให้ส่วนต่างดอกเบี้ยขยับขึ้นมาเป็น 3.7%” นายบุญทักษ์ กล่าว
นายบุญทักษ์ กล่าวว่า กลยุทธ์การดึงลูกค้ากลุ่มนี้ของธนาคารจะทำผ่านผลิตภัณฑ์บัญชีธุรกิจ one bank one account ซึ่งมีจุดแข็งในด้านธุรกรรมสำหรับธุรกิจ เช่น ลูกค้าสามารถฝากถอนเงินสดที่สาขาใดก็ได้ รวมทั้งยังสามารถโอนเงินไปยังบัญชีของธนาคารทหารไทยได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมข้ามเขต จากการคำนวณแล้วพบว่าจะช่วยประหยัดต้นทุนให้กับธุรกิจขนาดเล็กได้ไม่ต่ำกว่า 1-2 แสนบาทต่อปี
ขณะเดียวกันธนาคารยังมีการพัฒนาศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์สำหรับธุรกิจเอสเอ็มสเอ็มอีขึ้น โดยมีทีมงานที่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการสัมพันธ์คอยช่วยเหลือลูกค้าปัจจุบัน เช่น การขอวงเงินเพิ่ม การให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ราว 5060 คน ซึ่งเมื่อรวมกับจุดแข็งด้านค่าธรรมเนียมของผลิตภัณฑ์ ทำให้อัตราการย้ายออกไปอยู่กับคู่แข่งของลูกค้าลดลงมาอยู่ที่ 0.7% จากที่เคยสูงถึง 5%
“เป้าหมายของเราคืออยากได้ลูกค้าเอสเอ็มอีรายใหม่เข้ามาปีละ 5,000 ราย ซึ่งถ้าเป็นไปตามนี้ภายใน 3-4 ปี สัดส่วนของสินเชื่อเอสเอ็มอีในพอร์ตรวมจะขยับขึ้นมาเป็น 50% สินเชื่อรายใหญ่จะเหลือ 30% และรายย่อย 20% จากปัจจุบันที่รายย่อยยังมีสัดส่วนราว 50%” นายบุญทักษ์ กล่าว
นายบุญทักษ์ กล่าวว่า ธนาคารมิตซูโฮ ได้ชี้แจงผ่านทางเว็บไซต์ เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ว่าไม่สนใจจะเข้าซื้อหุ้นของธนาคาร จากที่มีข่าวลือก่อนหน้านี้


