ใช้พรีเซ็นเตอร์ปั้นแบรนด์ยุคโซเชียลมีเดียมาแรง
จากความนิยมของการใช้สมาร์ทโฟนที่มาก ส่งผลให้โลกของสื่อโซเชียลเข้าถึงได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส สิ่งดังกล่าวทำให้ผู้บริโภคสามารถสื่อสารกันได้ง่าย รวดเร็ว และเข้าถึงสิ่งที่ตัวเองสนใจได้ทันท่วงที หนึ่งในนั้นก็คือดาราหรือพรีเซนเตอร์ที่ชื่นชอบ
จากความนิยมของการใช้สมาร์ทโฟนที่มาก ส่งผลให้โลกของสื่อโซเชียลเข้าถึงได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส สิ่งดังกล่าวทำให้ผู้บริโภคสามารถสื่อสารกันได้ง่าย รวดเร็ว และเข้าถึงสิ่งที่ตัวเองสนใจได้ทันท่วงที หนึ่งในนั้นก็คือดาราหรือพรีเซนเตอร์ที่ชื่นชอบ
ช่องทางสื่อที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงตัวดาราได้ง่ายในโลกดิจิตอลยุคปัจจุบัน คงจะหนีไม่พ้นอินสตาแกรม และเฟซบุ๊ก สังเกตได้จากการติดตาม กดไลค์ และแชร์ที่มีเป็นจำนวนมาก จากปัจจัยดังกล่าวจึงทำให้นักโฆษณาปฏิเสธไม่ได้ว่า ดารายังคงเป็นกลยุทธ์ยอดนิยมในงานโฆษณา เพื่อให้เป็นกระแส ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ชั่วข้ามคืน
สุบรรณ โค้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายความคิดสร้างสรรค์ บริษัท เดนท์สุ พลัส เปิดเผยว่า จากผลการตอบรับที่ดีจากการใช้ดาราเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าเริ่มเห็นแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ช่วง 34 ปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มว่าจะใช้เพิ่มขึ้นต่อไป ภายหลังพบว่าได้รับความนิยมในเวลาแค่ข้ามคืน แต่ความนิยมจะอยู่ได้นานแค่ไหน คงต้องวัดผลที่คอนเทนต์ของตัวโฆษณาชิ้นนั้นๆ หากมีการผลิตผลงานที่ดี ไอเดียดี
ผลการตอบรับที่ดีดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ประกอบการสินค้าเริ่มหันมาสื่อช่องทางโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม ผลิตผลงานโฆษณาแฝงผ่านดารามากขึ้น เพราะช่องทางดังกล่าวสามารถเข้าถึงตัวผู้บริโภคได้โดยตรง
แม้ว่าดาราจะช่วยสร้างแบรนด์สินค้าให้เป็นที่รู้จักได้เพียงข้ามคืน แต่ขณะเดียวกันการใช้ดาราเป็นพรีเซนเตอร์ก็มีข้อควรระวังในการใช้ เพราะถ้าหากดาราคนที่ใช้เป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าหลายตัว ผู้บริโภคอาจเกิดความสับสนในแบรนด์สินค้า ซึ่งแบรนด์สินค้าที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดคงจะหนีไม่พ้นสินค้าแบรนด์เล็ก เพราะถ้าหากคอนเทนต์ไม่มีจุดเด่นมากพอ อาจถูกกลบโดยสินค้าแบรนด์ใหญ่ได้
สุบรรณ กล่าวอีกว่า การใช้ดาราเป็นพรีเซนเตอร์ไม่ผิด แต่การทำชิ้นงานโฆษณาที่มีพรีเซนเตอร์ต้องเริ่มต้นวางแผนตั้งแต่การวางโจทย์ว่าจะใช้พรีเซนเตอร์สื่อสารผลงานโฆษณาออกมาอย่างไร และสื่อสารมาด้วยความจริงใจ ไม่โกหก เพื่อให้ผู้บริโภคมีความเชื่อในสินค้าแบรนด์นั้น
จุดเสี่ยงของการใช้ดาราเป็นพรีเซนเตอร์แบรนด์สินค้าอีกหนึ่งปัจจัย คือ การมีปัญหาด้านชื่อเสียงของดาราที่ใช้ เพราะจากกระแสความแรงของโซเชียลมีเดีย ทำให้กระแสข่าวต่างๆ เกิดขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งในส่วนของประเทศจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาถือว่ายังไม่รุนแรงมาก เพราะคนไทยมีนิสัยอะลุ่มอล่วย ขณะที่ต่างประเทศจะทำการถอดดาราที่เป็นพรีเซนเตอร์ทันทีหากมีปัญหาเรื่องเสียหาย
อย่างไรก็ตาม เวลานี้คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าเทรนด์ดิจิตอลมาแรง ซึ่งจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้นักโฆษณาต้องมีไอเดียที่สดใหม่อยู่เสมอ เพราะปัจจุบันช่องทางสื่อไม่ใช่มีแค่สื่อแมสมีเดียอย่างเดียว แต่มีช่องทางสื่อในโลกออนไลน์เข้ามาเสริมด้วย
ดังนั้น การผลิตชิ้นงานโฆษณาต้องมีความหลากหลาย เพราะตอนนี้มีปัจจัยเรื่องไลค์ และแชร์ในโลกโซเชียลมีเดียที่ผู้บริโภคจะเป็นผู้กำหนดเทรนด์ ซึ่งถือว่าแตกต่างไปจากก่อนหน้านี้ที่โฆษณาอาจเป็นผู้กำหนดทิศทางสร้างกระแสในสังคม
จากกระแสของโลกโซเชียลมีเดียที่มาแรง ส่งผลให้เริ่มเกิดคนดังในโลกออนไลน์ จนนักโฆษณาต้องหันกลับมามองกระแสความนิยมที่เกิดขึ้นสังคมของโลกออนไลน์ และหันมาสร้างคุณค่าของแบรนด์สินค้ามากขึ้น เพื่อให้แบรนด์อยู่ในใจผู้บริโภคได้นาน
รติ พันธุ์ทวี ผู้อำนวยการบริหารประจำสำนักงานกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น กล่าวว่า การทำโฆษณาในปัจจุบันอาจจะเน้นไปที่การสร้างแบรนด์สินค้า แต่ท้ายที่สุดแล้วการทำธุรกิจก็คือ ความต้องการขายของ ซึ่งสื่อหลักที่เจ้าของสินค้ายังคงใช้เป็นช่องทางหลักในการโฆษณายังคงเป็นแมสมีเดีย จะเห็นได้ว่าฟรีทีวีช่องหลักยังคงมีการขึ้นราคาโฆษณากันอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีช่องทางใหม่ๆ เข้ามาเป็นตัวช่วยให้นักโฆษณาและเจ้าของสินค้าโชว์ผลงานโฆษณาได้มากขึ้น แต่จากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจ บวกกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัว ส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาในปีนี้ทรุดตัวจากปีที่ผ่านมาค่อนข้างมาก
อ่อนอุษา ลำเลียงพล นายกสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาในปีนี้ คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตไม่เกิน 23% เพราะกำลังซื้อผู้บริโภคชะลอตัว ซึ่งเริ่มส่งสัญญาณให้เห็นตั้งแต่ต้นปี จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณา 3 ไตรมาสที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตเพียง 1.28% เท่านั้น
อัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมโฆษณาที่ลดลงอย่างน่าใจหาย ส่งผลให้นักโฆษณาเริ่มขบคิดว่า ตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขที่แท้จริงหรือไม่ เพราะตัวเลขที่โชว์เป็นเพียงช่องทางสื่อที่มองเห็น ยังเหลืออีกหลายสื่อที่ยังเป็นหลุมดำให้ต้องพิสูจน์ตัวเลขกันต่อไป


