"จันทร์สว่าง" งัด 5 กลยุทธ์ รุกหนักเวชสำอางสมุนไพร
ผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาทำให้ผลิตภัณฑ์สินค้าความงามได้รับผลกระทบเช่นกัน
โดย...โชคชัย สีนิลแท้
ผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาทำให้ผลิตภัณฑ์สินค้าความงามได้รับผลกระทบเช่นกัน เพราะหากไม่ปรับตัวยอดขายอาจจะไม่ได้ตามเป้าที่วางไว้ เวลานี้จึงเห็นผู้ประกอบการแทบทุกรายออกมาจัดกิจกรรมการตลาดกันอย่างหนักหน่วง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวสินค้าใหม่ การใช้สื่อโฆษณาที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการให้ส่วนลดเพิ่มขึ้น
กัญชร จันทร์สว่าง ประธาน บริษัท จันทร์สว่าง เฮิร์บเบิล ไลน์ ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางสมุนไพรแบรนด์จันทร์สว่าง ย้ำว่า ธุรกิจสินค้าเวชสำอางสมุนไพรได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาเช่นกัน โดยลูกค้าชะลอในการเข้าใช้บริการในศูนย์แฟรนไชส์ลงจากเดิมเฉลี่ยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เหลือเพียงสัปดาห์ละครั้ง ทำให้บริษัทจะต้องเร่งเพิ่มกลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ๆ เพิ่มขึ้น
“เริ่มจากการจัดโปรโมชันลดแลกแจกแถมให้ส่วนลด 2 ครั้งต่อเดือน หรือเพิ่มขึ้น 10% จากเดิมที่ให้ส่วนลดเดือนละ 1 ครั้ง ถือเป็นการให้ส่วนลดเพิ่ม 2 เด้ง คาดว่าจะทำถึงสิ้นปีนี้ ขณะที่บริษัทแม่จะต้องออกพื้นที่มากขึ้น เพื่อเยี่ยมผู้บริหารศูนย์แฟรนไชส์มากขึ้นจากเดิมที่ไปพบปะ 3 เดือนครั้ง ก็จะถี่ขึ้นเป็น 2 เดือนครั้ง หรือ 1 เดือนครั้ง เพื่อรับทราบถึงปัญหาของศูนย์แฟรนไชส์แต่ละแห่งด้วย” กัญชร กล่าว
พร้อมกันนี้ยังเริ่มวาง 5 กลยุทธ์หลัก เพื่อผลักดันให้ยอดขายเป็นไปตามเป้า 600 ล้านบาท จากช่วง 8 เดือนของปีนี้ มียอดขายแล้วกว่า 400 ล้านบาท ได้แก่ การปรับปรุงสินค้าเก่าและเพิ่มสินค้าใหม่ อาทิ กลุ่มสิว ฝ้า ผลิตภัณฑ์ เอจ ล็อค รีนิววัล สกิน ซีรั่ม, เอจ ล็อค รีนิววัล สกิน โลชั่น และเอจ ล็อค รีนิว สกิน ครีม รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพ โดยจะเปิดตัวสินค้าใหม่อีกไม่ต่ำกว่า 10 รายการ
ขณะเดียวกันยังเน้นการพัฒนาศูนย์จำหน่ายเก่าและเพิ่มศูนย์ใหม่ การตกแต่งหน้าร้านให้มีเอกภาพเหมือนกันทุกศูนย์ ซึ่งตั้งเป้าว่าปีนี้จะเปิดศูนย์แห่งใหม่เพิ่มขึ้นให้ได้อีก 100 แห่ง จากปัจจุบันมีศูนย์ที่เปิดให้บริการแล้ว 500 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงการพัฒนาช่องทางการทำโฆษณาและประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสื่อโทรทัศน์ วิทยุ สิ่งพิมพ์ การทำตลาด ณ จุดขาย รวมไปถึงช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์กเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น โดยเพิ่มงบการตลาดโดยรวมจากปีก่อนอยู่ที่ 10% ในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 15%
ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมการท่องเที่ยวต่างประเทศหากบรรดาผู้บริหารศูนย์แฟรนไชส์สร้างยอดขายได้ตาม โดยในเดือนต.ค.ปีนี้จะเดินทางไปยังประเทศเมียนมาร์ รวมไปถึงการจัดทำมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์ ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โดยมุ่งเป้าคว้ารางวัลสุดยอดมาตรฐานแฟรนไชส์แห่งชาติ ให้ได้ในอนาคต” กัญชรกล่าว
นอกจากนี้ ยังเน้นการฝึกอบรมผู้บริหารศูนย์ความงามใหม่มีความรู้ทางด้านความงามและการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเน้นพัฒนาตลาดต่างประเทศ โดยจันทร์สว่างเตรียมรุกหนักประเทศในอาเซียน 10 ประเทศ จากก่อนหน้านี้ได้ประสบความสำเร็จมีศูนย์จำหน่ายในเยอรมนี และมีตัวแทนจำหน่ายในอังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ กัมพูชา จีนตอนใต้ และพม่า เป็นต้น
“ตลาดต่างประเทศนั้นสร้างยอดขายอยู่ประมาณ 20% จากยอดขายรวม แต่ในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 25% และตั้งเป้าว่าภายใน 34 ปีข้างหน้าสัดส่วนยอดขายจากตลาดต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 3040%” กัญชร กล่าว
จะเห็นได้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาธุรกิจความสวยความงามไม่เคยได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจตกต่ำ แต่ในปีนี้ถือเป็นปีแรกที่บรรดาผู้ประกอบการในธุรกิจนี้ต่างต้องงัดสารพัดกลยุทธ์กันยกใหญ่ เพื่อผลักดันให้ยอดขายเป็นไปตามเป้าที่วางไว้


