ประกันภัยเจอควบรวมแน่
กูรูแจงต้องเพิ่มทุนรับการแข่งขันเออีซีฟันธงแนวโน้มธุรกิจเหลือน้อยราย
กูรูแจงต้องเพิ่มทุนรับการแข่งขันเออีซีฟันธงแนวโน้มธุรกิจเหลือน้อยราย
คาดธุรกิจประกันภัยเตรียมเติมทุนรองรับเออีซี ด้วยการควบรวมกิจการกันไม่เกิน 10 ปีเหลือน้อย
นายกี่เดช อนันต์ศิริประภา ที่ปรึกษาคณะกรรมการประกันภัยทางทะเล สมาคมประกันวินาศภัย เปิดเผยว่า แนวโน้มการเพิ่มทุนของธุรกิจประกันภัยจะมีมากขึ้น ด้วยการควบรวมกิจการ เพื่อเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง รองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเชียน (เออีซี) และสู้กันทางการตลาดกับบริษัทขนาดใหญ่ในประเทศที่มีประมาณ 10 บริษัท แต่ครองส่วนแบ่งการตลาดถึง 70% ของเบี้ยทั้งระบบ เทียบกับเมื่อ 10 ปีก่อนที่ 10 บริษัท มีส่วนแบ่งการตลาดเพียง 30% เท่านั้น
ทั้งนี้ ในปัจจุบันประเทศไทยมีบริษัทประกันภัยประมาณ 62 แห่ง ซึ่งถือว่ามีจำนวนที่มากเกินไป ประกอบกับการเข้าสู่เออีซี ถ้าบริษัทเล็กๆ เหล่านี้ไม่พัฒนาให้มีความแกร่งมากพอก็จะอยู่ยากมากขึ้น ที่สำคัญต่างประเทศให้ความสำคัญต่อประเทศไทยมากในการขยายตลาด เพราะยังมีช่องว่างอยู่อีกมาก
“การควบรวมของบริษัทขนาดเล็กและกลางเป็นเรื่องปกติ เพื่อให้ศักยภาพในการสู้ศึกทางการตลาดในอนาคตจำนวนบริษัทจะลดต่ำกว่า 62 บริษัทแน่นอน” นายกี่เดช กล่าว
นายกี่เดช กล่าวว่า ขนาดธุรกิจประกันไทยในปัจจุบันมีมูลค่าสูงถึง 2 แสนล้านบาท และจะมีการปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปีต่อๆ ไป ธุรกิจประกันภัยจึงต้องเพิ่มฐานเงินทุนเพื่อสร้างความแข็งแกร่งต่อเนื่อง เม็ดเงินการลงทุนของธุรกิจประกันภัยภายในประเทศจะยังอยู่ในระดับที่สูง แม้ว่าแนวโน้มธุรกิจประกันภัยในอนาคตจะเหลือน้อยลงจากการถูกการควบรวม
สำหรับช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าธุรกิจประกันภัยจะยังคงเติบโตต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจไทย แม้ช่วงครึ่งปีแรกเศรษฐกิจไทยจะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก็ตาม แต่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในระดับดีอยู่ โดยเฉพาะโครงการ 2 ล้านล้านบาท หากได้รับการอนุมัติให้เริ่มดำเนินการได้ ก็เชื่อว่าจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตขึ้น ภาคธุรกิจประกันภัยก็จะเติบโตตามไปด้วย


