ร้านไอทีพร้อมรุกเปิดสาขาพม่า-ลาว
สินค้าไอทีกลายมาเป็นหนึ่งในสินค้าที่มีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันของทุกคนในปัจจุบัน
โดย...ปรียนิจ กุลตั้งเจริญ
สินค้าไอทีกลายมาเป็นหนึ่งในสินค้าที่มีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันของทุกคนในปัจจุบัน โดยเฉพาะในตลาดอาเซียนที่ถือเป็นตลาดเกิดใหม่สำหรับสินค้าในประเภทนี้ จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการที่จะนำสินค้าเข้าไปเจาะตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น
สุระ คณิตทวีกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คอมเซเว่น อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้ดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีกไอที ภายใต้ชื่อ บานาน่า ไอที (banana IT), ไอสตูดิโอบายคอมเซเว่น (iStudio by comseven) ฯลฯ ฉายภาพว่า สำหรับบริษัทไอที ประเทศไทยถือเป็นศูนย์กลางของแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก สินค้าเกือบทุกยี่ห้อมีตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยอยู่แล้ว การทำตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียนจึงมุ่งเน้นไปที่ประเทศในกลุ่มอินโดจีน หรือพม่า ลาว กัมพูชา เพราะเป็นกลุ่มประเทศที่คุ้นเคยอยู่แล้ว เดินทางไปง่ายและสะดวก เพราะมีสำนักงานภูมิภาคอยู่ในประเทศไทย
สำหรับบริษัท คอมเซเว่นฯ ประเทศเป้าหมายที่จะออกไปลงทุนประเทศแรก คือ พม่า โดยจะเปิดร้านแอปเปิล ภายในเดือน ก.ย.ปีนี้ และภายในเดือน พ.ย. จะเปิดร้านบานาน่า ไอที ที่เมืองย่างกุ้ง ขณะเดียวกันจะเข้าไปในตลาดประเทศลาว มีแผนจะเปิดร้านแอปเปิลในเดือน พ.ย. 2556 เช่นเดียวกัน ที่นครหลวงเวียงจันทน์
จากการเข้าไปสำรวจตลาด พบว่า ตลาดพม่ามีความใกล้เคียงกับตลาดในประเทศไทย โอกาสที่สินค้าไอทีจะเติบโตมีสูง เพราะเป็นตลาดใหญ่ ความต้องการเทคโนโลยีประเภทโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟนแท็บเล็ตมีโอกาสเติบโตสูง โดยเฉพาะในยุคโซเชียลมีเดีย ที่คนทั่วไปมักจะมีอุปกรณ์ไอทีติดตัวอย่างน้อย 1 เครื่อง
ปัจจุบันตลาดพม่ามีร้านค้าสินค้าไอทีในย่างกุ้งมากถึง 100-200 ราย ถือว่าตลาดนี้มีการแข่งขันสูง แต่สินค้าที่จำหน่ายส่วนใหญ่ ผู้ขายจะนำเข้ามาเอง ยังไม่มีร้านค้าที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากบริษัทแม่ ทำให้ไม่มีบริการหลังการขาย จึงเป็นโอกาสของตัวแทนจำหน่ายจากประเทศไทยที่จะเข้าไปสร้างตลาดและให้บริการที่แตกต่าง
ขณะเดียวกัน จำนวนร้านค้าสินค้าไอทีที่มีจำนวนมาก ก็สะท้อนถึงความต้องการสินค้าที่มีสูงเช่นเดียวกัน ซึ่งสินค้าที่วางจำหน่ายในตลาดมีทั้งสินค้ารุ่นใหม่ๆ หลากหลายรุ่น รวมถึงสินค้าระดับไฮเอนด์ที่มีราคาสูง จึงพูดได้ว่า ตลาดพม่ามีกำลังซื้อพอๆ กับเมืองไทย
อย่างไรก็ตาม สินค้าที่วางจำหน่ายในพม่าตอนนี้ยังมีข้อเสียเปรียบเรื่องภาษาท้องถิ่น เพราะพ่อค้านำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาจำหน่าย แต่หากบริษัทเข้าไปทำตลาดแบบถูกต้องอย่างเป็นทางการจะสามารถติดต่อกับผู้ค้าท้องถิ่นให้ทำอุปกรณ์เป็นภาษาท้องถิ่นได้ เช่น คีย์บอร์ด เป็นต้น ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการสร้างความแตกต่างจากผู้ค้าท้องถิ่นที่มีอยู่ในตลาด
นอกจากนี้ พม่ายังมีอุปสรรคในเรื่องการซื้อซิมการ์ด ที่มีราคาแพง เพราะมีผู้ดำเนินการอยู่เพียงรายเดียว หากในอนาคตตลาดขยายตัวมีบริษัทเข้ามาแข่งขันมากขึ้น เชื่อว่าราคาซิมการ์ดจะถูกลง ทำให้โอกาสที่คนจะเข้าถึงการใช้ได้มากขึ้น และอุปกรณ์ไอทีจะขายได้ดีขึ้น
ด้านตลาดลาวกำลังซื้อค่อนข้างสูง คนลาวใช้สินค้าเหมือนคนไทย รวมทั้งยังมีชาวต่างชาติอยู่ในเมืองลาวค่อนข้างมาก เพราะลาวเปิดประเทศมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว แม้ว่าจะไม่ใช่ตลาดที่ใหญ่มาก และมีการแข่งขันสูง แต่เชื่อว่าจะสามารถเข้าไปทำตลาดได้ไม่ยาก
สำหรับเป้าหมายการทำตลาดในอาเซียน เชื่อว่าในปีแรกคงต้องทำงานหนักและใช้เวลาปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมของประเทศนั้นๆ ซึ่งส่วนหนึ่งมีพันธมิตรท้องถิ่นร่วมทำงานอยู่ จึงน่าจะช่วยได้อีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ คาดว่าในปีแรกไม่น่าจะทำกำไรได้มาก แต่หลังจากนั้นน่าจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหากตลาดกรุงย่างกุ้งมีการตอบรับดี ก็จะมีการขยายสาขาออกไปยังเมืองอื่นๆ เช่น มัณฑะเลย์และเนย์ปิดอว์ รวมถึงในอนาคตบริษัทยังอาจจะขยายเครือข่ายต่อยอดไปในธุรกิจอื่นๆ เช่น ธุรกิจสื่อ เครื่องใช้ไฟฟ้า ด้วย
สุระ ย้ำว่า การออกไปขยายตลาดในประเทศอาเซียนครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะตลาดในประเทศไทยอิ่มตัว แต่ต้องการส่งสินค้าที่บริษัทมีความถนัดเข้าไปจำหน่ายเพื่อสร้างตลาด สร้างเครือข่าย เพื่อในอนาคตอาจต่อยอดขยายธุรกิจออกไปได้มากขึ้น


