posttoday

3P 5C สูตรลับของสินเชื่อ

15 สิงหาคม 2556

ปัจจุบันอัตราการจดทะเบียนธุรกิจมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจากข้อมูลของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) พบว่าในเดือน เม.ย. 2556 มียอดจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่จำนวน 4,781 ราย ขยายตัวจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 18% โดยประเภทกิจการที่จัดตั้งสูงสุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ ก่อสร้างอาคารทั่วไป บริการนันทนาการ และอสังหาริมทรัพย์

ปัจจุบันอัตราการจดทะเบียนธุรกิจมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจากข้อมูลของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) พบว่าในเดือน เม.ย. 2556 มียอดจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่จำนวน 4,781 ราย ขยายตัวจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 18% โดยประเภทกิจการที่จัดตั้งสูงสุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ ก่อสร้างอาคารทั่วไป บริการนันทนาการ และอสังหาริมทรัพย์

นับว่าเป็นผลดีของเศรษฐกิจไทยนะครับ เพราะว่าผู้ประกอบการ SME ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย และจากจำนวนธุรกิจที่เพิ่มขึ้น ย่อมสะท้อนถึงเม็ดเงินลงทุนที่เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งการหาแหล่งเงินทุนของธุรกิจก็สามารถหาได้จากหลายแหล่ง เช่น เงินทุนส่วนตัว เงินทุนจากหุ้นส่วน และเงินทุนจากการกู้ยืม ซึ่งในวันนี้เราจะมาดูกันว่าการพิจารณาให้สินเชื่อนั้น ธนาคารจะดูจากอะไรกันบ้าง

อันดับแรก มาดูกันว่าคุณสมบัติที่ธนาคารใช้ในการพิจารณา ประกอบด้วย 3P คือ

1.Propose คือ วัตถุประสงค์ในการกู้ยืม ซึ่งลูกค้าต้องมีวัตถุประสงค์ในการใช้เงินที่ชัดเจน และการขอการสนับสนุนต้องตรงกับความต้องการในการใช้เงินของลูกค้า เพื่อให้ธนาคารสามารถจัดสรรวงเงินที่เหมาะสมได้ เช่น ต้องการกู้เพื่อขยายกิจการ ควรขอใช้วงเงินกู้ (Loan) หรือถ้าต้องการกู้เพื่อหมุนเวียนในธุรกิจ ควรขอใช้วงเงินกู้เบิกเกินบัญชี (OD) เป็นต้น

2.Payment คือ ต้องแสดงให้ธนาคารเห็นถึงการจ่ายชำระหนี้คืนให้กับธนาคาร โดยธนาคารจะพิจารณาแหล่งที่มาของรายได้ ค่าใช้จ่าย และประวัติด้านการเงิน เพื่อนำมาพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า

3.Protection คือ การป้องกันความเสี่ยงของธุรกิจ ต้องแสดงให้ธนาคารเห็นถึงความเสี่ยงของธุรกิจเรามีอะไรบ้าง และเรามีแผนในการป้องกันความเสี่ยงนั้นๆ ได้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็น Emergency Plan ตัวผู้บริหารที่มีความสามารถในการบริหารจัดการ และหลักประกัน

ทั้ง 3 ส่วนนับว่าเป็นการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ประกอบการที่มาขอสินเชื่อในเบื้องต้นเท่านั้น แต่การวิเคราะห์การให้วงเงินสินเชื่อนั้น ธนาคารมีการวิเคราะห์ด้วยหลักการ 5C ดังนี้

1.Character พิจารณาคุณลักษณะของธุรกิจ ตั้งแต่ลักษณะธุรกิจเป็นอย่างไร การดำเนินกิจการมานานแค่ไหน อายุของผู้กู้ และประวัติทางการเงิน เป็นต้น

2.Capacity พิจารณาศักยภาพของผู้ประกอบการในการบริหารจัดการธุรกิจ ทั้งในด้านของยอดขาย ค่าใช้จ่าย กระแสเงินสด และความสามารถในการชำระหนี้

3.Capital พิจารณาในส่วนของทุนของธุรกิจ เช่น ส่วนของผู้ถือหุ้น กำไรสะสม เป็นต้น

4.Collateral พิจารณาจากหลักประกัน ซึ่งหลักประกันสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ หลักประกันที่เป็นทรัพย์สิน และหลักประกันที่เป็นบุคคล

5.Conditions พิจารณาเงื่อนไขในการให้สินเชื่อ เช่น เงื่อนไขการใช้วงเงิน และเงื่อนไขอัตราส่วนทางการเงิน เป็นต้น

การทำธุรกิจเงินทุนเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จเท่านั้น แต่ความสำคัญอยู่ที่ตัวของผู้ประกอบการทุกท่าน ที่จะสามารถบริหารจัดการธุรกิจ และบริหารจัดการเงินทุนที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากที่สุด ธนาคารกสิกรไทยยินดีให้การสนับสนุนแก่ทุกธุรกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนครับ

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด ซันเดอร์แลนด์ พบ นิวคาสเซิ่ล พรีเมียร์ลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68