บีเอชเอ็ม บุกขยายธุรกิจบริหารบูติกโฮเต็ลเมืองจีน
โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์
โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์
โรงแรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ หรือบูติกโฮเต็ล เป็นรูปแบบโรงแรมที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวต้องการสรรหาสิ่งแปลกใหม่มากขึ้น เบื่อการพักโรงแรม 45 ดาวเครือระดับนานาชาติที่มีรูปแบบเหมือนๆ กันเกือบหมดทุกแห่ง ทำให้ธุรกิจบูติกโฮเต็ลมีแนวโน้มเติบโตมาก ธุรกิจรับบริหารบูติกโฮเต็ลก็เติบโตมากเช่นกัน
แอนโทนี่ แม็คโดนัลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บูติค ฮอสพิทัลลิตี้ แมเนจเม้นท์ เอเชีย (บีเอชเอ็ม) ผู้ดำเนินธุรกิจบริหารโรงแรม เปิดเผยว่า มีแผนขยายธุรกิจไปยังจีน โดยเพิ่งเซ็นสัญญากับพันธมิตรในจีน ทำโครงการโรงแรม 4 โครงการ ใช้แบรนด์โรงแรมของบีเอชเอ็ม ได้แก่ ครอสทู และอะเวย์ แต่เน้นที่ครอสทู เพราะเป็นแบรนด์ที่คนรู้จักมากกว่า
สาเหตุที่ขยายตลาดจีน เนื่องจากมองว่าเป็นตลาดเติบโตสูง จากการที่คนจีนเที่ยวในประเทศมาก คนจีนบางส่วนที่เคยมาเที่ยวไทยชื่นชอบโรงแรมบูติกโฮเต็ล แต่ในจีนยังไม่มีโรงแรมประเภทนี้ ส่วนใหญ่เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ 400-500 ห้อง จึงมองว่ามีโอกาสทำได้ อีกทั้งการเปิดตลาดจีนจะทำให้มีนักลงทุนสนใจเป็นพันธมิตรให้บริษัทไปบริหารโรงแรมในประเทศอื่นด้วย โดยเฉพาะนักลงทุนจีนที่ต้องการไปลงทุนนอกประเทศ เช่น ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย
ทั้งนี้ บูติกโฮเต็ลปกติจะหรูหรา แต่มีเอกลักษณ์เฉพาะและมีจำนวนห้องพักไม่มากเพื่อให้ดูแลทั่วถึง แต่บูติกโฮเต็ลที่จะทำในจีนอาจขนาดใหญ่กว่าไทย คาดว่ามี 100-200 ห้อง เพราะคนจีนมีทัศนคติต่างจากคนไทย มองว่าที่พักหรูหราต้องมีขนาดใหญ่ ซึ่งพันธมิตรชาวจีนจะเป็นผู้ลงทุนสร้างโรงแรม ส่วนบีเอชเอ็มขายแบรนด์โรงแรมให้และรับบริหาร ไม่ต้องใช้เงินลงทุนมาก โรงแรมในจีนจะมีทั้งที่สร้างใหม่และนำอาคารเก่ามาปรับปรุง แห่งแรกจะเกิดในเซี่ยงไฮ้ จากนั้นจะขยายโรงแรมในปักกิ่ง กว่างโจว และซีอาน ตั้งเป้าหมาย 35 ปี มีโรงแรมในจีน 30-50 แห่ง เป็นแบรนด์ครอสทู 80% อะเวย์ 20%
สำหรับตลาดในประเทศ จะขยายธุรกิจรับบริหารโรงแรมให้เจ้าของโรงแรมที่ไม่ต้องการบริหารเอง เริ่มตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาแล้ว โดยเปลี่ยนชื่อบริษัทจาก บูทีค โฮเทล แมเนจเม้นท์ เอเชีย เป็น บูติค ฮอสพิทัลลิตี้ แมเนจเม้นท์ เอเชีย เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นว่า บริษัทไม่ได้รับบริหารโรงแรมอย่างเดียว แต่รับเป็นที่ปรึกษาก่อสร้างโรงแรม ออกแบบโรงแรม สร้างแบรนด์โรงแรม รวมทั้งทำเฉพาะการตลาดและประชาสัมพันธ์โรงแรมด้วย โดยจะบริหารโรงแรมอื่นภายใต้แบรนด์เดิมที่มีทั้งครอสทูและอะเวย์ รวมถึงสร้างแบรนด์ใหม่ให้สอดคล้องกับแนวคิดของการสร้างโรงแรมนั้น ซึ่งปีนี้จะรับบริหาร 5 แห่ง
“การรับบริหารโรงแรมต้องเลือกใช้แบรนด์ที่ตรงที่สุดกับตัวโรงแรม หากโรงแรมที่ไปรับบริหารมีแนวคิดออกแบบที่ชัดเจน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับภาพลักษณ์แบรนด์เดิม ก็ต้องตั้งแบรนด์ใหม่” แม็คโดนัลด์ กล่าว
ขณะเดียวกันภายใน 3-5 ปีข้างหน้า ตั้งเป้าหมายมีโรงแรมที่บริหารในไทย 30-50 แห่ง ส่วนปัจจุบันบีเอชเอ็มมีโรงแรมในเครือทั้งที่ลงทุนเองและบริหาร 7 แห่ง ได้แก่ ครอสทู กุยบุรี ครอสทู สมุย ครอสทู เชียงใหม่ ครอสทู ซิดนีย์ อะเวย์ เกาะกูด เลอ เบย์บุรี ปราณบุรี และราไว แกรนด์ เฮ้าส์ ภูเก็ต
ขณะที่ภาพรวมธุรกิจบริหารจัดการโรงแรมในไทยแข่งขันรุนแรงขึ้น เพราะมีกลุ่มที่เคยทำงานโรงแรมออกมาตั้งบริษัทรับบริหารโรงแรมเอง แต่บริษัทไม่กังวล เพราะมองว่ากลุ่มคนเหล่านี้อาจไม่เข้าใจธุรกิจโรงแรมลึกซึ้งเหมือนบริษัทที่เป็นเจ้าของโรงแรมมาก่อน จะรู้ทุกกระบวนการตั้งแต่สร้างถึงบริหาร มีประสบการณ์ลึกและกว้างกว่า
ด้านภาพรวมการดำเนินงานครึ่งปีหลังนี้ คาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น 25% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และทำให้ทั้งปีรายได้เพิ่ม 25% เช่นกัน หากไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นในไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติก็ยังมีแนวโน้มเดินทางมามาก แม้เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัว ก็ไม่มีผลต่อการเดินทางมากนัก โดยเฉพาะกับบูติกโฮเต็ล ซึ่งมีจำนวนห้องพักอยู่ที่ 40-50 ห้องเท่านั้น มีเพียงเรื่องการเมืองที่ยังต้องลุ้น
นับเป็นแผนธุรกิจที่ท้าทายทีเดียว กับการปักธงรบในแดนมังกร แต่หากประสบความสำเร็จ หนทางข้างหน้าในการขยายตลาดต่างประเทศอื่นๆ ก็คงไม่ยากแล้ว


