posttoday

บีเอชเอ็ม บุกขยายธุรกิจบริหารบูติกโฮเต็ลเมืองจีน

09 สิงหาคม 2556

โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์

โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์

โรงแรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ หรือบูติกโฮเต็ล เป็นรูปแบบโรงแรมที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวต้องการสรรหาสิ่งแปลกใหม่มากขึ้น เบื่อการพักโรงแรม 45 ดาวเครือระดับนานาชาติที่มีรูปแบบเหมือนๆ กันเกือบหมดทุกแห่ง ทำให้ธุรกิจบูติกโฮเต็ลมีแนวโน้มเติบโตมาก ธุรกิจรับบริหารบูติกโฮเต็ลก็เติบโตมากเช่นกัน

แอนโทนี่ แม็คโดนัลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บูติค ฮอสพิทัลลิตี้ แมเนจเม้นท์ เอเชีย (บีเอชเอ็ม) ผู้ดำเนินธุรกิจบริหารโรงแรม เปิดเผยว่า มีแผนขยายธุรกิจไปยังจีน โดยเพิ่งเซ็นสัญญากับพันธมิตรในจีน ทำโครงการโรงแรม 4 โครงการ ใช้แบรนด์โรงแรมของบีเอชเอ็ม ได้แก่ ครอสทู และอะเวย์ แต่เน้นที่ครอสทู เพราะเป็นแบรนด์ที่คนรู้จักมากกว่า

สาเหตุที่ขยายตลาดจีน เนื่องจากมองว่าเป็นตลาดเติบโตสูง จากการที่คนจีนเที่ยวในประเทศมาก คนจีนบางส่วนที่เคยมาเที่ยวไทยชื่นชอบโรงแรมบูติกโฮเต็ล แต่ในจีนยังไม่มีโรงแรมประเภทนี้ ส่วนใหญ่เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ 400-500 ห้อง จึงมองว่ามีโอกาสทำได้ อีกทั้งการเปิดตลาดจีนจะทำให้มีนักลงทุนสนใจเป็นพันธมิตรให้บริษัทไปบริหารโรงแรมในประเทศอื่นด้วย โดยเฉพาะนักลงทุนจีนที่ต้องการไปลงทุนนอกประเทศ เช่น ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย

ทั้งนี้ บูติกโฮเต็ลปกติจะหรูหรา แต่มีเอกลักษณ์เฉพาะและมีจำนวนห้องพักไม่มากเพื่อให้ดูแลทั่วถึง แต่บูติกโฮเต็ลที่จะทำในจีนอาจขนาดใหญ่กว่าไทย คาดว่ามี 100-200 ห้อง เพราะคนจีนมีทัศนคติต่างจากคนไทย มองว่าที่พักหรูหราต้องมีขนาดใหญ่ ซึ่งพันธมิตรชาวจีนจะเป็นผู้ลงทุนสร้างโรงแรม ส่วนบีเอชเอ็มขายแบรนด์โรงแรมให้และรับบริหาร ไม่ต้องใช้เงินลงทุนมาก โรงแรมในจีนจะมีทั้งที่สร้างใหม่และนำอาคารเก่ามาปรับปรุง แห่งแรกจะเกิดในเซี่ยงไฮ้ จากนั้นจะขยายโรงแรมในปักกิ่ง กว่างโจว และซีอาน ตั้งเป้าหมาย 35 ปี มีโรงแรมในจีน 30-50 แห่ง เป็นแบรนด์ครอสทู 80% อะเวย์ 20%

สำหรับตลาดในประเทศ จะขยายธุรกิจรับบริหารโรงแรมให้เจ้าของโรงแรมที่ไม่ต้องการบริหารเอง เริ่มตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาแล้ว โดยเปลี่ยนชื่อบริษัทจาก บูทีค โฮเทล แมเนจเม้นท์ เอเชีย เป็น บูติค ฮอสพิทัลลิตี้ แมเนจเม้นท์ เอเชีย เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นว่า บริษัทไม่ได้รับบริหารโรงแรมอย่างเดียว แต่รับเป็นที่ปรึกษาก่อสร้างโรงแรม ออกแบบโรงแรม สร้างแบรนด์โรงแรม รวมทั้งทำเฉพาะการตลาดและประชาสัมพันธ์โรงแรมด้วย โดยจะบริหารโรงแรมอื่นภายใต้แบรนด์เดิมที่มีทั้งครอสทูและอะเวย์ รวมถึงสร้างแบรนด์ใหม่ให้สอดคล้องกับแนวคิดของการสร้างโรงแรมนั้น ซึ่งปีนี้จะรับบริหาร 5 แห่ง

“การรับบริหารโรงแรมต้องเลือกใช้แบรนด์ที่ตรงที่สุดกับตัวโรงแรม หากโรงแรมที่ไปรับบริหารมีแนวคิดออกแบบที่ชัดเจน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับภาพลักษณ์แบรนด์เดิม ก็ต้องตั้งแบรนด์ใหม่” แม็คโดนัลด์ กล่าว

ขณะเดียวกันภายใน 3-5 ปีข้างหน้า ตั้งเป้าหมายมีโรงแรมที่บริหารในไทย 30-50 แห่ง ส่วนปัจจุบันบีเอชเอ็มมีโรงแรมในเครือทั้งที่ลงทุนเองและบริหาร 7 แห่ง ได้แก่ ครอสทู กุยบุรี ครอสทู สมุย ครอสทู เชียงใหม่ ครอสทู ซิดนีย์ อะเวย์ เกาะกูด เลอ เบย์บุรี ปราณบุรี และราไว แกรนด์ เฮ้าส์ ภูเก็ต

ขณะที่ภาพรวมธุรกิจบริหารจัดการโรงแรมในไทยแข่งขันรุนแรงขึ้น เพราะมีกลุ่มที่เคยทำงานโรงแรมออกมาตั้งบริษัทรับบริหารโรงแรมเอง แต่บริษัทไม่กังวล เพราะมองว่ากลุ่มคนเหล่านี้อาจไม่เข้าใจธุรกิจโรงแรมลึกซึ้งเหมือนบริษัทที่เป็นเจ้าของโรงแรมมาก่อน จะรู้ทุกกระบวนการตั้งแต่สร้างถึงบริหาร มีประสบการณ์ลึกและกว้างกว่า

ด้านภาพรวมการดำเนินงานครึ่งปีหลังนี้ คาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น 25% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และทำให้ทั้งปีรายได้เพิ่ม 25% เช่นกัน หากไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นในไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติก็ยังมีแนวโน้มเดินทางมามาก แม้เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัว ก็ไม่มีผลต่อการเดินทางมากนัก โดยเฉพาะกับบูติกโฮเต็ล ซึ่งมีจำนวนห้องพักอยู่ที่ 40-50 ห้องเท่านั้น มีเพียงเรื่องการเมืองที่ยังต้องลุ้น

นับเป็นแผนธุรกิจที่ท้าทายทีเดียว กับการปักธงรบในแดนมังกร แต่หากประสบความสำเร็จ หนทางข้างหน้าในการขยายตลาดต่างประเทศอื่นๆ ก็คงไม่ยากแล้ว

ข่าวล่าสุด

พรรคประชากรไทย ชู 4 เสาหลักพลิกฟื้นประเทศ ส่งชิงเก้าอี้ สส.261 คน สู้ศึกเลือกตั้ง‘69