ชาเขียวใบหม่อนโอท็อปเมืองกาญจน์
โดย...ชลธิชา ภัทรสิริวรกุล
โดย...ชลธิชา ภัทรสิริวรกุล
ในวงการของคนรักสุขภาพ “ชาเขียวใบหม่อน” น่าจะเป็นที่รู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี ที่มีวางขายกันตั้งแต่ระดับสินค้าโอท็อปท้องถิ่นไล่ไปจนถึงแบรนด์ดังระดับบน อย่างที่ จ.กาญจนบุรี ใครจะคิดว่ามีชาเขียวใบหม่อนออร์แกนิก ของดีท้องถิ่นที่ได้มาตรฐานระดับโลก
กาญจนา คูหากาญจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.เค.อินดัสทรี่ (2000) เล่าว่า หลังเกิดวิกฤตต้มยำกุ้งในปี 2541 คนในท้องถิ่นเจอปัญหาตกงานจำนวนมาก จึงรวบรวมชาวบ้านที่สนใจใน ต.เกาะสำโรง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ประมาณ 35 คน บุกเบิกธุรกิจชาใบหม่อนขึ้นมา เนื่องจากมองว่าเป็นวัตถุดิบที่หาง่ายในท้องถิ่น และมีจุดเด่นเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพสูง
ยอมรับว่า ในช่วงแรกๆคนไทยยังไม่รู้จักชาเขียวใบหม่อนเท่าไหร่นัก แต่ในประเทศญี่ปุ่นเขานิยมดื่มชาเขียวใบหม่อนกันมานานแล้ว อีกทั้งในจ.กาญจนบุรีเองก็มีการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมจำนวนมากอยู่แล้ว จึงเกิดความสนใจจะทำอาชีพนี้ โดยเบื้องต้นช่วงแรกขอแนะนำการแปรรูปจากเกษตรจังหวัด แล้วมาลองผิดลองถูกกันเอง ลงทุนเบื้องต้นแค่หลักพันบาท โดยมีแม่บ้านในท้องถิ่นเป็นแรงงานผลิตชาเขียวใบหม่อนแบรนด์ “กาญจนา” (KANCHANA)
“เราเริ่มจากการทำตลาดจุดเล็กๆก่อน เช่นอาศัยการออกบูทงานแสดงสินค้าชุมชนทั้งในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียง ตามด้วยการเช่าพื้นที่ขายในศูนย์การค้า ประกอบกับกระแสรักสุขภาพที่บูมขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผู้บริโภคเริ่มรู้จักชาเขียวใบหม่อน ส่งผลให้สินค้าของกลุ่มได้รับกระแสตอบรับที่ดีขึ้นตามไปด้วย” กาญจนา กล่าว
ด้วยการพัฒนาที่ไม่หยุดยั้ง ทำให้ปัจจุบันบริษัทขยายกำลังการผลิต โดยขยายพื้นที่เพาะปลูกหม่อน และสั่งเครื่องจักรที่ทันสมัยจากไต้หวันทั้งระบบมาใช้ในสายการผลิตเพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดทั้งในและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งยกระดับกระบวนการผลิต ด้วยมาตรฐานจีเอ็มพี (GMP) และ HACCP ที่เป็นมาตรฐานความปลอดภัยอาหารที่ยอมรับกันทั่วโลก
กาญจนา เล่าอีกว่า การผลิตชาเขียวใบหม่อนของทางบริษัทนั้น เป็นการผลิตแบบครบวงจร เริ่มตั้งแต่การปลูกใบหม่อนที่คัดสรรเฉพาะสายพันธุ์ที่ดีที่สุดเพื่อให้ได้ใบชาที่มีคุณภาพสูงสุด นำมาผลิตจนเป็นผลิตภัณฑ์ชาเขียวใบหม่อนในรูปแบบต่างๆ ที่มีรสชาติดี มีกลิ่นหอมและบำรุงสุขภาพ เพราะใบหม่อนมีสรรพคุณทางยามากมาย ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิต 1 หมื่นกิโลกรัมต่อเดือน และรับจ้างผลิต (OEM) ให้แก่โรงงานต่างๆ ด้วย โดยรายได้มาจากรับจ้างผลิต 60% และขายภายใต้แบรนด์ตัวเอง 40%
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะขยายตลาดไปสู่ต่างประเทศ เนื่องจากเห็นโอกาสและช่องทางการตลาดที่ยังเปิดกว้างอยู่ หลังมีคำสั่งซื้อ (ออร์เดอร์) จากลูกค้าต่างชาติเข้ามามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น แคนาดา สหรัฐ และกลุ่มประเทศยุโรป
สำหรับสินค้ามีให้เลือก 5 รส ได้แก่ ต้นตำรับ ชาใบหม่อนผสมกุหลาบ ชาใบหม่อนผสมมะลิ ชาใบหม่อนผสมมะตูม และชาใบหม่อนผสมดอกคำฝอย ที่ผ่านมาได้ส่งสินค้าไปวางจำหน่ายในร้านค้าเพื่อสุขภาพทั่วประเทศ งานแสดงสินค้า และร้านขายของฝาก
ทั้งนี้ ชาเขียวใบหม่อน “กาญจนา” มีแผนเตรียมที่จะออกแบรนด์ใหม่ เพื่อเจาะลูกค้าระดับบนโดยเฉพาะ เพื่อให้ฐานลูกค้ากว้างขึ้น และเน้นทำบรรจุภัณฑ์สวยงามเพิ่มมูลค่า
คราวหน้าหากใครมาเที่ยว จ.กาญจนบุรี อย่าลืมแวะมองหาซื้อหาชาใบหม่อนติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของฝาก นอกจากจะเป็นการช่วยกระจายรายได้แล้วยังเป็นการช่วยส่งเสริมสินค้าท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นด้วย


