วงษ์พาณิชย์ ปั้นขยะเป็น 'ทอง'
ธุรกิจติดดาวสัปดาห์นี้ จะพาไปพบกับธุรกิจคัดแยกขยะเพื่อรีไซเคิล “วงษ์พาณิชย์” ที่ทำให้ขยะที่ใครๆ มองข้าม กลายเป็นเงิน
โดย...สุกัญญา สินถิรศักดิ์
ธุรกิจติดดาวสัปดาห์นี้ จะพาไปพบกับธุรกิจคัดแยกขยะเพื่อรีไซเคิล “วงษ์พาณิชย์” ที่ทำให้ขยะที่ใครๆ มองข้าม กลายเป็นเงิน เป็นทองมูลค่ามหาศาลอย่างไม่น่าเชื่อ โดย สมไทย วงษ์เจริญ ประธานกรรมการ บริษัท คัดแยกขยะเพื่อรีไซเคิลวงษ์พาณิชย์ กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดทั้งมวลที่ไม่ใช้แล้ว หรือที่ทุกคนเรียกกันว่า “ขยะ” ที่สามารถนำมารีไซเคิลได้ มีด้วยกัน 5 ประเภท คือ กระดาษ ขวดแก้ว พลาสติก โลหะ และอื่นๆ แต่ใน 5 ประเภทดังกล่าว สามารถแบ่งย่อยออกได้กว่า 1,400 ชนิด
สำหรับวงจรของรีไซเคิล เริ่มต้นจากของที่ซื้อมาจากร้านค้า ห้างสรรพสินค้าต่างๆ เวลานำเข้ามาในบ้าน บริโภค ทิ้งบรรจุภัณฑ์ หลังจากนั้นจะเข้าสู่วงจรการคัดแยก แล้วนำไปรีไซเคิลต่อ จนกลายเป็นวัตถุดิบเพื่อผลิตสินค้า หรือบรรจุภัณฑ์ ท้ายที่สุด สิ่งเหล่านี้ก็กลับเข้าสู่วงจรของสินค้าใหม่ๆ ดังนั้น จะแกะกล่อง แกะพลาสติก ใช้ตัวผลิตภัณฑ์จริงๆ หมดแล้ว ก็ต้องนึกให้ได้ก่อนทิ้งว่า ของทุกอย่างรีไซเคิลได้ และมีราคาทั้งสิ้น เช่น ขวดเบียร์ที่ดื่มเสร็จแล้ว มีค่าขวดละประมาณ 1 บาท เป็นต้น
“ของที่ไม่ใช้แล้ว หากทิ้งรวมกันก็เรียกว่าขยะ แต่หากคัดแยกแต่ละประเภทออกมาได้ ก็กลายเป็นเงินทั้งหมด เช่น หนังสือเรียนที่ไม่ใช้แล้ว ถ้าเอามาขายทั้งเล่ม ราคาจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 1 บาท แต่ถ้าแยกมา ดึงปกออก แยกจากกระดาษขาวๆ ด้านใน และขายแยก หนังสือเล่มขาวๆ ก็จะขายได้สูงถึงกิโลกรัมละ 6 บาท นั่นคือ การคัดแยกขยะให้เป็นกลายเป็นเงิน ผมจึงไม่เคยมองสิ่งเหล่านี้เป็นขยะเลย เห็นแต่เงิน แต่ทองทั้งนั้น” สมไทย กล่าว
หัวใจของการคัดแยกขยะ คือ การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสิ่งที่ไม่ใช้แล้ว โดยกระดาษ เปรียบเหมือน ป่าไม้ในเมือง ที่มีคุณค่ามาก ไม่ควรทิ้ง แต่ควรนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล ซึ่งกระดาษที่ไม่ใช้แล้วเหล่านี้ จะถูกนำมาอัดเป็นแท่ง แล้วก็ส่งขายให้กับโรงงานผู้ผลิตสินค้าต่างๆ ที่ต้องการต่อไป โดยกระดาษอัดแท่ง 1 รถบรรทุก เท่ากับ 33,500 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่ากว่า 3 แสนบาท หลังจากนั้นโรงงานผู้รับซื้อ ก็จะนำกระดาษอัดแท่งลงต้ม จนสลายกลายเป็นวัตถุดิบพร้อมผลิตเป็นกระดาษขาวแผ่นใหม่ๆ
ทางด้านเครือข่ายของวงษ์พาณิชย์ เกิดขึ้นจากการขยายสาขาวงษ์พาณิชย์ไปทั่วโลก โดยมีเป้าหมาย 1 ตำบล 1 วงษ์พาณิชย์ ต้องทำให้เกิด ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นการรองรับความต้องการของประชาชนที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น กระดาษ 1 แผ่น อาจหมายถึงการตัดต้นไม้ 1 ต้น แต่ถ้านำมารีไซเคิล ก็เท่ากับการลดการตัดไม้ ทำลายป่า นั่นจึงเป็นที่มาที่วงษ์พาณิชย์เรียกกระดาษเหล่านี้ว่า “ป่าไม้ในเมือง”
ปัจจัยดังกล่าว ทำให้วงษ์พาณิชย์ต้องขยายสาขาให้ครอบคลุม เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งรีไซเคิลได้ง่ายขึ้น และได้รับบริการรับซื้อขยะอย่างถูกต้องและเป็นธรรม ภายใต้แนวคิด “คิดถึงขยะ คิดถึงวงษ์พาณิชย์” ปัจจุบันมีสาขาเครือข่าย 1,142 สาขา โดยในต่างประเทศ มีด้วยกัน 4 สาขาในมาเลเซีย พม่า และสหรัฐอเมริกา พร้อมกันนี้ ยังเร่งสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง ด้วยการใช้สัญลักษณ์มงกุฎบนตัว W ซึ่งเป็นอักษรภาษาอังกฤษตัวย่อของคำว่า “วงษ์พาณิชย์”
นอกจากตัว W จะเป็นตัวย่อของวงษ์พาณิชย์แล้ว ยังย่อมาจากคำว่า “World” ที่แปลว่าโลก และมงกุฎ ก็เปรียบเหมือนพระราชา นั่นหมายความว่า ตราสัญลักษณ์ของวงษ์พาณิชย์ กำลังจะสื่อถึงความเป็น “พระราชาผู้ทำความสะอาดโลก” โดยกว่าจะมาเป็นโลโก้ดังกล่าวได้นั้น ต้องใช้เวลานานถึง 3 ปี ซึ่งการสร้างแบรนด์เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะแบรนด์ คือ ความเป็นความตายของธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีควรให้ความสำคัญกับเรื่องของแบรนด์ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการทำธุรกิจ
อย่างยั่งยืน
สำหรับการได้รับรางวัลสุดยอด SMEs แห่งชาติจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ของวงษ์พาณิชย์นั้น สมไทย กล่าวว่า ถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างมาก เพราะนั่นหมายถึง วงษ์พาณิชย์ ได้รับการตรวจสอบการบริหาร การทำธุรกิจต่างๆ จากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาต่างๆ ไม่ใช่แค่ความสามารถในการกำไรอย่างเดียว แต่ต้องมีความรับผิดชอบทางสังคมด้วย จึงอยากให้เอสเอ็มอีไทยให้ความสนใจเข้าร่วมการประกวดโครงการสุดยอด SMEs แห่งชาติ เพื่อยกระดับและพัฒนาตัวเอง
สิ่งสำคัญของการเข้าสู่ธุรกิจรีไซเคิล ไม่ใช่เรื่องของเงินทุนเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเป็น “ตัว” และ “ใจ” ที่มีความพร้อมที่จะทำ ขอเพียงมี 1 สมอง 2 มือ ก็ถือเป็นทุนสำคัญแล้ว โดยผู้สนใจสามารถเข้ามาเรียนรู้และอบรมกับวงษ์พาณิชย์ได้ มีหลักสูตรอบรม 5 วัน 4 ครั้งต่อปี ติดตามข่าวสารได้ที่เว็บไซต์ www.wongpanit.com ซึ่งเนื้อหาของหลักสูตร เช่น เรียนรู้สถานการณ์ขยะของไทยและของเอเชีย เรียนรู้ขยะประเภทต่างๆ และการคัดแยกขยะ วิธีการจัดการแบบดั้งเดิม และเทคโนโลยีใหม่ๆ กลไกตลาด
นอกจากนี้ หัวใจของธุรกิจรีไซเคิล ต้องมีคุณธรรม ซื่อสัตย์ รับซื้อขยะในราคาที่ตรงไปตรงมา ไม่คดโกงผู้ขายขยะ และไม่คดโกงผู้ซื้อขยะ ไม่สอดไส้ ไม่ใช้วิธีเอากระดาษจุ่มน้ำ เพื่อให้ได้น้ำหนัก เพียงเท่านี้ นอกจากจะทำเงิน ทำกำไร เลี้ยงครอบครัวแล้ว ยังเป็นธุรกิจที่ช่วยสังคมและสิ่งแวดล้อม ที่ทุกคนสามารถเริ่มต้นด้วยมือเปล่า และมีเงินฝากมากถึง 1 ล้านบาทได้ภายใน 3 ปี
สมไทย ราชาขยะแห่งวงษ์พาณิชย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขยะมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น เดินไปไหน ก็จะเจอแต่ขยะ เปรียบเหมือนกับเจอทองคำบนท้องถนน ไม่ควรพลาดที่จะคว้าไว้ และตลอด 40 ปีที่อยู่ในวงการนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ ล้วนรีไซเคิลได้ทั้งสิ้น มีเพียง “เวลา” เท่านั้นที่รีไซเคิลไม่ได้ ดังนั้น หากคิดจะเริ่มทำอะไร ขอให้เริ่มทันที อย่าปล่อยเวลาให้สูญเปล่า


