posttoday

“มิตซูบิชิ แอททราจ” อีโคคาร์ 4 ประตู ครบครัน-คุ้มค่า

10 กรกฎาคม 2556

โดย : พลพัต สาเลยยกานนท์

โดย : พลพัต สาเลยยกานนท์

ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับรถยนต์อีโคคาร์ซีดาน 4 ประตู ภายใต้ชื่อ “มิตซูบิชิ แอททราจ” ของบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) อย่างสดๆ ร้อนๆ เมื่อไม่นานมานี้ ภายใต้แนวคิด “แอททราจ ... ก้าวที่เหนือใคร”

หลังจากที่ประสบความสำเร็จในปีที่ผ่านมากับ “มิตซูบิชิ มิราจ” อีโคคาร์ 5 ประตู ด้วยการกวาดยอดขายรวมไปได้ทั้งหมด 5 หมื่นคัน ซึ่งเป็นการสะท้อนเสียงตอบรับได้เป็นอย่างดีในรุ่นที่ผ่านมา

จนกระทั่งล่าสุดที่ได้มีการเปิดตัว “มิตซูบิชิ แอททราจ” ในโชว์รูมกว่า 186 แห่งทั่วประเทศ เสียงตอบรับของอีโคคาร์ซีดานรุ่นใหม่นี้ก็ดีไม่หยุดหย่อนโดยมียอดจองไปแล้วกว่า 2,000 คันในระยะเวลาเพียงไม่นาน จากผู้ที่ลงทะเบียนแสดงความสนใจกว่า 2 หมื่นคน

ซึ่งเป้าหมายที่ มิตซูบิชิ คาดหวังไว้ในรุ่นนี้จนถึงสิ้นปีนี้อยู่ที่ 2 หมื่นคัน หรือมียอดขายต่อเดือนที่ 3,0004,000 คันต่อเดือน ซึ่งภายหลังการเปิดตัว มิตซูบิชิ ได้เริ่มทยอยส่งมอบรถยนต์รุ่นดังกล่าวให้กับลูกค้าไปแล้วส่วนหนึ่ง

“มิตซูบิชิ แอททราจ” มาพร้อมด้วยการออกแบบดีไซน์ที่พัฒนาเพื่อการตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย ด้วยความครบครันของอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่เรียกได้ว่า “จัดเต็ม” เมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกัน

สำหรับดีไซน์ภายนอกมีขนาดที่ใหญ่ไม่น้อยหน้ารถยนต์นั่งขนาดเล็ก (บีเซ็กเมนต์) หรือรถซิตี้คาร์ ยอดฮิตในตลาด ถึงแม้จะเป็นรถอีโคคาร์ก็ตาม ซึ่งมาพร้อมการออกแบบกระจังหน้าโครเมี่ยม และกันชนหน้าขนาดใหญ่สไตล์สปอร์ต พร้อมไฟหน้าแบบฮาโลเจน และไฟตัดหมอกหน้าตกแต่งด้วยโครเมี่ยม รวมถึงกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED ซึ่งสามารถปรับและพับไฟฟ้าได้ ส่วนที่เก็บสัมภาระด้านหลังยิ่งใหญ่อลังการด้วยขนาดความจุ 450 ลิตร

เปิดประตูเข้ามาภายในห้องโดยสาร พบกับความกว้างขวางด้วยการให้สีสันที่ดูสว่างอย่าง สีเบจ ที่เบานั่งวัสดุสังเคราะห์ ตัดกับการตกแต่งภายในสีดำ (เปียโน แบล็ค) พร้อมเพิ่มความหรูหราด้วยการตกแต่งในจุดต่างๆต่างๆด้วยสีเงิน (ซิลเวอร์ เดคอเรชั่น) โดยเบาะที่นั่งด้านหลังยังมีที่พักแขนและที่วางแก้วน้ำสะดวกสบาย พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายด้านฟังก์ชั่นการใช้งานและความบันเทิง ด้วยจอภาพทัชสกรีนขนาด 6.5 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง (เนวิเกเตอร์) และสามารถแสดงภาพจากกล้องมองหลังขณะถอยจอด รวมถึงการเชื่อมต่อความบันเทิงจากอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านช่องเชื่อมต่อ USB AUX และบลูทูธ

ขณะที่ยังมาพร้อมด้วยระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ควบคุมด้วยระบบดิจิตอลพร้อมจอแสดงผล รวมถึงพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นที่สามารถควบคุมเครื่องเสียงโดยไม่ต้องละมือออกจากพวงมาลัยขณะขับขี่

มาถึงขุมพลังเครื่องยนต์ของเจ้า “มิตซูบิชิ แอททราจ” คันนี้ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน DOHC MIVEC ขนาด 1.2 ลิตร 3 สูบ 12 วาล์ว ให้พละกำลังสูงสุด 78 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ซึ่งถูกออกแบบท่อไอดีแบบใหม่เพื่อให้อากาศไหลเข้าเครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น พร้อมระบบวาล์วแปรผันด้านไอดี MIVEC ช่วยให้เครื่องยนต์ตอบสนองการขับขี่ได้ในทุกรอบความเร็ว

ซึ่งทำงานร่วมกับระบบส่งกำลัง (เกียร์) แบบธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ควบคุมการทำงานด้วยระบบคอมพิวเตอร์ทำให้การปรับเปลี่ยนเกียร์เป็นอย่างนุ่มนวลและแม่นยำ รักษารอบเครื่องไว้อย่างต่อเนื่อง เพื่อประสิทธิภาพในการขับขี่และประหยัดน้ำมัน

สำหรับระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโครงช่วงล่างด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม

จุดเด่นในความไม่ธรรมดาขอเจ้าอีโคคาร์คันนี้อยู่ที่โครงสร้างตัวถังแบบ RISE Body ซึ่งมีน้ำหนักเบาแต่มีความปลอดภัยสูงจากเหล็กชนิดพิเศษ พร้อมระบบความปลอดภัยด้วยระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) พร้อมถุงลมนิรภัย (AIRBAG)

อีกทั้งระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์อัจฉริยะ INVES III ที่สามารถวิเคราะห์ลักษณะนิสัยการขับขี่ของผู้ขับแต่ละคนเพื่อนำไปประมวลผลในการเปลี่ยนเกียร์ และรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดที่ 4.8 เมตร รวมถึงอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุด 22 กม./ลิตร

ไม่เท่านั้น ยังมาพร้อมระบบกุญแจอัจฉริยะ KOS ที่สามารถ ล็อกปลดล็อก ประตูหน้าและสตาร์ทเครื่องยนต์จากภายนอกตัวรถ (ในรัศมี 70 ซม.) พร้อมระบบล็อกประตูซ้ำอัตโนมัติเมื่อกดปุ่มปลดล็อก และไม่มีการเปิดประตูภายใน 30 วินาที รวมถึงระบบสัญญาณเสียงเมื่อปิดประตูไม่สนิท

ที่เล่ามาจนถึงบรรทัดนี้ต้องบอกเลยว่า อุปกรณ์และฟังก์ชั่นการใช้งาน “ยังไม่หมด ... และมีอีกเพียบ” ฉะนั้นแล้วลองไปสัมผัสด้วยตัวเองกับ “มิตซูบิชิ แอททราจ” ได้ที่โชว์รูมมิตซูบิชิทั้ง 168 แห่งทั่วประเทศ

ราคาค่าตัวก็เริ่มต้น “เบาๆ” อยู่ที่ 4.435.82 แสนบาทเท่านั้น โอกาสต่อไป “โพสต์ทูเดย์” จะได้นำรายงานผลการลองขับมาให้ผู้อ่านได้ติดตามกันในเร็ววันนี้

ข่าวล่าสุด

CardX มอบเงินบริจาคห้าแสนบาทแก่สภากาชาดไทยเพื่อเร่งฟื้นฟูเยียวยาและช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบอุทกภัย