ข้อดีของ เงินบาทแข็งค่า
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics มองผลกระทบจากบาทแข็งต่อเศรษฐกิจและส่งออกอาจไม่รุนแรงอย่างที่หลายๆ ฝ่ายคาด ทั้งภาคส่งออกสินค้าและท่องเที่ยว
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics มองผลกระทบจากบาทแข็งต่อเศรษฐกิจและส่งออกอาจไม่รุนแรงอย่างที่หลายๆ ฝ่ายคาด ทั้งภาคส่งออกสินค้าและท่องเที่ยว
ค่าเงินบาทแข็งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจนไปซื้อขายเข้าใกล้ระดับ 29 บาทต่อเหรียญสหรัฐ นับเป็นการทุบสถิติแข็งค่าสุดในรอบ 16 ปี ซึ่งประเด็นคำถามที่เกิดขึ้นตามมา คงหนีไม่พ้นการส่งออกของไทยจะเป็นเช่นไร ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เพราะภาคการส่งออกสินค้าและบริการนับว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 70 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศเลยทีเดียว
แต่เหรียญต้องมีสองด้านเสมอ มีด้านร้ายก็ย่อมมีด้านดีอยู่เช่นกัน ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น จะทำให้ต้นทุนในการนำเข้าสินค้า ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือเครื่องจักร สินค้าขั้นกลาง/วัตถุดิบในการผลิต ตลอดจนสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภคมีราคาถูกลงโดยเปรียบเทียบ หากมองในภาพรวมแล้ว เมื่อนำการส่งออกสินค้ามาหักลบกับการนำเข้าสินค้า จะเหลือส่วนส่งออกสินค้าสุทธิอยู่ที่ประมาณร้อยละ 10 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เท่านั้น ซึ่งเป็นส่วนรายได้ของประเทศที่จะได้รับผลลบจากค่าเงินที่แข็งค่าขึ้นอย่างร้อยทั้งร้อย และอาจน้อยกว่าที่หลายๆ ฝ่ายเข้าใจ
จากการวิเคราะห์ของ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี ยังพบอีกว่า โดยภาพรวมเกือบร้อยละ 90 ของผู้ประกอบการไทยที่ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการส่งออกสินค้า มีการนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าสำเร็จรูปมาจากต่างประเทศเพื่อมาดำเนินธุรกิจด้วยเช่นกัน ข้อมูลดังกล่าวเป็นภาพที่สะท้อนให้เห็นว่า แท้จริงแล้วผู้ส่งออกไทยอาจไม่ได้รับผลกระทบด้านลบทั้งหมดจากการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินบาท แต่ก็ได้รับประโยชน์จากต้นทุนการนำเข้าสินค้าที่ถูกลงด้วยเช่นกัน เสมือนกับว่าผู้ส่งออกได้มีการทำประกันความเสี่ยงทางด้านอัตราแลกเปลี่ยนโดยธรรมชาติ (Natural Hedge) บางส่วนไปโดยปริยาย ซึ่งมากน้อยอยู่ที่สัดส่วนการนำเข้าต่อการส่งออกของแต่ละผู้ประกอบการ
ในขณะที่ตัวเลขภาคการท่องเที่ยวยังไม่สะท้อนถึงความกังวลที่อาจจะเกิดขึ้นจากการแข็งค่าของเงินบาท โดยในเดือน ก.พ. ยังขยายตัวถึงร้อยละ 25 และเป็นการเปิดปีด้วยตัวเลขนักท่องเที่ยวที่สูงขึ้นแท่น ทำสถิติเป็นอันดับสองเกือบ 2.4 ล้านคน เหตุผลหนึ่ง คือ โครงสร้างนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาในไทยได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เป็นมีการพึ่งพานักท่องเที่ยวจากอาเซียนและเอเชียกว่าครึ่ง ซึ่งเป็นกลุ่มเศรษฐกิจที่ค่าเงินแข็งค่าไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินบาท
นอกจากนี้ การบริโภคภายในประเทศก็จะได้รับผลดีจากการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินบาทด้วยเช่นกัน ทางภาคครัวเรือนอาจมีการเร่งตัวขึ้นในส่วนของการใช้จ่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่ต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ ในขณะที่ทางภาคธุรกิจก็จะได้รับผลดีจากการนำเข้าเครื่องมือเครื่องจักรด้วยค่าใช้จ่ายที่ต่ำลงด้วย นอกจากนี้ ภาคเอกชนและภาครัฐบาลที่มีภาระหนี้อยู่ในรูปเงินตราต่างประเทศ สามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสดังกล่าวในการลดภาระต้นทุนทางการเงินลงได้จากการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินในประเทศ
อย่างไรก็ดี คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ราบรื่นมากนัก รวมไปถึงแนวโน้มที่ค่าเงินบาทจะแข็งค่าโดยเฉลี่ยกว่าปีที่ผ่านมา นับว่ายังคงอย่างไรก็ดีค่าเงินนับเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักที่ผู้ประกอบการส่งออกยังคงต้องเผชิญอยู่ตลอดช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ ดังนั้นการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงทางด้านอัตราแลกเปลี่ยนจึงเป็นหนึ่งในทางเลือกอันดับต้นที่น่าสนใจ รวมทั้งการปรับกระแสเงินสด รับ/จ่าย ของเงินตราต่างประเทศให้มีความสอดคล้องกัน เพื่อจำกัดความเสี่ยงดังกล่าวในการปกป้องรายได้และผลกำไรของธุรกิจ
สำหรับการประชุมคณะกรรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทยในวันพุธที่ 4 เมษายน นี้ ทางศูนย์วิเคราะห์ฯ ประเมินว่า ทิศทางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลกไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากการประชุมครั้งก่อนอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้ง ผลกระทบโดยแท้จริงจากการแข็งค่าของค่าเงินบาทต่อผู้ส่งออกไทยอาจไม่ได้รุนแรงอย่างที่หลายฝ่ายเป็นกังวล ทำให้คาดว่า กนง. จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับร้อยละ 2.75 เนื่องจากยังมีความเหมาะสมต่อเสถียรภาพของเศรษฐกิจไทยต่อไป


