คีย์แมน AP
โดย...เจียรนัย อุตะมะ
โดย...เจียรนัย อุตะมะ
วิทการ จันทวิมล
คีย์แมนในเอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้
“วิทการ จันทวิมล”วัย 39 ปี รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาด บริษัทเอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์(AP) คีย์แมนที่ทำหน้าที่ในการนำเป้าหมายจากผู้บริหารระดับสูงมาวางแผนเชิงกลยุทธ์การตลาดเพื่อสร้างโอกาสการเติบโตให้องค์กร ด้วยการค้นหาช่องว่างทางการตลาดเพื่อพัฒนาสินค้าในรูปแบบใหม่ที่ถูกใจผู้บริโภค รวมถึงการดูแลส่วนงานสร้างภาพลักษณ์องค์กรเพื่อสร้างความยั่งยืนให้แบรนด์APท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง และการออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อให้ทันต่อการเปลียนแปลงที่รวดเร็วของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ผลงานสดๆร้อนๆของเขาคือการเปิดตัวสินค้าในรูปแบบใหม่ ที่มีดีไซน์และฟังก์ชั่นที่เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น ที่ชัดเจนคือ การเปืดตัว 2 แบรนด์ใหม่ ได้แก่ Soul บ้านเดี่ยวในเมืองที่ไม่มีใครย่างกรายเข้ามาในกลุ่มนี้มานาน เนื่องจากราคาที่ดินในเมืองที่ไม่เอื้อต่อการพัฒนาบ้านเดี่ยว ประเดิมโครงการแรกในทำเลทาวน์อินทาวน์ใกล้โรงเรียนบดินทรเดชาในราคา 13 ล้านบาทอัพ สำหรับบ้านเดี่ยว 3 ชั้น เนื้อที่กว่า 60 ตารางวา และอีก 2 ทำเลในเมืองที่เตรียมจะเปิดตัวในครึ่งปีหลัง
นอกจากนี้ ยังเปิดลิมิเต็ดแบรนด์ GALERIE rue de 39 คอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ไฮเอนด์ครั้งแรก ในซอยสุขุมวิท 39 ขายในราคาตารางเมตรละ 2.53 แสนบาท ทั้งสองแบรนด์มุ่งเจาะตลาดบนที่วันนี้สินค้ามีเหลืออยู่น้อย แม้ความต้องการในตลาดจะมีจำกัด แต่ก็มีความต้องการเฉพาะหน้าอย่างกลุ่มเศรษฐีที่ต้องการหนีทำเล น้ำท่วมเข้ามาเสริม
สองแบรนด์นี้สะท้อนผลงานของตัวเขาอย่างขัดเจน นับตั้งแต่ได้รับมอบหมายให้ดูแลงานของฝ่ายออกแบบหรือทีม OPE(Operation Exellence)เข้ามาอยู่ในความรับผิดชอบตั้งแต่กลางปีก่อนเพื่อให้ดูงานตั้งแต่ต้นจนจบในฐานะที่สายงานนี้รู้ความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดี ที่จะทำให้รูปแบบสินค้าตรงใจลูกค้ามากขึ้น ทำให้การออกแบบสินค้าชัดเจนด้วย
เขาทำงานที่APครบสามปีเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา โดยเข้ามาเริ่มงานแรกในตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาด เมื่อเดือนม.ค.2553 ทันร่วมงานเปิดตัว อินโนเวทีฟ คอนโดมิเนียมพร้อมกันทีเดียว3ทำเลในกลางเมืองเมื่อเดือนต.ค.2553 มูลค่ารวม 9,600 ล้านบาท นับเป็นคอนโดมิเนียมมูลค่าสูงที่สุดเท่าที่AP เคยทำมาประกอบด้วย RHYTHM สุขุมวิท คอนโดมิเนียมสูง37 ชั้น 589 ยูนิต มูลค่า2,400 ล้านบาทราคาเริ่มต้น2.99ล้านบาท RHYTHM พหลอารีย์ สูง53ชั้นสูงสุดในย่านนั้น809ยูนิตมูลค่า 3,200 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 2.8 ล้านบาท และRHYTHM สาทร สูง 37 ชั้นและ42 ชั้น910 ยูนิต มูลค่า 4,000 ล้านบาทราคา เริ่มต้น 3.2 ล้านบาท
“ผมภูมิใจที่ได้มีโอกาสช่วยทำเปิดตัวโครงการ RHYTHM เป็นโครงการที่ทันสมัย และประสบความสำเร็จในการขายอย่างมาก โดยเฉพาะที่สุขุมวิท 50 ขายหมดเกลี้ยง และมีการเปลี่ยนมือถึง 56 มือ เป็นทำเลที่คู่แข่งมองข้าม แต่เราทำสำเร็จ ผมมีโอกาสช่วยสื่อสารอย่างเต็มรูปแบบ ที่สุขุมวิทขายดีเพราะคนซื้อและอาศัยอยู่บริเวณนั้นมาจากหลายที่ เทียบทำเลพหลโยธินอารีย์ที่ส่วนใหญ่เป็นเจ้าขุนมูลนาย จึงขายช้ากว่า ส่วนย่านสาทรเป็นย่านเก่าแก่ที่มีเอกลักษณ์ “
ข้อดีของการทำการตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็คือทำให้รู้จักกรุงเทพฯมากขึ้น ทั่วกรุงเทพฯตอนนี้รู้จักหมด แต่ละทำเลมีการเปลี่ยนแปลงของตลาดต่างกัน
“สุขุมวิทดูดี ตลาดระดับบนไปสุดที่เอกมัย เกินเลยจากนั้นไปยังพระโขนงความเจริญเปลี่ยนโซน เลี้ยวซ้ายเข้าเอกมัย ทะลุถนนเลียบทางด่วน ดูจากราคาสินค้าค่อยๆขยายออกจะถูกอั้น เลี้ยวซ้ายออกไป ทำให้การตลาดสนุก มีการช่วงชิงโอกาสทุกวินาที บางทีเรามองว่ามี 1ที่ ทำสินค้าไม่รอด แต่คู่แข่งเอาไปทำประสบความสำเร็จท่วมท้น แต่หลานทำเลเราช่วงชิงได้”
จากนั้นปี2554เป็นโครงการบ้านกลางกรุงที่แต่ละพื้นที่มีการออกแบบ ตกแต่งภายในต่างกันอย่าง ทาวน์เฮาส์ โครงการบ้านกลางกรุง พระราม3 เป็นคนไทยเชื้อสายจีน 22ตารางวา 34ชั้นราคาหลังละ กว่า 10 ล้านบาท ขายดี บางครอบครัวซื้อสองหลังชนกัน
ปี 2555 โครงการมีธีมมากขึ้น ไลฟ์สไตล์สำหรับคนทันสมัย บ้านกลางเมือง วัดเทพลีลา นวมินทร์ 42 ออกแนวชนบท
“วิทการ”เป็นลูกเศรษฐี มารดานามสกุล หวั่งหลีรุ่นที่สาม ถือกำเนิดมายิ่งกว่ากองเงินกองทอง จบปริญญาตรี สถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เป็นสถาปนิกที่ชอบงานขายไม่ชอบเขียนแบบ เมื่อจบปริญญาตรี เริ่มงานแรกที่บริษัทล็อกซ์เลย์ เป็นพนักงานเพียงช่วงสั้น 2 เดือน โดยขายกระจกอะลูมิเนียมครอบตึก จากนั้นไปเป็นสถาปนิกคุมงานก่อสร้างตึกแกรนด์อมรินทร์ พลาซ่า เพชรบุรี 2ปี ก่อนตัดสินใจลาออกไปเรียนปริญญาโทบริหารธุรกิจที่ มหาวิทยาลัยแห่งรัฐพอร์ตแลนด์ สหรัฐ
จบกลับมาเป็นช่วงวิกฤติค่าเงินบาทลอยตัวปี 2540 เริ่มงานแรกเป็นผู้จัดการกลุ่มสินค้าที่บริษัทเป๊ปซี่ โคลา(ไทย)เทรดดิ้ง ดูแลแบรนด์ฟิโตเลย์ ทำงานได้5 ปีย้ายไปเป็นผู้อำนวยการดูแลแบรนด์ไอศครีมบริษัทยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิง ทำได้สองปี ลาออกไปเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัทโมโตโรลา สองปี ลาออกไปเป็นผู้อำนวยการองค์กร บริษัทซิกนา ประกันภัย
“อยู่ที่ซิกนา ช่วงนั้นบริษัทกำลังเปิดธุรกิจขายตรงผ่านการสื่อสารทั่วไป โฆษณาทีวี..ให้คนรับรู้สินค้าเป็นอย่างไร และต้องการให้คนสนองตอบ วัดความสำเร็จที่จำนวนโทร.กลับ คิดว่าเป็นเรื่องท่าทายแต่ต่อมาทิศทางเปลี่ยน จังหวะเดียวกับที่APเรียกมาคุย เมื่อคุยกับคุณอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารAPแล้วมีแนวคิดตรงกันจึงตัดสินใจมา”
เขามีมุมมองว่า อสังหาริมทรัพย์เป็นสินค้าราคาแพง ต้องใช้เวลานานก่อนตัดสินใจซื้อ และเป็นสินค้าที่เป็นรูปธรรมเพราะเป็นสินค้าเพื่อบริโภคที่ต้องมีบริการหลังการขายต้องใช้เวลาคิดและออกแบบให้กี นอกจากนั้นยังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ต้องเน้นช่องทางขายให้มากที่สุด เพราะแต่ละปีมีสินค้าออกใหม่หลานโครงการเทียบสินค้าอื่นที่ทำมา และสินค้าแต่ละโครงการที่ออกต้องเปลี่ยนรูปแบบทั้งการวางผังที่ดิน และทำเล ดังนั้นต้องมีการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค คู่แข่ง ต้องรู้จักกพื้นที่ และคนในพื้นที่
“จุดสำเร็จของAP อยู่ที่วิสัยทัศน์ผู้บริหารทั้งคุณอนุพงษ์ และคุณพิเชษฐ วิภวศุภกร กรรมการผู้อำนวยการ ที่ทำทาวน์เฮาส์และคอนโดมิเนียมติดแนวรถไฟฟ้า”
ชีวิตการทำงานของเขาเริ่มต้นอย่างจริงจังจบปริญญาโทในบริษัทระดับสากล จนกระทั่งมาอยู่APที่เป๋นบริษัทครอบครัวที่บริหารงานแบบมืออาชีพที่เห็นพัฒนาการอย่างชัดเจนผ่านการปรับโครงสร้างองค์กรอย่างเป็นขั้นตอน
“ผมต้องปรับตัวกับการทำงานในองค์กรที่วัฒนธรรมแตกต่างกัน ที่ต้องค่อยๆเปลี่ยนองค์กรและถือว่าเป็นเรื่องท้าทายสำหรับผมที่มาอยู่ในฝ่ายการตลาดที่นี่ เพราะต้องมองการทำแบรนด์องค์กรในระยะยาว”


