posttoday

"ฮาจิเมะ"ทุ่ม 30 ล้านเปิดร้านชาบู บุฟเฟต์ใช้หุ่นยนต์เสิร์ฟ

01 เมษายน 2553

"ฮาจิเมะ"ทุ่ม 30 ล้านเปิดร้านชาบู บุฟเฟต์ สบช่องตลาดอาหารญี่ปุ่นในไทยยังเติบโต ชูความต่าง ส่งพนักงานหุ่นยนต์พร้อมเสิร์ฟอาหารถึงโต๊ะ หวังยอดขายปีแรก 60 ล้านบาท

"ฮาจิเมะ"ทุ่ม 30 ล้านเปิดร้านชาบู บุฟเฟต์ สบช่องตลาดอาหารญี่ปุ่นในไทยยังเติบโต ชูความต่าง ส่งพนักงานหุ่นยนต์พร้อมเสิร์ฟอาหารถึงโต๊ะ หวังยอดขายปีแรก 60 ล้านบาท

น.ส.ลภัสรดา ธนพันธ์ ผู้บริหารและผู้ก่อตั้งร้านอาหารญี่ปุ่น “ฮาจิเมะ” เปิดเผยว่าใช้งบลงทุนกว่า 30 ล้านบาทเปิดให้บริการร้านอาหารญี่ปุ่นประเภทหม้อไฟ หรือ ชาบู ภายใต้ชื่อร้าน ฮาจิเมะ ในสาขาแรกที่ โครงการโมโนโพลี พาร์ค ถนนพระราม3 โดยร้านดังกล่าวมีพื้นที่กว่า 400 ตร.ม. รองรับความจุ 160 ที่นั่ง โดยให้บริการในรูปแบบบุฟเฟ่ต์ ราคา 299 บาท และ 199 บาท  พร้อมกำหนดระยะเวลาในการรับประทานทาน 1.45 ชั่วโมง โดยบริษัทนำเข้าวัตถุดิบอาหารจากต่างประเทศเป็นหลัก และมีอาหารมากกว่า 100 เมนู

สำหรับร้านอาหารดังกล่าว รองรับกลุ่มเป้าหมายครอบครัว คนทำงาน และวัยรุ่น ซึ่งบริษัทเห็นว่าธุรกิจตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยยังโอกาสเติบโตอีกมาก และเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการขยายตัวของธุรกิจนี้จากการเปิดตัวแบรนด์หรือขยายสาขาร้านที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

อย่างไรก็ตามก่อนตัดสินใจเปิดให้บริการร้านอาหารญี่ปุ่นดังกล่าว บริษัทได้ดำเนินการศึกษาและเก็บข้อมูลด้านการตลาดตลอดช่วง 4-5 ปี  อาทิ การชิมอาหารญี่ปุ่นตามร้านทั่วไป การเดินทางไปศึกษาธุรกิจร้านอาหารในญี่ปุ่น รวมถึงปรึษากับผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารญี่ปุ่น เป็นต้น

“โดยส่วนตัวชอบทานอาหารญี่ปุนด้วย จึงตัดสินใจเปิดร้านฮาจิเมะขึ้นมา ซึ่งเราไม่ต้องการซื้อลิขสิทธิ์แฟรนไชส์จากต่างประเทศเข้ามาเปิด เพราะต้นทุนสูงอีกทั้งจะไม่มีอิสระในการทำธุรกิจด้วย”กล่าว

พร้อมกันนี้เพื่อสร้างความแปลกใหม่ในธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น และในฐานะที่ร้านอาหารฮาจิเมะ เป็นแบรนด์ใหม่ ซึ่งจำเป็นต้องหาจุดแตกต่างไปจากผู้ประกอบการรายเดิมที่ทำตลาดอยู่ก้อนหน้า ด้วยการลงทุนใช้พนักงานหุ่นยนต์ เพื่อให้บริการเสิร์ฟอาหารแก่ลูกค้า จำนวน 4 ตัว แบ่งออกเป็น แบบ 1 แขน 2 ตัวทำงานจัดเตรียมอาหารในครัว และแบบ 2 แขน 2 ตัว ทำหน้าที่เป็นผู้เสิร์ฟอาหาร เพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้กับผู้บริโภค

สำหรับตัวหุ่นยนต์นั้น บริษัทนำเข้ามาจากต่างประเทศส่วนระบบซอฟท์แวร์นั้นพัฒนาโดยคนไทยจากทีมงานของกลุ่มซัมมิทอีกทั้งยังได้ทำการประสานกับทางผู้ประกอบการทัวร์ เพื่อนำนักท่องเที่ยวต่างชาติมารับประทานอาหารที่ร้าน ซึ่งจะได้เป็นอีกกลุ่มเป้าหมายหนึ่ง โดยตั้งเป้าหมายรายได้รวมในปีนี้ที่ 60 ล้านบาท สำหรับในอนาคตนั้น ยังไม่ตั้งเป้าหมายว่าจะเปิดอีกกี่แห่ง ด้วยต้องการให้บริหารสาขาแรกนี้ให้ประสบความสำเร็จก่อน แต่มีแผนจะเปิดร้านอาหารแบรนด์นี้เพิ่มอีก หรืออาจเป็นแนบรนด์อื่นก็เป็นไปได้ในอนาคต

ข่าวล่าสุด

"ธรรมนัส” เผย 25 ธ.ค.นี้ กล้าธรรมเปิดตัวสส.ทั้งเขต-ปาร์ตี้ลิสต์