ชูระบบสหกรณ์พัฒนาท่องเที่ยว
เอกชนท่องเที่ยวผนึกสภาหอการค้าฯ ผุดสหกรณ์บริการท่องเที่ยว เพื่อการพัฒนา เสริมแกร่งเอสเอ็มอีด้านการเงิน
เอกชนท่องเที่ยวผนึกสภาหอการค้าฯ ผุดสหกรณ์บริการท่องเที่ยว เพื่อการพัฒนา เสริมแกร่งเอสเอ็มอีด้านการเงิน
นางสุภาวดี ปาจรียางกูร รองประธานคณะกรรมการธุรกิจบริการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะรองประธานบริหารสหกรณ์บริการท่องเที่ยวไทย เพื่อการพัฒนา เปิดเผยว่า เอกชนท่องเที่ยวซึ่งเป็นสมาชิกสมาคมที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เช่น สมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตตา) และสภาหอการค้าฯ ได้ร่วมมือกันจัดตั้งสหกรณ์บริการท่องเที่ยวไทย เพื่อการพัฒนา สำหรับส่งเสริมผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคมของสมาชิกด้านเงินทุน ซึ่งมีลักษณะการบริหารจัดการคล้ายธนาคารพาณิชย์ เช่น การกู้ยืมเงิน การฝากเงิน การนำเงินไปลงทุน เพื่อหารายได้ เป็นต้น
นอกจากนี้ สหกรณ์จะเป็นศูนย์กลางด้านข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งหมด ผ่านเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ สามารถค้นหาแหล่งท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร รถเช่า แพ็กเกจทัวร์ผ่านเว็บไซต์ โดยสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (ซิป้า) ได้สนับสนุนงบ 2030 ล้านบาท ในการวางระบบดังกล่าว โดยคาดว่ากระบวนการจัดตั้งสหกรณ์พร้อมดำเนินกิจการได้เดือน ส.ค.นี้
“การจัดตั้งสหกรณ์เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีด้านการท่องเที่ยวให้มีความแข็งแกร่ง มีเงินทุนหมุนเวียนประคองธุรกิจให้อยู่รอด รวมถึงเตรียมความพร้อมเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ซึ่งมองว่าธุรกิจท่องเที่ยวจะถูกชาวต่างชาติไล่ซื้อกิจการมากที่สุด” นางสุภาวดี กล่าว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้ให้ความช่วยเหลือด้านสภาพคล่องกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวมากนัก การปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำมีเงื่อนไขจำนวนมาก ทำให้ผู้ประกอบการไม่ได้รับการสนับสนุนด้านเงินกู้เท่าที่ควร ขณะที่สหกรณ์แนวทางการพิจารณาปล่อยกู้ของสหกรณ์จะมีความยืดหยุ่นและเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
สำหรับแนวทางการบริหารจัดการในอนาคต กองทุนจะจำหน่ายหุ้น ราคาหุ้นละ 10 บาท ให้กับผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว รายนิติบุคคลสามารถเข้ามาถือหุ้นได้ หากสหกรณ์มีความแข็งแกร่งในอนาคตจะเปิดกว้างให้กับคนไทยมีส่วนในการถือหุ้น โดยสหกรณ์จะมีรายได้จากสมาชิก การลงทุนในธุรกิจที่สอดคล้องกับการท่องเที่ยว เช่น บริษัทประกันภัย สายการบิน ฯลฯ ตั้งเป้าปี 2558 จะมีเงินทุนหมุนเวียนกว่า 2 หมื่นล้านบาท


