ที่กลางเมืองพุ่ง2แสน/ตร.ม.
ค่ายยักษ์อสังหาฯเปิดศึกชิงทำเล
ดาหน้าผุดคอนโดหรูเกลื่อนเมือง
โพสต์ทูเดย์
— บิ๊กอสังหาฯ เปิดศึกชิงที่ดินทำเลทองกลางเมืองผุดคอนโดหรู คาดทำราคาขายพุ่ง 2 แสนบาท/ตร.ม.นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นจูรี 21 เรียลตี้ แอฟฟิเอทส์ (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า ราคาคอนโดมิเนียมระดับบนในเขตชั้นในของเมืองจะมีราคาสูงขึ้นจากปัจจุบันที่มีราคาขายเฉลี่ย 11.2 แสนบาท/ตร.ม. โดยที่ราคาขายอาจจะเพิ่มได้ถึง 1.72 แสนบาท/ตร.ม. ในอนาคตอันใกล้นี้
สาเหตุที่ราคาคอนโดมิเนียมในเขตเมืองชั้นในจะมีราคาขยับสูงขึ้นมาและมีจำนวนโครงการลดน้อยลง เนื่องจากที่ดินในเขตเมืองชั้นในเริ่มหาซื้อได้ยากมากขึ้นทำให้ราคาที่ดินมีราคาแพงขึ้น เมื่อผู้ประกอบการรายใหญ่ต่างมีความต้องการซื้อเช่นเดียวกัน ทำให้ราคาขายที่ดินบางแปลงขยับขึ้นไปถึง ตร.ว.ละ 1.5 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ตลาดคอนโดมิเนียมในระดับบนยังถือว่าอยู่ในภาวะทรงตัว เนื่องจากราคาที่ขยับขึ้นจากต้นทุนที่ดินที่เพิ่มขึ้น แต่กำลังซื้อในตลาดนี้ยังไม่กลับคืนมามากนัก ส่วนตลาดคอนโดมิเนียมที่ยังมีความต้องการซื้ออย่างต่อเนื่องคือตลาดคอนโดมิเนียมที่มีราคาขาย ตร.ม.ละ 68 หมื่นบาท เพราะเป็นราคาที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังซื้อได้
คอนโดมิเนียมในตลาดนี้จะอยู่ในทำเลที่ห่างจากย่านกลางเมืองหรือซีบีดี ประมาณ 1015 กิโลเมตร ซึ่งมีราคาที่ดินที่ถูกลงทำให้เกิดทำเลใหม่ที่จะมาแทนที่ทำเลกลางเมืองอย่างสุขุมวิท สาทร เช่น ย่านพระราม 4 ช่วงคลองเตยกล้วยน้ำไท ที่ปัจจุบันและในอนาคตจะมีคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ประมาณ 4 โครงการ จำนวน 1,5002,000 หน่วย
ล่าสุด บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเม้นท์ เพิ่งเปิดขายโครงการใหม่ใกล้ๆ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กล้วยน้ำไท กว่า 800 หน่วย ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จในการขายเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามที่ดินในทำเลพระราม 4 จะปรับเพิ่มขึ้น 1020% ในอนาคตอันใกล้ จากปัจจุบันที่ซื้อขายกันที่ราคาเฉลี่ย 1.52 แสนบาท/ตร.ว.
นอกจากนี้ บริษัทจะร่วมกับสมาคมอาคารชุดไทย นำโครงการคอนโดมิเนียมของผู้ประกอบการไทย 1520 โครงการไปโรดโชว์ที่สิงคโปร์อีกครั้ง คาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนสิงคโปร์ เพราะราคาคอนโดมิเนียมในประเทศไทยยังถูกกว่าในสิงคโปร์ที่ราคาขยับขึ้นเร็วมาก
ทั้งนี้ ในไตรมาสแรกตลาดคอนโด มิเนียมยังค่อนข้างดี มีการเติบโตต่อเนื่องจากปีที่แล้ว และตลาดมีความคึกคักมากขึ้น รวมถึงการซื้อขายที่ดินที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่องทั้งผู้ประกอบการขนาดใหญ่และกลุ่มผู้ประกอบการรายใหม่
สำหรับการแข่งขันในอนาคตนั้นความสำคัญจะยังอยู่ที่ทำเลและการสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ให้กับกลุ่มผู้บริโภค ซึ่งผู้ประกอบการรายใหญ่ยังคงได้เปรียบ ขณะที่ผู้ประกอบการรายเล็กและรายใหม่นอกจากจะต้องมีความโดดเด่นในเรื่องของทำเลแล้ว ยังต้องทำการตลาดให้แตกต่าง
ด้านนายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดี


