เบอร์เกอร์มะกันบุกเมืองไทย

คาร์ลซจูเนียร์ชิงเค้ก4.5พันล้าน วาดเป้า5ปีทุ่มทุนขยาย25สาขา

“คาร์ลซ จูเนียร์” เบอร์เกอร์พรีเมียมสัญชาติมะกันบุกไทย วาดเป้า 5 ปี ขยายครบ 25 สาขา รับตลาดเบอร์เกอร์มูลค่ากว่า 4,500 ล้านบาท โต 2 หลักต่อเนื่อง

นายนิตินันท์ ธรรมหทัย ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ อาร์แอนด์อาร์ เรสทัวรอง กรุ๊ป ผู้รับสิทธิทำตลาดร้านอาหารบริการด่วน (คิวเอสอาร์) เบอร์เกอร์ระดับบน (พรีเมียม) จากสหรัฐอเมริกา แบรนด์ “คาร์ลซ จูเนียร์” เปิดเผยว่า บริษัทรับสิทธิการทำตลาดในไทยเป็นแห่งที่ 8 ในภูมิภาคอาเซียน ใช้งบลงทุนปีนี้ราว 80 ล้านบาท ขยายสาขาใหม่ร้านดังกล่าวรวม 5 แห่ง และวางเป้าภายใน 5 ปี มีสาขาไม่ต่ำกว่า 25 สาขา

สำหรับร้านเบอร์เกอร์แบรนด์ดังกล่าวได้เปิดให้บริการสาขาแรกในเมืองพัทยาเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา และล่าสุดเปิดสาขาที่ 2 ในกรุงเทพฯ ที่อเวนิว 24 ซอยสุขุมวิท 24 ส่วนอีก 3 สาขาที่เหลือ คือ ที่อาคารธนิยะ และเมกาบางนา ส่วนอีก 1 สาขา อยู่ระหว่างศึกษาทำเลในย่านใจกลางเมืองธุรกิจ เบื้องต้นจับกลุ่มเป้าหมายหลักชาวต่างชาติที่รู้จักและชื่นชอบแบรนด์ดังกล่าวราว 60% และอีก 40% เป็นกลุ่มลูกค้าในไทยที่รักการรับประทานเบอร์เกอร์

สำหรับร้าน “คาร์ลซ จูเนียร์” วางตำแหน่งเป็นเบอร์เกอร์ระดับพรีเมียม วางราคาจำหน่ายทั้งแบบเมนูเดี่ยวและราคาเป็นชุดเริ่มต้น 80-200 บาท ใช้วัตถุดิบหลักในการผลิต คือ เนื้อวัวนำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย วางเป้ามียอดขายในปีแรกไม่ต่ำกว่า 1.82 ล้านบาทต่อเดือน โดยในช่วง 5 ปีแรก บริษัทจะเป็นผู้ขยายการลงทุนเปิดสาขาใหม่เอง

พร้อมกันนี้บริษัทได้ใช้นักแสดงนางแบบหญิงชาวไทย “คริสตัล วี” เป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์คนแรกในภูมิภาคนี้ จากปัจจุบันร้านคาร์ลซ จูเนียร์ ทำตลาดในประเทศต่างๆ อาทิ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม จีน นิวซีแลนด์ และอเมริกันซามัว เป็นต้น หลังจากแบรนด์ดังกล่าวอยู่ในตลาดกว่า 70 ปี และติดอันดับ 1 ใน 5 ธุรกิจร้านเบอร์เกอร์ในสหรัฐอเมริกา และมีสาขากว่า 3,263 แห่งทั่วโลก

ขณะที่ปัจจุบันตลาดคิวเอสอาร์กลุ่มเบอร์เกอร์ในไทย คาดว่ามีมูลค่ากว่า 4,500 ล้านบาท มีอัตราเติบโตสูงต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 2 หลัก โดยในปี 2556 บริษัทวางแผนเปิดให้บริการอีก 4 สาขาใหม่ โดยจะพิจารณาทำเลทั้งที่อยู่ในศูนย์การค้าและร้านค้าเดี่ยว โดยวางเป้ายอดขายในปี 2556 อยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาท คาดว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดในช่วงแรกราว 5% ของตลาดเบอร์เกอร์

สำหรับบริษัท อาร์แอนด์อาร์ ปัจจุบันมีสำนักงานใหญ่ในบังกลาเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาขยายการทำตลาดในประเทศแคนาดา และบางพื้นที่มลรัฐในสหรัฐอเมริกา โดยปัจจุบันยังไม่ได้เข้าไปในตลาดพม่า ลาว และกัมพูชา