ก้าวใหม่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีน
ก้าวใหม่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีนอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์นับเป็นพื้นฐานสำคัญของอุตสาหกรรมอื่นๆ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์โทรคมนาคม วิทยุ โทรทัศน์ รถยนต์ ฯลฯ ต่างล้วนแต่มีหัวใจสำคัญ คือ ไมโครชิพ
ก้าวใหม่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีนอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์นับเป็นพื้นฐานสำคัญของอุตสาหกรรมอื่นๆ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์โทรคมนาคม วิทยุ โทรทัศน์ รถยนต์ ฯลฯ ต่างล้วนแต่มีหัวใจสำคัญ คือ ไมโครชิพ
ประเทศหนึ่งที่เร่งพัฒนาอุตสาหกรรมนี้ คือ ประเทศจีน โดยเฉพาะเน้นขั้นตอนผลิตเวเฟอร์วงจรรวม ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตไมโครชิพ เนื่องจากมีมูลค่าเพิ่มสูง กำหนดเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ สำคัญข้อได้เปรียบสำคัญ คือ จีนเป็นตลาดขนาดใหญ่มาก เนื่องจากเป็นฐานผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อส่งออก ประกอบกับกระบวนการผลิตเวเฟอร์วงจรรวมมีความสลับซับซ้อน ต้องลงทุนมหาศาล และใช้ทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพสูงเป็นจำนวนมาก แต่ละปีประเทศจีนผลิตวิศวกรที่มีคุณภาพดีในปริมาณแทบจะไม่จำกัด
อุตสาหกรรมผลิตเวเฟอร์วงจรรวมสมัยใหม่ของจีนเริ่มต้นอย่างจริงจัง เมื่อบริษัท SMIC ก่อสร้างโรงงานผลิตเวเฟอร์วงจรรวมที่นครเซี่ยงไฮ้ จากนั้นมีบริษัทอีกมากมายก่อตั้งโรงงานภายในประเทศจีน เช่น บริษัท โมโตโรล่า ก่อตั้งโรงงานที่นครเทียนสิน บริษัท Grace Semiconductor Manufacturing ก่อสร้างโรงงานเวเฟอร์วงจรรวมที่นครเซี่ยงไฮ้ ขณะที่บริษัท TSMC ของไต้หวัน ตั้งโรงงานผลิตเวเฟอร์วงจรรวมที่นครเซี่ยงไฮ้ บริษัท อินเทล ก่อตั้งโรงงานเวเฟอร์วงจรรวมที่นครต้าเหลียน ฯลฯ
ล่าสุด บริษัท ซัมซุง ได้ประกาศเมื่อเดือน เม.ย. 2555 เกี่ยวกับโครงการ Samsung China Semiconductor fab เพื่อก่อตั้งโรงงานเวเฟอร์วงจรรวมที่นครซีอานของจีน นับเป็นโครงการลงทุนนอกประเทศเกาหลีใต้ใหญ่ที่สุดของบริษัทแห่งนี้เท่าที่มีมา ขณะเดียวกันเป็นโครงการลงทุนในด้านอุตสาหกรรมใหญ่ที่ในภาคตะวันตกของจีน กำหนดลงทุนมากถึง 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 2.1 แสนล้านบาท และได้เริ่มวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างโรงงานแห่งนี้ไปแล้วเมื่อต้นเดือน ก.ย. 2555 โดยเน้นผลิตเวเฟอร์โดยใช้เทคโนโลยีระดับแนวหน้าของโลก เพื่อเป็นวัตถุดิบสำหรับนำไปผลิตเป็นวงจรรวมประเภทแฟลชเมมโมรีแบบ NAND ที่เป็นหน่วยความจำสำหรับอุปกรณ์ต่างๆ เช่น Thumb Drive กล้องดิจิตอล โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต ฯลฯ
สำหรับในเฟสแรกเป็นเงินลงทุนประมาณ 7 หมื่นล้านบาท กำหนดก่อสร้างเสร็จและเปิดดำเนินการปลายปี 2556 โดยจะก่อให้เกิดการจ้างงาน 1 หมื่นคน และสร้างรายได้ปีละประมาณ 3.2 แสนล้านบาท และหากลงทุนเต็มโครงการจะก่อให้เกิดการจ้างงานและรายได้มากเป็น 3 เท่า
แต่การแย่งชิงโครงการนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย นครซีอานต้องรับบทเป็นเจ้าบุญทุ่ม เสนอสิ่งต่างๆ มากมายมหาศาลเป็นมูลค่ารวมกันเกือบล้านล้านบาทเป็นข้อแลกเปลี่ยน เพื่อจูงใจให้มาตั้งโรงงาน กล่าวคือมอบที่ดิน 9.2 ตร.กม. หรือ 6,750 ไร่ มูลค่าประมาณ 1.2 แสนล้านบาท ภายในเขตพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสูงซีอาน (Xi'an HiTech Industrial Development Zone) แก่บริษัท ซัมซุงโดยไม่คิดมูลค่า ออกเงินก่อสร้างอาคารโรงงานมีพื้นที่ใช้สอยรวมกัน 1.3 ล้าน ตร.ม. หรือกว้างใหญ่เท่ากับสนามฟุตบอล 200 สนาม การอุดหนุนเป็นเงิน 2,400 ล้านบาท ในส่วนค่าไฟฟ้า น้ำ บริการขนส่ง และค่าใช้จ่ายด้านรักษาสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ต้องก่อสร้างทางด่วนและรถไฟใต้ดินเพื่ออำนวยความสะดวกแก่โรงงานแห่งนี้ จากนั้นเมื่อโรงงานเปิดดำเนินการจะยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลยาวนานถึง 10 ปี และลดหย่อนภาษีกึ่งหนึ่งอีก 10 ปีต่อมาภายหลังสิ้นสุดเวลายกเว้นภาษีเงินได้
สำหรับจุดแข็งสำคัญของนครแห่งนี้ คือ มีมหาวิทยาลัยมากกว่า 80 แห่ง มีสถาบันวิจัยมากถึง 100 แห่ง แต่ละปีผลิตบัณฑิตในสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศมากกว่า 1.7 หมื่นคน โดยเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2555 บริษัท ซัมซุงได้ทำบันทึกความเข้าใจกับมหาวิทยาลัย Northwestern Polytechnical University ของนครซีอาน ในการที่จะร่วมมือกันพัฒนาบุคลากรอาวุโสในด้านเซมิคอนดักเตอร์ และซัมซุงยังจะให้ทุนการศึกษาแก่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ รวมถึงจะทำการวิจัยและพัฒนาร่วมกันด้วย
อนึ่ง ปัจจุบันไทยยังไม่มีการผลิตเวเฟอร์วงจรรวมในเชิงพาณิชย์แต่อย่างใด โดยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีเฉพาะสิงคโปร์และมาเลเซียเท่านั้นที่มีอุตสาหกรรมนี้ ในอดีตที่ผ่านมาเมื่อประมาณเกือบ 20 ปีมาแล้ว กลุ่มอัลฟาเทคเคยมีแผนลงทุนในอุตสาหกรรมนี้ 2 โครงการ กำหนดตั้งกิจการภายในนิคมอุตสาหกรรมอัลฟาเทคโนโพลิส จ.ฉะเชิงเทรา แต่ไม่สามารถหาเงินทุนได้เพียงพอ จึงต้องล้มเลิกโครงการและกลายเป็นหนี้ NPL ก้อนใหญ่ในเวลาต่อมา
แม้ประเทศไทยยังไม่มีการผลิตเวเฟอร์วงจรรวมในเชิงพาณิชย์ แต่ก็มีการผลิตอยู่บ้างในระดับห้องทดลอง โดยมีการก่อตั้งห้องปฏิบัติการสำหรับผลิตเวเฟอร์วงจรรวมของศูนย์เทคโนโลยีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมอัลฟาเทคโนโพลิส จ.ฉะเชิงเทรา


