posttoday

โรจนะทุ่มลงทุนปีนี้โกยเงินปีหน้า

09 สิงหาคม 2555

โรจนะพร้อมเปิดขายล่วงหน้านิคมอุตสาหกรรมใหม่ในปราจีน 4,000 ไร่ คาดรายได้รับรู้ในปีหน้า เล็งหาซื้อที่แถบภาคตะวันออกเพิ่ม

โรจนะพร้อมเปิดขายล่วงหน้านิคมอุตสาหกรรมใหม่ในปราจีน 4,000 ไร่ คาดรายได้รับรู้ในปีหน้า เล็งหาซื้อที่แถบภาคตะวันออกเพิ่ม

ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นบริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ (ROJNA) เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้อนุมัติการลงทุนในบริษัท สวนอุตสาห กรรมปลวกแดง จ.ระยอง ใช้เงินจำนวน 400 ล้านบาท เพื่อพัฒนาที่ดินกว่า 500 ไร่ และลงทุนในบริษัท พรอสเพอริตี้ อินดัสเตรียล เอสเตท พัฒนานิคมอุตสาหกรรมบนที่ดินกว่า 4,000 ไร่ ใน จ.ปราจีนบุรี มูลค่าการลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท สำหรับแหล่งเงินนั้นจะอาศัยเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ทั้งจำนวน

นายจิระพงษ์ วินิชบุตร กรรมการผู้จัดการ ROJNA ได้ชี้แจงผู้ถือหุ้นถึงสาเหตุของการเข้าไปลงทุนซื้อที่ดินแถบภาคตะวันออก เนื่องจากลูกค้ามีความต้องการมากขึ้น โดยเฉพาะใน จ.ระยอง ภายหลังพื้นที่ใน จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกน้ำท่วม และอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นยานยนต์ ปิโตรเคมี ต่างย้ายฐานการผลิตไปฝั่งตะวันออกมากขึ้น

ปัจจุบันบริษัทมีที่ดินใน จ.พระนครศรีอยุธยา เหลืออยู่จำนวน 800900 ไร่ ซึ่งจะรองรับการขายได้อีก 23 ปี จากปกติจะขายได้ปีละ 400500 ไร่ บริษัทจำเป็นต้องมองหาที่ดินทางภาคตะวันออกเพิ่มขึ้น เพื่อจัดทำนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งไม่จำกัดเพียงซื้อที่ดินยังมองหาการซื้อกิจการเหมือนการลงทุนใน 2 บริษัท

ด้านที่ดินใน จ.ปราจีนบุรี นั้น ขณะนี้มีลูกค้ารายใหญ่ 34 ราย แสดงความสนใจแล้ว ซึ่งภายหลังผู้ถือหุ้นอนุมัติก็จะมีการโอนที่ดินและก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในนิคมอุตสาหกรรม และคาดว่าจะสามารถเปิดขายล่วงหน้าในช่วงไตรมาส 4 นี้ น่าจะโอนที่ดินและมีการรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ในปี 2556 เป็นต้นไป

น.ส.อมรา เจริญกิจวัฒนกุล กรรมการ บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ กล่าวเสริมว่า ผลของการลงทุนใน 2 โครงการดังกล่าวจะทำให้อัตราหนี้สินต่อทุน (ดีอี) ของบริษัทขยับสูงกว่าเดิม ซึ่งอยู่ที่ระดับ 2 เท่า แต่ยืนยันว่ายังไม่เกินเพดานที่ระดับ 2.75 เท่า

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่ายอดขายที่ดินในปีนี้จำนวน 1,000 ไร่ สูงกว่าปีที่ผ่านมาเท่าตัว แต่ในแง่ของรายได้น่าจะทำได้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ซึ่งมีรายได้จำนวน 6,400 ล้านบาท เพราะส่วนใหญ่จะไปรับรู้ในปีหน้า

สำหรับรายได้ในปีนี้จะมาจากการรับรู้จากงานในมือที่มีอยู่กว่า 700 ไร่ และรายได้จากการให้บริการสาธารณูปโภคในนิคมอุตสาหกรรมอยุธยาที่ค่อยๆ ฟื้นตัวมาก เพราะขณะนี้หลังน้ำท่วมได้มียอดขายแล้ว 100 ไร่ และมีลูกค้าแสดงความสนใจอีก 200300 ไร่ แต่ขอรอดูสถานการณ์น้ำในช่วงปลายปีนี้ก่อน ซึ่งหากน้ำไม่ท่วมคาดว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในปี 2557

สำหรับในแง่ของกำไรปีนี้ยังไม่สามารถระบุได้ แต่ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ คาดว่าจะดีกว่างวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา เพราะมีการโอนที่ดินของลูกค้ารายใหญ่ 300 ไร่

ข่าวล่าสุด

เปิด Top 3 ดวงขึ้นแรงสุด 12 นักษัตร นักธุรกิจ ใครปัง รับปีม้าไฟ