แม่บ้านเหนื่อยน้ำมันปาล์มขวดส่อแววขาดตลาด
จับตาปาล์มขวดส่อขาดตลาด หลังผู้ผลิตหนีขาดทุนหันใส่ปี๊บถุงขายแทน เหตุไม่มีการควบคุมเพดาน
จับตาปาล์มขวดส่อขาดตลาด หลังผู้ผลิตหนีขาดทุนหันใส่ปี๊บถุงขายแทน เหตุไม่มีการควบคุมเพดาน
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ขณะนี้สถานการณ์การจำหน่ายน้ำมันปาล์มขวดตามห้างสรรพสินค้าและท้องตลาดทั่วไปเริ่มประสบปัญหาปริมาณตึงตัว โดยตามร้านค้าปลีกสมัยใหม่พบว่ามีน้ำมันปาล์มบรรจุขวดขายน้อยลง จากปกติมีจำหน่ายอยู่ 3-4 ยี่ห้อ ลดเหลือเพียง 1-2 ยี่ห้อเท่านั้น อีกทั้งยังจำหน่ายในราคาเพดานสูงสุดที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดไว้ คือ ไม่เกินขวดละ 42 บาท ซึ่งแตกต่างจากก่อนหน้านี้ที่ห้างมักจัดโปรโมชันขายเพียงขวดละ 39-40 บาทเท่านั้น
ขณะที่สถานการณ์ตามร้านค้าปลีกในตลาดสด พบว่าประสบปัญหาน้ำมันปาล์มตึงตัวมา 1-2 เดือนแล้ว และยังมีต้นทุนราคาส่งที่แพงกว่าปกติ หลังจากผู้ค้าส่งยี่ปั๊ว ซาปั๊ว ปรับขึ้นราคาขายส่งน้ำมันปาล์มขวดเป็น 42 บาท ส่งผลให้ราคาขายปลีกสูงกว่าราคาควบคุมโดยอยู่ที่ 45 บาท
นอกจากนี้ ร้านค้าอีกหลายแห่งได้เลิกขายน้ำมันปาล์มขวดชั่วคราว และหันมาขายน้ำมันปาล์มถุงแทน เนื่องจากต้นทุนราคาขายถูกกว่าและสามารถขายได้ตามราคาเพดานที่ 42 บาท เพราะเกรงว่าหากขายเกินราคาจะผิดกฎหมาย อีกทั้งปาล์มถุงยังมีต้นทุนขายถูกกว่า สามารถขายได้ตามราคาเพดาน 42 บาท ตามที่รัฐบาลกำหนด
อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่น้ำมันปาล์มขวดมีปริมาณลดลง เนื่องจากผู้ผลิตน้ำมันปาล์มขวดลดกำลังการผลิต และหันมาผลิตน้ำมันปาล์มบรรจุปี๊บและถุงขายแทน เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตถูกกว่า อีกทั้งผู้ผลิตยังประสบปัญหาขาดทุนจากการถูกควบคุมราคาเพดานน้ำมันปาล์มบรรจุขวดไว้ที่ 42 บาท ขณะที่ต้นทุนการผลิตน้ำมันปาล์มขวดปรับสูงขึ้นถึง 49 บาทแล้ว
อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไปอาจทำให้น้ำมันปาล์มบรรจุขวดขาดแคลนได้ เพราะสต๊อกน้ำมันในประเทศก็ปรับลดลงมาก โดยปัจุบันเหลือสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบเพียงแค่ 1.6-1.7 แสนตัน ขณะที่ความต้องการใช้ต่อเดือนอยู่ที่ 1.35 แสนตัน
แหล่งข่าวจากวงการอุตสาห กรรมน้ำมันปาล์ม เปิดเผยว่า ปัญหาสต๊อกน้ำมันปาล์มที่ลดลงมาก เกิดจากผลผลิตปรับลดลงทุกภูมิภาค แต่กระทรวงพาณิชย์กลับใช้วิธีที่จะต่ออายุการเก็บภาษีส่งออกน้ำมันปาล์ม (เซอร์ชาร์จ) ถือว่าเป็นวิธีการที่ไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาอะไร เพราะขณะนี้ราคาน้ำมันปาล์มในประเทศสูงกว่าน้ำมันปาล์มตลาดมาเลเซียถึง 5 บาท ดังนั้นแม้ไม่มีการเก็บเซอร์ชาร์จก็จะไม่มีการส่งออก สำหรับวิธีแก้ไขรัฐบาลควรทบทวนโครงสร้างราคาน้ำมันปาล์ให้สอดคล้องกับราคาตลาด ไม่ใช่ตรึงราคาตามนโยบายทางการเมืองที่หาเสียงว่าจะต้องขายเพดาน 42 บาท
ทั้งนี้ วิธีการแก้ไขปัญหารัฐบาลควรทบทวนโครงสร้างราคาน้ำมันปาล์มให้สอดคล้องกับราคาตลาด ไม่ใช่ตรึงราคาไว้ที่ 42 บาทต่อขวด แต่บิดเบือนกลไกตลาด จนไม่สะท้อนกลับความเป็นจริง แม้ว่ารัฐบาลจะใช้มาตรการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบจากต่างประเทศเข้ามาผลิต เพื่อให้จำหน่ายน้ำมันปาล์มขวดได้ในราคา 42 บาท/ขวด ก็ไม่ได้แก้ไขปัญหานี้แต่อย่างใด เพราะการนำเข้าน้ำมันปาล์มมามากเท่าไหร่ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการ หากยังมีบิดเบือนกลไกตลาดเช่นนี้ จนสุดท้ายก็กระทบกับเกษตรกรในประเทศในที่สุด
สำหรับปริมาณการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบช่วง 5 เดือน (ม.ค.-พ.ค.) 2555 มีปริมาณ 1.47 แสนตัน โดยทั้งปีคาดการณ์ว่าไทยจะส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ 3.5 แสนตัน ซึ่งปริมาณส่งออกที่สูงมากในเดือนพ.ค. 4 หมื่นตันนั้น เป็นผลมาจากการสั่งซื้อล่วงหน้า 23 เดือนของตลาดต่างประเทศ และมีการส่งออกช่วงนั้นในปริมาณมาก ทดแทนเดือนก.พ.มี.ค. ที่การส่งออกยังมีปริมาณไม่มาก
นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กล่าวว่า ขณะนี้ปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันลดลงประมาณ 1015% จากปริมาณผลผลิตที่คาดว่าในเดือน มิ.ย.ก.ค. 2555 จะอยู่ที่ประมาณ 2.2 ล้านตันผลปาล์มสด โดยทั้งปีจะอยู่ที่ 11 ล้าน ตันผลปาล์มสด และขณะที่ปริมาณสต๊อกน้ำมันต้องรอให้ทางกระทรวงพาณิชย์ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลสต๊อกแจ้งตัวเลขก่อน ซึ่งคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ(กนป.) จะพิจารณาว่า จำเป็นต้องการนำเข้าน้ำมันปาล์มจากประเทศมาเลเซียหรือไม่ แต่ในความเห็นส่วนตนเห็นว่า ยังไม่จำเป็นที่จะต้องมีการนำเข้าน้ำมันปาล์มจากมาเลเซีย


