ธุรกิจเงินล้าน ช้างเลี้ยงคน คนเลี้ยงช้าง
ผมมีโอกาสมานั่งหลังช้างครั้งแรกในชีวิตก็ตอนมาที่ วังช้างอยุธยา แล เพนียด อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
โดย...สมชาย บุญเหลือ
ผมมีโอกาสมานั่งหลังช้างครั้งแรกในชีวิตก็ตอนมาที่ วังช้างอยุธยา แล เพนียด อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ตอนมาถ่ายทำรายการธุรกิจติดดาวบอกตรงๆ ตื่นเต้นมากกลัวจะตกจากหลังช้างลงมา แต่ถ้าใครได้มานั่งจริงๆ ตัดปัญหาความกลัวไปได้เลย เพราะเขามีระบบดูแลความปลอดภัยเป็นอย่างดี เนื่องจากการนั่งบนหลังช้าง เป็นธุรกิจที่สร้างชื่อเสียงให้กับวังช้างอยุธยาฯ มีไว้บริการนักท่องเที่ยว และถือเป็นรายได้ก้อนงาม ที่นำมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องช้างและควาญช้างนั่นเอง
ใครมาอยุธยาหากไม่ได้มานั่งช้างชมโบราณสถานในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ถือว่ามาไม่ถึงอยุธยา จึงไม่แปลกที่เห็นนักท่องเที่ยวต่างประเทศต่อคิวรอนั่งช้างชมสถานที่สำคัญของเมืองอยุธยายาวเป็นหางว่าวแทบทุกวัน ยิ่งเป็นวันเสาร์อาทิตย์คิวนั่งช้างจะยาวเหยียด อัตราราคานั่งช้างในแต่ละเที่ยวมีตั้งแต่ 500, 400 และ 200 บาทตามระยะทาง
เส้นทางการเดินของช้างนำนักท่องเที่ยวชมโบราณสถาน อาทิ ศาลหลักเมือง วัดจอมเกษ คุ้มขุนแผน วัดพระราม วิหารพระมงคลบพิตร อนุสาวรีย์พระเจ้าอู่ทอง บึงพระราม และอยุธยามหาปราสาท ตลอดเส้นทางเดินจะมีควาญช้างเฝ้าระวังความปลอดภัย เฝ้าระวังช้าง และคนทั่วไปเข้ามารบกวนช้าง ระหว่างเส้นทางเดิน เป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง
นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมของช้างเล็กอายุตั้งแต่ 310 ขวบ แสดงความสามารถโชว์เพื่อคั่นเวลา เช่น ช้างสวัสดี ออกเสียง การนั่งกับพื้น ยืนสองขา เดินสองขา สามขา เป่าเมาท์ออร์แกน ใส่หมวกให้นักท่องเที่ยว นั่งบนเก้าอี้ เล่นฮูลาฮูป จะโชว์วันละ 3 รอบ ก่อนและหลังการแสดง จะเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวเข้ามาถ่ายภาพกับช้างน้อย คิดค่าบริการคนละ 20 บาท เพื่อเป็นรายได้ให้กับช้างและควาญช้าง ส่วนใครอยากจะให้อาหารช้างก็สามารถซื้อ กล้วย อ้อยสับ และอาหารเม็ด เขาขายเป็นตะกร้า
อิทธิพันธ์ ขาวละมัย ผู้จัดการทั่วไป วังช้างอยุธยาฯ บอกว่า จุดเริ่มต้นของวังช้างอยุธยาฯ เกิดจาก ลายทองเหรียญ มีพันธ์ เจ้าของวังช้างอยุธยาฯ เห็นว่าช้างควรกลับมาอยู่ในสถานที่ที่เป็นประวัติศาสตร์ นำมาแต่ตัวให้สวยงาม จัดสิ่งแวดล้อมให้ดีเหมือนกับปราสาทมหาราชาที่อินเดีย หรือเมืองไคโรที่มีอูฐเดิน ลายทองเหรียญจึงไปขออนุญาตกรมศิลปากรนำช้างมาเดินแต่งตัวให้สวย เพื่อให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป จะได้ประชาสัมพันธ์จังหวัด สร้างรายได้ให้ช้างและควาญช้าง
โครงการเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2540 ส่งผลทำให้โบราณสถานมีชีวิตชีวา จากช้างเช่า 8 เชือก อยู่จนกระทั่งสามารถผสมเองได้กลายมาเป็นช้างเรา ปัจจุบันทำให้มีช้างอยู่ 159 เชือก ที่มีตั๋วรูปพรรณถืออยู่ในมือ แต่อยู่ในอยุธยา 79 เชือก ที่เหลือหมุนเวียนส่งช้างไปทั่วประเทศให้ผู้ประกอบการอื่นยืมไปใช้ ทั้ง เชียงใหม่ กาญจนบุรี พัทยา หรือทางภาคใต้ เพราะช้างต้องหมุนเวียนกันทำงาน
ไฮไลต์ของวังช้างอยุธยาฯ อยู่ที่วันเสาร์อาทิตย์ จะมีกิจกรรมลอดท้องช้างและนั่งหลังช้าง รายได้หลักจะมาจาก 2 กลุ่ม คือรายได้หลักได้จากบริษัททัวร์ที่มาจากต่างประเทศ นำนักท่องเที่ยวมาทุกวัน แต่จะมามากในวันเสาร์อาทิตย์ จะนั่งช้างชมโบราณสถาน อีกกลุ่มเป็นนักเรียนนักศึกษา และคนทั่วไทยที่มาไหว้พระ 9 วัด เพราะคนไทยไม่นิยมนั่งช้าง นิยมให้อาหารช้าง ลอดท้องช้างมากกว่า รายได้จากคนไทยจะมาจากตรงนี้เป็นหลัก แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะนิยมนั่งช้างมาก ก็จะเป็นรายได้ที่นำไปใช้จ่ายเป็นค่าน้ำค่าไฟ เงินเดือนเลี้ยงดูแลลูกน้องในวังช้าง แต่ 15 ปีที่ทำมา
อิทธิพันธ์มองว่า สิ่งที่ได้มากกว่าคือกำไรชีวิต และกำไรจากลูกช้างที่ได้จากการผสมพันธุ์ สร้างชื่อเสียงให้จังหวัดและประเทศชาติ อิทธิพันธ์การันตี ช้างที่จะพานั่งท่องเที่ยวนั่งชมโบราณสถาน ต้องฝึกมาอย่างดี เพราะช้างอยู่กับเมือง ต้องฝึกเดินบนถนน ไม่ตื่นรถ ไม่ตกใจ เดินตามเส้นทาง หัดเทียบเกย ควาญช้างเองก็ต้องมีความสามารถในการควบคุม ช้างเองก็ต้องมีนิสัยดี จัดโปรแกรมว่าตัวไหนเดินคู่กับตัวไหน เพราะบางเชือกไม่ถูกกัน ดังนั้นต้องหัดเดินเป็นประจำ จะมีการจับเวลาได้ ก่อนเดินช้างมักจะมีประสบการณ์มาแล้ว อีกส่วนก็นำมาฝึก ไม่ให้ตกใจรถ เสียงแตร ความร้อนบนถนนก็ต้องแก้ไข ช้างเดินบนถนนร้อนก็ต้องนำน้ำรดถนนตลอดเส้นทาง
ช้างถ่ายก็จะมีพนักงานเก็บมูลช้าง เดินไปได้ตามกำหนดเวลา ก็ต้องกลับมาอาบน้ำ กินน้ำ ควาญช้างจะให้อาหารตลอดเวลา มีสัตวแพทย์ดูแลทุกตัว เราทำธุรกิจแบบดูแลช้าง ดูแลควาญช้าง และจัดการอย่างเป็นระบบ นักท่องเที่ยวหากมาที่นี่ถ้าไม่ได้มาขี่ช้างเหมือนกับมาไม่ถึง เป็นคำที่พูดกันปากต่อปาก อยู่ข้างถนนถ่ายรูปก็ถือว่าธรรมดา แต่ถ้าได้นั่งหลังช้างแล้วถ่ายรูปถือว่าสุดยอด เหมือนนั่งรถโรลส์รอยซ์ราคา 40 ล้าน เหมือนนั่งเครื่องบินแล้วถ่ายรูปเก็บไว้ ช้างในโลกนี้มีไม่กี่ประเทศที่นั่งแล้วได้ถ่ายรูป
สำหรับช้างวังช้างอยุธยาฯ จะรอรายได้จากนักท่องเที่ยวอย่างเดียวไม่พอ ดังนั้นจะรับงานอีเวนต์ ถ่ายหนัง ถ่ายละคร ถ่ายโฆษณาทั้งในและต่างประเทศ งานแต่งงาน งานแกรนด์ดินเนอร์ ภาพยนตร์ดังๆ ที่มีช้างร่วมแสดง 90 เปอร์เซ็นต์จะเป็นช้างที่วังช้างอยุธยาฯ เกือบทั้งหมด
นอกจากนั้นยังมี หมู่บ้านช้างเพนียดหลวง ซึ่งอยู่ห่างจากวังช้างอยุธยาฯ ไม่มากนัก ที่นี่จะเป็นศูนย์รวมช้างในอยุธยาทั้งหมด บนเนื้อที่ 9 ไร่เศษ แต่มีช้างอยู่ถึง 79 เชือก มีทั้งช้างดีและช้างเกเร จนนักท่องเที่ยวทั่วโลกงงเลี้ยงได้อย่างไร เป็นหมู่บ้านช้างตั้งแต่ผสมพันธุ์ การอยู่อาศัย การดูแลรักษา ยังเป็นศูนย์เรียนรู้เรื่องช้างแห่งประเทศไทยอย่างครบวงจร มีการจัดการมูลช้าง การจัดการเรื่องสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ วิจัยเรื่องดีเอ็นเอของช้าง การตั้งครรภ์ดูแลอนุบาล ทุกอย่างอยู่ที่นี่หมด เวลา 15 ปี ที่นี่มีลูกช้างเล็กๆ เกิดมา 55 เชือก ในโลกนี้มีเพียงหมู่บ้านช้างเพนียดหลวงเท่านั้น อิทธิพันธ์มองว่า ช้างจะไม่สูญพันธุ์ไปจากประเทศไทยแน่นอน เพราะมีการพัฒนาสายพันธุ์ แต่ต้องหาพ่อช้างที่มีความสมบูรณ์งวงงาสวยงามตามหลักคชลักษณ์ ช้างตัวผู้มีหลายเกรด แต่เขาจะคัดตัวที่หล่อ มีความสมบูรณ์ตามหลักคชลักษณ์ และคัดเลือกช้างที่มีนิสัยดีไปออกงาน
ดังนั้น ใครอยากมาดูช้างในเชิงธุรกิจมาดูได้ที่วังช้างอยุธยาฯ ที่นี่จะเป็นเรื่องของการทำกิจกรรมหารายได้ไม่พูดอนุรักษ์ แต่ใครมาที่หมู่บ้านช้างเพนียดหลวง จะได้เห็นในมุมของการอนุรักษ์ ตั้งแต่เกิดยันตาย ย่อประวัติศาสตร์ไทยมาอยู่ที่นี่ครบเครื่อง ชอบแบบไหนก็ดูแบบนั้น หรือดูให้ครบทั้งสองแบบก็ได้ครับ


