posttoday

ชะลอก่อนรู้ผลเลือกตั้งกรีซแต่สัปดาห์หน้ามีปัจจัยบวกรออยู่มาก

14 มิถุนายน 2555

โดย...พงศ์ภัทร สิริพิพัฒน์

โดย...พงศ์ภัทร สิริพิพัฒน์

ตลาดหุ้นสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวขึ้น โดยตลาดหุ้นไทยขึ้นโดดเด่นกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาค ปรับตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดกว่า 50 จุด จากแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันเป็นหลัก ส่วนหนึ่งคาดว่าเกิดจากแรงซื้อของกองทุนในประเทศที่มีการออกกองทุนใหม่ที่ขายหุ้นเมื่อถึงเป้าหมาย หรือ Trigger Funds ที่ออกในช่วงที่ผ่านมามาก ส่วนปัจจัยภายนอก อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสเปนที่ปรับตัวขึ้น เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้นักลงทุนในตลาดเกิดความกังวล ส่วนการช่วยเหลือของภาคธนาคารจาก EU จำนวน 1 แสนล้านยูโร เป็นปัจจัยบวกเพียงระยะสั้นก่อนที่ตลาดจะมีช่วงอ่อนตัวลง ภาพโดยรวมตลาดหุ้นไทยเป็นลักษณะของการผันผวนในทางขึ้นและแกว่งตัวกว้างก่อนมีช่วงอ่อนตัวลงเมื่อวานนี้

ทิศทางในระยะสั้น คาดว่าตลาดจะกังวลเรื่องผลการเลือกตั้งกรีซในวันที่ 17 มิ.ย.นี้ ส่งผลให้การปรับตัวขึ้นของตลาดในสัปดาห์นี้ยังคงจำกัด นักลงทุนส่วนหนึ่งรอผลการเลือกตั้งว่าพรรค New Democracy หรือพรรค Syriza จะเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล หากพรรค Syriza เป็นแกนนำในการจัดตั้งจะมีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้น แม้ว่าขนาดเศรษฐกิจของกรีซจะไม่มากเมื่อเทียบกับสเปน แต่หากมีโอกาสในการผิดนัดชำระหนี้มากขึ้น เราคาดว่าอาจจะส่งผลลบต่อปัจจัยจิตวิทยาได้ในระยะสั้น

ส่วนทิศทางตลาด หลังจากนั้นประเมินว่าจะมีปัจจัยบวกที่ส่งผลต่อตลาดหรือกลับมาขึ้นได้ โดยมีการประชุมเฟดในวันที่ 19-20 มิ.ย.นี้ หากมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการเตรียมพร้อมที่จะออกมาตรการเพิ่มจะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาด โดยในเบื้องต้นตลาดคาดว่าเฟดจะต่ออายุมาตรการ Operation Twist ที่จะหมดอายุในเดือนนี้ออกไป หลังจากที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาแย่มาก และกรรมการเฟดหลายท่านส่งสัญญาณในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ชาร์ลส อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก เสนอให้เฟดใช้มาตรการผ่อนคลายมากขึ้น เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ เช่นเดียวกับรองประธานเฟด เจนเนต ยาเลน ที่เริ่มให้ความสำคัญของการเติบโตเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ในวันที่ 1819 มิ.ย. ยังมีการประชุม จี20 ส่งผลให้มีโอกาสเกิดข่าวบวกกับตลาดได้มากในสัปดาห์หน้า โดยปัญหาในขณะนี้ คือ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลหลายชาติในยุโรปปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสัญญาณของความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น รวมถึงต้นทุนการเงินของการออกพันธบัตรใหม่ให้เพิ่มขึ้นตามด้วย ทำให้มีโอกาสที่ทาง ECB อาจจะมีมาตรการอะไรในการประชุมครั้งถัดไปวันที่ 5 ก.ค. เนื่องจากหลังจากหมดโปรแกรม LTRO ที่ส่งเสริมให้เกิดการ Carry Trade และช่วยส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลงไปแล้ว อัตราผลตอบแทนพันธบัตรก็ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยทาง ECB ยังไม่มีมาตรการที่เป็นรูปธรรมในการแก้ไขเรื่องอัตราผลตอบแทนพันธบัตร

ส่วนปัจจัยเรื่องการเมือง น่าจะผ่อนคลายลงไป โดยคาดว่าจะมี พ.ร.ฎ.ปิดสภาในวันที่ 19 มิ.ย.นี้ ทำให้ปัจจัยในประเทศหลักๆ ที่มีผลต่อตลาดน่าจะเป็นประเด็นเรื่องเงินทุนไหลออก รวมถึงแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันที่มีโอกาสซื้อในระดับที่ลดลง หลังจากที่ซื้อสะสมมาต่อเนื่องไปแล้วกว่า 7,000 ล้านบาท ส่วนเม็ดเงินกองทุน Trigger Funds ทั้งหมดคาดว่าจะมีวงเงินประมาณ 1.52 หมื่นล้านบาท

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้ขายช่วงปรับตัวขึ้นและรอซื้อคืนช่วงอ่อนตัวลงก่อนสัปดาห์หน้า เนื่องจากเชื่อว่าหลังจากนี้น่าจะเป็นการพักฐานในสัปดาห์นี้ ก่อนที่จะรู้ผลการเลือกตั้งกรีซ และกลับมาปรับตัวขึ้นได้ในสัปดาห์หน้าจากการประชุมที่น่าจะมีปัจจัยบวกต่อตลาด โดยมีแนวรับ 1,145 และ 1,130 จุด

ข่าวล่าสุด

เปิด Top 3 ดวงขึ้นแรงสุด 12 นักษัตร นักธุรกิจ ใครปัง รับปีม้าไฟ