posttoday

เอสซีจีดึงญี่ปุ่นร่วมทุนผลิตสินค้ามูลค่าเพิ่ม

13 มิถุนายน 2555

เอสซีจี เปเปอร์ ผนึกทุนญี่ปุ่น ทุ่ม 2,200 ล้าน ตั้งบริษัทพัฒนาสินค้ามูลค่าเพิ่ม ลุยบรรจุภัณฑ์อาหาร การแพทย์

เอสซีจี เปเปอร์ ผนึกทุนญี่ปุ่น ทุ่ม 2,200 ล้าน ตั้งบริษัทพัฒนาสินค้ามูลค่าเพิ่ม ลุยบรรจุภัณฑ์อาหาร การแพทย์

นายเชาวลิต เอกบุตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ การเงินและการลงทุน เอสซีจี เปิดเผยว่า เอสซีจี เปเปอร์ ได้ร่วมทุนกับบริษัท นิปปอน เปเปอร์ อินดัสทรีส์ และบริษัท เอ็นพี เทรดดิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของนิปปอน เปเปอร์ กรุ๊ป ประเทศญี่ปุ่น จัดตั้งบริษัท สยาม นิปปอน อินดัสเตรียล เปเปอร์ เพื่อขยายกำลังการผลิตสินค้ามูลค่าเพิ่ม

การร่วมทุนดังกล่าว เอสซีจี เปเปอร์ ถือหุ้น 45% ขณะที่ 2 บริษัทผู้ร่วมทุนประเทศญี่ปุ่นถือหุ้นรวมกัน 55% คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนรวม 2,200 ล้านบาท โดยเป็นการขยายการลงทุนในกลุ่มกระดาษ Machine Glazed ซึ่งมีความมันวาวและความบาง 2080 แกรม ส่วนใหญ่ใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับอุตสาหกรรมอาหารและอุตสาหกรรมทางการแพทย์ ซึ่งถือเป็นสินค้ามูลค่าเพิ่ม

ทั้งนี้ ยังสอดคล้องกับกลยุทธ์การเติบโตสู่ผู้นำธุรกิจอย่างยั่งยืนในอาเซียนของเอสซีจี โดยมุ่งเน้นพัฒนาสินค้ามูลค่าเพิ่ม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างครบถ้วน โดยโรงงานจะตั้งอยู่ที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี มีกำลังการผลิต 4.3 หมื่นตันต่อปี คาดเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้กลางปี 2557

SCG Paperหนึ่งในธุรกิจหลักของเอสซีจี มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย อาทิเช่น เยื่อกระดาษ กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษบรรจุภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูก โดยมีฐานการผลิตทั่วภูมิภาคอาเซียน

NPI และ NPT ปัจจุบันเป็นบริษัทย่อยของ NPG ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตกระดาษรายใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น ผลิตภัณฑ์หลักของ NPG ได้แก่ กระดาษพิมพ์เขียน และกระดาษสำหรับอุตสาหกรรม นอกจากธุรกิจการผลิตกระดาษ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของกลุ่มแล้ว NPG ยังมีธุรกิจการค้า (Trading) ซึ่งในปัจจุบันมีเครือข่ายกระจายไปในหลายทวีปอาทิ เช่น ยุโรป อเมริกา และเอเชีย

ข่าวล่าสุด

โปรแกรมบอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด ผลบอลสด วันจันทร์ที่ 22 ธ.ค. 68