แอมเวย์ดันอีสปริงชิงตลาดน้ำดื่ม

สบช่องน้ำท่วมปีก่อนยอดพุ่งตั้งเป้าสิ้นปีนี้แตะ2,100ล้าน

แอมเวย์ รุกหนักกลุ่มเพื่อสุขภาพ ดัน “อีสปริง”เครื่องกรองน้ำ เจาะคนรุ่นใหม่ รับอานิสงส์น้ำท่วมดันยอดขายพุ่ง หวังสิ้นปีแตะ 2,100 ล้านบาท

นายกิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในปีนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญในการทำตลาดกลุ่มเพื่อสุขภาพและความงาม โดยมุ่งทำตลาดเชิงรุกสินค้าเครื่องกรองน้ำ “อีสปริง” ต่อเนื่องจากปีก่อน เนื่องจากพบว่ามีอัตราการเติบโตสูง จากพฤติกรรมผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับเครื่องกรองน้ำและเข้าไปแทรกตลาดน้ำดื่มมากขึ้น

ทั้งนี้ อีสปริง จะเป็นสินค้าเรือธงในการทำตลาดในครึ่งปีหลัง จากปัจจุบันเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายครัวเรือนที่รักสุขภาพกว่า 5 แสนครัวเรือน และกลุ่มครอบครัวคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการสินค้าเครื่องกรองน้ำที่สะอาด มีประสิทธิภาพ และทันสมัย เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการบริโภคน้ำดื่ม โดย อีสปริง มีจุดเด่นราคาขายเริ่มต้นที่ 1 บาทต่อลิตร ซึ่งมีราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับน้ำดื่มที่วางขายทั่วไป

ขณะเดียวกัน บริษัทยังเห็นโอกาสในการทำตลาดจากการที่ครัวเรือนไทยมีการใช้เครื่องกรองน้ำในบ้านสัดส่วนถึง 50% จากประชากรทั่วประเทศ

จากแผนการตลาดที่วางไว้ บริษัทคาดว่าจะมียอดขายเครื่องกรองน้ำในปีนี้อยู่ที่ 2,100 ล้านบาท และเป็นผู้นำในตลาดเครื่องกรองน้ำด้วยส่วนแบ่งมากกว่า 50% โดยยอดขายเครื่องกรองน้ำของบริษัทในปี 2554 ที่ผ่านมา เติบโตสูงถึง 20-30% และบริษัท แอมเวย์ ประเทศไทย มียอดขายเครื่องกรองน้ำอีสปริงสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งในโลก แซงหน้าประเทศไต้หวันอีกด้วย

“ปัจจัยหลักส่วนหนึ่งมาจากน้ำท่วมใหญ่ในปีก่อน ซึ่งทำให้ผู้บริโภคคนไทยต้องการซื้อเครื่องกรองน้ำสูงมากขึ้น ทำให้เกิดปัญหาสินค้าขาดตลาด โดยปัจจุบันอีสปริงอยู่ในตลาดมานาน 17 ปีแล้ว ซึ่งที่ผ่านมามียอดขายเติบโตปีละ 8-10%” นายกิจธวัช กล่าว

ขณะที่เครื่องกรองน้ำอีสปริงในปัจจุบัน นำเข้าสินค้ามาจากประเทศสหรัฐอเมริกา แต่นโยบายของบริษัทแม่ เตรียมใช้ประเทศมาเลเซีย เป็นฐานประกอบการผลิตเครื่องกรองน้ำแห่งใหม่ โดยพิจารณาจากความเหมาะสมด้านทำเลเป็นหลัก โดยสำหรับภาพรวมตลาดเครื่องกรองน้ำมูลค่า 3,700 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นสินค้าที่ขายผ่านช่องทางขายตรงประมาณ 70% และพบว่าตลาดรวมเครื่องกรองน้ำในขณะนี้เติบโตสูงกว่าตลาดน้ำดื่มแล้ว

นายกิจธวัช กล่าวถึงภาพรวมยอดขายของบริษัทในช่วง 5 เดือนแรกที่ผ่านมาว่า มีอัตราการเติบโต 8% ตามเป้าหมายที่วางไว้ และยอดขายเครื่องกรองน้ำก็เติบโตในระดับใกล้เคียงกัน โดยกลุ่มสินค้าที่มียอดขายเติบโตได้ดี จะเป็นกลุ่มเพื่อสุขภาพและความงาม

ด้านแผนการตลาดนับจากนี้ จะขยายช่องทางไปยังสื่อออนไลน์ และโซเชียลมีเดียมากขึ้น ซึ่งในปีนี้คาดว่ายอดขายของบริษัทจะเติบโต 7-10% จากปีก่อน ที่มียอดขายรวม 1.55 หมื่นล้านบาท ขณะที่ภาพรวมธุรกิจขายตรงปีนี้ คาดจะเติบโต 5-7%