มิสทินกางปีก รับมือ‘เออีซี’
ควัก200ล.ลงทุนตั้งรง.เครื่องสำอางในพม่า
ควัก200ล.ลงทุนตั้งรง.เครื่องสำอางในพม่า
มิสทิน รุกอาเซียนรับเออีซี ลงขันสหพัฒน์ผุดโรงงานที่พม่า 200 ล้าน พร้อมบุกอินโดฯ คาดปีนี้รายได้ต่างประเทศ 2,000 ล้าน ฝัน 5 ปี 2 หมื่นล้าน
นายดนัย ดีโรจนวงศ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางมิสทิน ระบบขายตรง กล่าวว่า บริษัทเตรียมแผนขยายธุรกิจในอาเซียนเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) โดยจะร่วมลงทุนกับเครือสหพัฒน์เปิดโรงงานมิสทินในพม่าเพิ่มอีก 1 โรงงาน มูลค่าลงทุนราว 200 ล้านบาท บริษัทถือหุ้น 40% โดยโรงงานดังกล่าวจะเป็นกำลังสำคัญในการบุกตลาดอาเซียนของมิสทิน
ก่อนหน้านี้ มิสทินมีโรงงานผลิตสินค้าประเภทเครื่องหอมในพม่าแล้ว 1 โรงงาน ส่วนโรงงานใหม่จะอยู่ในโครงการสวนอุตสาหกรรมของเครือสหพัฒน์ จะเป็นโรงงานผลิตเครื่องสำอางและบำรุงผิว ซึ่งในอนาคตเมื่อเปิดเออีซีแล้ว ทำให้ภาษีลดลง โรงงานดังกล่าวจะเป็นกำลังสำคัญของมิสทินในการผลิตสินค้า เพื่อวางจำหน่ายทั้งตลาดประเทศไทยและอาเซียน
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรเพื่อขยายธุรกิจในอินโดนีเซีย ซึ่งอยู่ระหว่างการตัดสินใจเลือกวิธีการลงทุน โดยอาจเป็นการลงทุนเปิดร้านเครื่องสำอาง หรือ เปิดโรงงานผลิตสินค้าและจัดจำหน่ายในระบบขายตรง หรือการใช้แบรนด์ใหม่ในการทำตลาด คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 100 ล้านบาท ซึ่งทั้งโครงการในพม่าและอินโดนีเซีย ต้องรออีก 2 ปี ถึงจะเริ่มธุรกิจอย่างจริงจัง
วางเป้าหมายยอดขาย 2 หมื่นล้านบาทภายใน 5 ปี (2555-2559) โดยคาดว่าจะมีรายได้จากต่างประเทศ 2,000-3,000 ล้านบาท จากปัจจุบันรายได้จากต่างประเทศมีสัดส่วนไม่ถึง 10% ส่วนปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ 1.2 หมื่นล้านบาท เติบโต 13% จากปีก่อน ขณะที่ตลาดรวมคาดว่าจะเติบโตเป็นเลขหลักเดียว เพราะมีปัจจัยด้านต้นทุนค่าครองชีพ ซึ่งต้องรอดูว่าจะมีผลกระทบต่อกำลังซื้อมากน้อยเพียงใด
นายดนัย กล่าวว่า สำหรับการทำตลาดในประเทศ จะเน้นหาพันธมิตรเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง โดยล่าสุดจับมือกับวุฒิศักดิ์ คลินิก พัฒนาผลิตภัณฑ์โลชันมิสทีน ไวต์ สปา กลูตาไธโอน ยูวี ไวต์ โดยใช้งบประมาณในการทำตลาด 50 ล้านบาท คาดว่าจะมียอดขาย 6 ล้านขวดในสิ้นปีนี้ และในอนาคตอาจมีความร่วมมือระหว่างกันทั้งในด้านสินค้าและช่องทางจำหน่าย
นายณกรณ์ กรณ์หิรัญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก กรุ๊ป กล่าวว่า ความร่วมมือกับมิสทินอาจขยายไปสู่การร่วมมือกันด้านช่องทางจำหน่ายด้วย ซึ่งขณะนี้มีสินค้าบางตัวของบริษัทไปจำหน่ายผ่านแคตตาล็อก ฟรายเดย์ เช่น น้ำดื่ม เป็นต้น โดยปีนี้จะขยายสาขาเพิ่มอีก 10 แห่ง ใช้งบลงทุนแห่งละ 10-15 ล้านบาท และจะใช้งบการตลาด 200 ล้านบาท
ทั้งนี้ ภายในเดือน เม.ย.นี้ จะแถลงข่าวความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งเป็นกองทุนการเงินที่จะมาถือหุ้นบริษัทในสัดส่วน 30% โดยพันธมิตรจะเข้ามาสร้างความแข็งแกร่งในการบุกตลาดต่างประเทศ โดยปีนี้จะขยายสาขาในต่างประเทศเพิ่ม ได้แก่ เวียดนามและพม่า จากปัจจุบันมีสาขาในต่างประเทศ 5 แห่ง ได้แก่ กัมพูชา 2 สาขา ลาว 3 สาขา จากสาขาทั้งหมด 115 สาขา


