posttoday

วิชาเศรษฐีของมหาเศรษฐีระดับโลกกับธุรกิจครอบครัว (จบ)

20 มีนาคม 2555

สัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้นำเรื่องราวข้อคิดจากหนังสือแปลชื่อ “วิชาเศรษฐี”

สัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้นำเรื่องราวข้อคิดจากหนังสือแปลชื่อ “วิชาเศรษฐี” (The Disciplines of the Rich for their Kids) ที่แปลมาจากภาษาเกาหลี เขียนโดย พังฮยอนชอล แปลโดย วิทิยา จันทร์พันธ์ พิมพ์ครั้งที่ 2 โดยสำนักพิมพ์อมรินทร์

แนวทางการสอนลูกของเหล่ามหาเศรษฐีระดับโลก 10 คน ไม่ว่าจะเป็น บิล เกตส์ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ลีกาชิง และลีกอนฮี มีหลายสิ่งหลายอย่างเหมือนกัน 4 ข้อ คือ

1) การอ่านที่ช่วยบุคคลเหล่านั้นเปิดโลกอนาคตและทำนายอนาคตได้

2) ความประหยัด

3) ความสำคัญของการทำงานของลูกหลาน

4) ให้รู้จักหน้าที่ทางสังคม

ขณะที่สูตรร่ำรวยหรือพลังพื้นฐานสู่ความร่ำรวยของมหาเศรษฐีมีอยู่ 3 ข้อ

1) วิธีเพิ่มรายได้จากการสร้างตนเอง

2) ฝึกนิสัยลดรายจ่าย

3) สอนวิธีจัดการทรัพย์สินให้ลูกหลานโดยเฉพาะคุณค่าของเงินและหลักจริยธรรมในการทำงาน (Work Ethics) และการบริจาคเงิน

มหาเศรษฐี 10 ท่าน ผู้เขียนได้สรุปไว้ว่า มีสูตรความร่ำรวยแต่ละคนดังนี้

(1) สูตรความร่ำรวยของ บิล เกตส์ “จงเป็นนักรวบรวมข้อมูล”

(2) สูตรความร่ำรวยของ จอห์น ดี. ร็อกกีเฟลเลอร์ “ต้องสอนเรื่องการใช้เงินค่าขนมอย่างรอบคอบที่สุด”

(3) สูตรความร่ำรวยของ พอล เกตตี “สอนเรื่องความสำคัญของการทำงาน”

(4) สูตรความร่ำรวยของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ “สอนให้ลูกใช้ชีวิตด้วยตัวเอง”

(5) สูตรความร่ำรวยของ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ “ต้องฝึกอย่างสม่ำเสมอจนเป็นนิสัย”

(6) สูตรความร่ำรวยของ แจ๊ก เวลช์ “เลี้ยงลูกให้มีนิสัยขยันทำงาน”

(7) สูตรความร่ำรวยของ แซม วอลตัน “สอนคุณค่าของการประหยัด”

(8) สูตรความร่ำรวยของ ลีกาชิง “สอนให้ลูกรู้จักความลำบากตั้งแต่เด็ก”

(9) สูตรความร่ำรวยของ ลีกอนฮี “เป็นคนเก่งรอบด้าน”

(10) สูตรความร่ำรวยของ เจ.เค. โรว์ลิ่ง “เลี้ยงลูกให้มีความสามารถในการแก้ปัญหา”

การที่นักเขียนจากเอเชียนำประวัติมหาเศรษฐีทั้งสหรัฐและเอเชียมาเล่าให้ฟังผ่านตัวหนังสือ จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ผมเชื่อว่าหากท่านและครอบครัวได้อ่านหนังสือเล่มนี้ถึงแม้จะเขียนเมื่อปี 2007 ผ่านมาแล้ว 5 ปี เรื่องนี้ก็ไม่ล้าสมัยเลย

โดยเฉพาะความสำเร็จหรือล้มเหลวของธุรกิจครอบครัวขึ้นอยู่กับการอบรมเลี้ยงดูของพ่อแม่และครอบครัวที่ผ่านมาเป็นหลัก

ผมจึงเชื่อว่าจะเป็นแนวทางให้ธุรกิจครอบครัวไทยสืบทอดธุรกิจได้อย่างยั่งยืนได้นั้น

สิ่งแรกก็คือ การอ่านเป็นการสร้างอนาคตของสมาชิกในครอบครัวเหมือนที่ผมได้เขียนบทความตอนแรกเมื่อ 9 ปีที่แล้วในคอลัมน์หน้าต่างบานแรกของโพสต์ทูเดย์ และหนังสือเล่มนี้ก็เป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่ผมขอแนะนำ

ผมไม่ได้หวังว่าทุกคนจะรวยเป็นมหาเศรษฐี แต่แนวคิดดังกล่าวจะทำให้ทุกคนรวยอย่างพอเพียงตามความสามารถของแต่ละคนโดยไม่ลืมความรับผิดชอบต่อสังคมและส่วนรวมด้วยครับ

ผมจึงอยากให้ผู้อ่านย้อนกลับไปอ่านหนังสือของผม ในบทที่ 13 “พรอันสูงสุดกับพินัยกรรม” และบทที่ 21 “คาถาหัวใจเศรษฐีของท่าน ว.วชิรเมธี กับธุรกิจครอบครัว” ก็จะพบว่า การส่งมอบธุรกิจและทรัพย์สินให้สมาชิกในครอบครัวและการรักษาความมั่งคั่งไว้ไม่ยากจนเกินไป ขอให้ทุกท่านเป็นเศรษฐีที่มั่งคั่งและมีความสุขตามความพอเพียงและพอใจของตนเองครับ

ข่าวล่าสุด

เปิด Top 3 ดวงขึ้นแรงสุด 12 นักษัตร นักธุรกิจ ใครปัง รับปีม้าไฟ