posttoday

คนผวาคุ้มครองเงินฝากไร้น้ำยา

27 กุมภาพันธ์ 2555

ผู้ฝากเงินแห่ถามลดเก็บเงินแบงก์กระทบคุ้มครองเงินฝาก "สคฝ."ชี้เงินไม่พอคุ้มครองไม่พอให้รัฐบาลเข้ามาอุ้มแทน

ผู้ฝากเงินแห่ถามลดเก็บเงินแบงก์กระทบคุ้มครองเงินฝาก "สคฝ."ชี้เงินไม่พอคุ้มครองไม่พอให้รัฐบาลเข้ามาอุ้มแทน

นายสิงหะ นิกรพันธุ์ ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีประชาชนให้ความสนใจสอบถามเกี่ยวกับกรณีการลดอัตราเงินนำส่งเข้า สคฝ. เหลือ 0.01% จาก 0.4% ตามแนวทางการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซึ่ง สคฝ. ยืนยันว่าไม่เป็นปัญหา การดูแลเงินฝากของประชาชน

"หากเกิดปัญหาลุกลามจนกระทั่งกระทบระบบสถาบันการเงินขึ้นมาจริงๆ หน่วยงานภาครัฐก็จะต้องช่วยกันเข้าไปดูแลช่วยแก้ไขปัญหา ซึ่งกรณีประเทศสหรัฐอเมริกา หรือญี่ปุ่น ถือเป็นตัวอย่างที่รัฐบาลเข้าไปดูแลสถาบันการเงินในช่วงวิกฤติ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ฝากเงิน" นายสิงหะกล่าว

นายสิงหะ กล่าวว่า ระบบสถาบันการเงินไทยในปัจจุบันยังแข็งแกร่ง หลังจากมีบทเรียนจากวิกฤติปี 2540 ทำให้สถาบันการเงินและประชาชนรวมทั้งผู้กำกับดูแลมีการปรับตัว มีการระมัดระวังป้องกันความเสี่ยง และในขณะนี้เศรษฐกิจไทยมีการขยายตัวที่ดีขึ้น ธนาคารพาณิชย์ยังแข็งแกร่ง เพราะมีระดับเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงค่อนมั่นคงมีกว่า 1 เท่าจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ซึ่งค่อนข้างมั่นคงสูง โอกาสที่ธนาคารพาณิชย์จะมีปัญหาจนถูกปิดมีน้อยมาก

สคฝ. เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่คุ้มครองเงินฝากมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2551 ซึ่งคุ้มครอง 100% และกฎหมายได้กำหนดให้ปรับการคุ้มครองเงินฝากมาอยู่ 50 ล้านบาทต่อรายในปัจจุบัน และจะลดเหลือ 1 ล้านบาทต่อรายในสิงหาคม 2555 นี้ ครอบคลุมบัญชีเงินฝากถึง 98.5%

อย่างไรก็ตามวงเงินคุ้มครองสามารถทบทวนและปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม อย่างเช่นในต่างประเทศหลังเกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลก เมื่อปี 2551 ก็ได้มีการปรับเพิ่มวงเงินการคุ้มครองเงินฝาก

ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2554 มีจำนวนผู้ฝากเงินที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองเงินฝากจาก สคฝ. รวมทั้งสิ้นประมาณ 60 ล้านราย ผู้ฝากส่วนใหญ่ 98.45% เป็นผู้ฝากเงินที่มีวงเงินฝากไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยคิดเป็นเงินฝากทุกประเภทที่ได้รับความคุ้มครองมีจำนวนทั้งสิ้น 7.3 ล้านล้านบาท  ซึ่งเป็นการคุ้มครองทั้งส่วนของเงินฝากของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล