3 ขั้นตอนใช้ความซื่อสัตย์หาทุนต่อยอดธุรกิจ
หากธุรกิจของท่านกำลังไปได้สวย ต้องเพิ่มการผลิตสินค้าและบริการแบบก้าวกระโดด
หากธุรกิจของท่านกำลังไปได้สวย ต้องเพิ่มการผลิตสินค้าและบริการแบบก้าวกระโดด
โดย..ริต้า ทัพภมาน
ปัจจัยสำคัญที่สามารถให้ธุรกิจขับเคลื่อนต่อไปได้ นั่นคือ เงินทุน เมื่อตลาดมี แรงงานมี แต่เงินไม่ถึง การทำธุรกิจให้เติบโตก้าวหน้านั้นก็อาจจะต้องสะดุด เนื่องจากขาดปัจจัยดังกล่าวนั่นเอง
และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม หากปีมังกรทองปีนี้นำพาธุรกิจของท่านโลดแล่นชนิดติดลมบน การจะขยายธุรกิจเพื่อผลิตสินค้า บริการเดิม หรือทำโครงการใหม่ๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจ การเพิ่มเงินทุนจึงเข้ามามีบทบาทในช่วงนี้เพื่อให้ธุรกิจดำเนินการต่อไปได้ แล้วอะไรจะเป็นตัวช่วยให้ท่านสามารถเพิ่มเงินทุนได้ตามต้องการ
หากท่านมีเงินทุนหมุนเวียนในบริษัทเพียงพอ หรือเพิ่มเงินทุนจากเงินส่วนตัว พ่อแม่ หรือญาติพี่น้องได้เองแบบไม่เดือดร้อน โดยไม่พึ่งพาจากแหล่งเงินภายนอกก็ถือว่าเป็นสิ่งดี แต่หากธุรกิจจำเป็นต้องพึ่งพาจากแหล่งเงินภายนอกเมื่อใด ท่านก็จะต้องเริ่มหาวิธีในการหาเงินมาให้ทันกับจังหวะและโอกาสของธุรกิจ วันนี้จึงขอนำเสนอตัวช่วยที่นำมาบอกกล่าวเล่าต่อในการหาเงินทุนเพื่อสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ
สิ่งหนึ่งที่นักธุรกิจยุคปัจจุบันมักจะมองข้ามกันอยู่เสมอๆ ก็คือ เรื่องของความซื่อสัตย์ โดยหารู้ไม่ว่านี่แหละคือพื้นฐานเบื้องต้นที่จะช่วยนำพาเม็ดเงินลงทุนเข้ามาสู่บริษัท ความซื่อสัตย์ถือเป็นศีลธรรมที่ถูกบัญญัติไว้ในทุกๆ ศาสนา และด้วยเหตุนี้นักธุรกิจเป็นจำนวนมากมักจะมองข้ามและไม่ค่อยใส่ใจ เพราะหลายคนมีความเชื่อที่ผิดๆ จากค่านิยมทางสังคมที่ว่า ธุรกิจคือการชิงดีชิงเด่นและการต่อสู้ในเรื่องผลประโยชน์ ด้วยการใช้ทุกวิธีการที่ไม่ต้องคำนึงถึงความถูกผิด ซึ่งนั่นเป็นแนวความคิดที่ล้าหลัง ความซื่อสัตย์จึงเป็นแนวทางและทางออกที่ดีที่สุดในการทำธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการยุคใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มทำธุรกิจ โดยแนวทางในการนำความซื่อสัตย์มาใช้ร่วมกับการทำธุรกิจเพื่อหาเงินเพิ่มจากนักลงทุนมีวิธีการดังต่อไปนี้
แจ้งประมาณการทางการเงินที่เป็นจริงและตรวจสอบได้ เป็นเรื่องแรกที่ผู้ประกอบการควรนำคุณธรรมในเรื่องของความซื่อสัตย์มาเป็นบรรทัดฐานในการบริหาร เพราะนักลงทุนรวมถึงบริษัทร่วมทุนทุกๆ แห่งให้ความสำคัญในพื้นฐานข้อมูลในส่วนนี้มากเป็นพิเศษก่อนที่จะตัดสินใจให้เงินทุนกับบริษัททั้งหลาย ผู้ประกอบการจึงควรที่จะใช้ความโปร่งใสให้ข้อมูลทางด้านบัญชีสถานะทางการเงินที่เป็นจริงตรวจสอบได้ ปราศจากการตกแต่งตัวเลขทางการเงินในทุกรูปแบบ เพราะการทำเช่นนี้จะนำมาซึ่งความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่นจากนักลงทุนที่มีต่อตัวของบริษัทผู้ประกอบการได้มากกว่าการตกแต่งบัญชีให้สวยหรูหลายเท่าตัวนัก
ให้ข้อมูลที่เป็นจริงกับพนักงาน “พนักงาน” คือบุคคลสำคัญสำหรับการทำธุรกิจ เพราะพวกเขาเป็นฟันเฟืองที่ทำให้ธุรกิจของผู้ประกอบการสามารถเดินไปข้างหน้าได้ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่ควรจะต้องปฏิบัติกับพนักงานก็คือ การให้ข้อมูลการดำเนินงานของบริษัทพร้อมทั้งผลประกอบการอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงมากที่สุด อย่าสร้างเรื่องโกหกขึ้นเพื่อขอความเห็นใจหรือหลอกลวงพนักงานโดยเด็ดขาด เพราะนั่นจะทำให้พนักงานรู้สึกว่าโดนหักหลัง ถ้าคิดจะให้คำสัญญาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโบนัสสิ้นปีหรือการขึ้นเงินเดือน ผู้ประกอบการจะต้องรักษาสัญญานั้นไว้ให้ดีที่สุด และนั่นจะกลายเป็นวิธีการรักษาตัวพนักงานที่มีความสามารถให้อยู่คู่กับบริษัทได้ต่อไปในอนาคต ซึ่งมันจะกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดเงินทุนจากนักลงทุนที่ดี หากพวกเขาเห็นว่าบริษัทของผู้ประกอบการมีพนักงานที่เป็นยอดฝีมืออยู่เป็นจำนวนมาก
สร้างความซื่อสัตย์ตรงไปตรงมากับลูกค้าลูกค้า คือแหล่งเงินที่สำคัญเป็นอันดับแรกในการทำธุรกิจ จริงอยู่ผู้ประกอบการอาจสามารถสร้างเรื่องโกหกเพื่อโฆษณาเกินจริงกับตัวสินค้าเพื่อจูงใจให้ซื้อ จนนำไปสู่การสร้างยอดขายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำในระยะแรก แต่เรื่องโกหกไม่ใช่สิ่งที่จีรังยั่งยืน ในที่สุดธุรกิจก็จะไปไม่รอด วิธีการที่ดีที่สุดก็คือ ให้ข้อมูลที่ตรงไปตรงมากับลูกค้า ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อใจและภาพลักษณ์อันดีให้บริษัทจนพัฒนากลายเป็นชื่อเสียงที่บอกต่อกันแบบปากต่อปาก จากรุ่นสู่รุ่น จนธุรกิจมีภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาผู้บริโภค ซึ่งมันจะดึงดูดเงินลงทุนได้ในอนาคตอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
การแข่งขันที่ดุเดือดในโลกสังคมธุรกิจ ทำให้ความซื่อสัตย์กลายเป็นสิ่งที่ขาดหายไปจากจิตใจของผู้ประกอบการและนักบริหาร ผู้ประกอบการหลายคนมักจะพูดโกหกเมื่อนักลงทุนสอบถามถึงข้อมูลและผลประกอบการของบริษัท อันเป็นผลมาจากความโลภอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ที่สนใจอยากจะได้แต่เงินทุนเพิ่มมากขึ้นในเวลาเพียงแค่ชั่วพริบตา จึงเป็นที่มาของแนวความคิดที่ให้สนใจผลลัพธ์มากกว่าวิธีการแต่เพียงอย่างเดียว จึงทำให้นักลงทุนเกิดความหวาดระแวงและไม่เชื่อใจผู้ประกอบการ ซึ่งจะเป็นผลเสียในที่สุดที่จะทำให้อายุไขของกิจการลดสั้นลงและขาดแคลนเงินทุนจนต้องปิดตัวเองไปในที่สุด การนำคุณธรรมด้านความซื่อสัตย์มาใช้กับการทำธุรกิจ จึงเป็นแนวทางที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน


