‘ฤทธา’ขยับ2ธุรกิจใหม่
เสริมรายได้รับเหมาหมื่นล้าน
เสริมรายได้รับเหมาหมื่นล้าน
“ฤทธา” เตรียมแตกไลน์ 2 ธุรกิจใหม่ โซลาร์เซลล์ผลิตนั่งร้าน ระบุงานรับเหมาในมือมีปีละกว่า 1 หมื่นล้านบาท
นายสุวัฒน์ เชาว์ปรีชา ประธานกรรมการ บริษัท ฤทธา ผู้ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมขยายธุรกิจใหม่อีก 2 ธุรกิจ ประกอบด้วย บริษัทผลิตอุปกรณ์แผงโซลาร์เซลล์ และบริษัทผลิตนั่งร้านเหล็กเพื่อใช้สำหรับงานก่อสร้าง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างจัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมารองรับการขยายธุรกิจใหม่
ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2553 บริษัทได้มีการขยายธุรกิจสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยจัดตั้งบริษัท ไซมิส แอสเสท ขึ้นมาเพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในย่านกลางเมือง
“ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างยังโตอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 34 ปีที่ผ่านมา เรามีงานก่อสร้างในมือปีละไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาทมาอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นงานก่อสร้างของภาคเอกชน 100% ส่วนใหญ่เป็นการก่อสร้างศูนย์การค้า ไฮเปอร์มาร์เก็ต เทสโก้ โลตัส อาคารสำนักงาน โรงพยาบาล และคอนโด มิเนียม แต่การที่ขยายธุรกิจใหม่นั้นเพื่อต้องการให้ทีมผู้บริหารที่อยู่กับเรามานานได้เติบโตไปพร้อมกัน เช่น ไปรับหน้าที่บริหารธุรกิจในไลน์อื่นที่เกี่ยวข้องกับงานด้านวิศวกรรม” นายสุวัฒน์ กล่าว
ทั้งนี้ จากปริมาณงานก่อสร้างที่บริษัทมีในมือไม่ต่ำกว่าปีละ 1 หมื่นล้านบาท บริษัทจึงอยู่ระหว่างการพิจารณาหาบริษัทที่ปรึกษาทางด้านการเงิน เพื่อนำบริษัท ฤทธา เข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงต้นปี 2556 โดยต้องการระดมเงินทุนมารองรับกับงานก่อสร้างที่ขยายตัวมากขึ้น
สำหรับภาพรวมธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในปีนี้ยังมีทิศทางการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะในงานก่อสร้างของภาคเอกชนที่ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างส่วนใหญ่จะต้องเผชิญกับต้นทุนก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้นจากค่าจ้างที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นเป็น 300 บาท ที่จะเริ่มในเดือน เม.ย.ที่จะถึงนี้
นอกจากนี้ แรงงานในภาคก่อสร้างจะหาได้ยากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะขาดแคลนมากขึ้นในอนาคต เนื่องจากภาครัฐบาลได้มีการส่งเสริมให้มีการเพาะปลูกทางด้านการเกษตร และมีการประกันรายได้ให้กับเกษตรกร เช่น การจำนำข้าวตันละ 1.5 หมื่นบาท ทำให้แรงงานภาคก่อสร้างขาดแคลนเป็นระยะๆ จึงจะต้องพึ่งแรงงานต่างด้าวมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน ผู้รับเหมาจะต้องเจอกับปัญหาต้นทุนราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นจากราคาพลังงานที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นด้วยเช่นกัน


