posttoday

โฮมสเตย์กระชังลุงแกละแค่เอื้อมจากกรุงเทพฯ

27 พฤศจิกายน 2554

ที่ท่าเรือเทศบาลตำบลบ้านเพ จ.ระยอง ยังคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยววัยรุ่นจำนวนไม่น้อย แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันธรรมดาก็ตาม

ที่ท่าเรือเทศบาลตำบลบ้านเพ จ.ระยอง ยังคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยววัยรุ่นจำนวนไม่น้อย แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันธรรมดาก็ตาม

โดย...นิธิ ท้วมประถม

ที่ท่าเรือเทศบาลตำบลบ้านเพ จ.ระยอง ยังคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยววัยรุ่นจำนวนไม่น้อย แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันธรรมดาก็ตาม แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไหร่หรอกครับ เพราะว่าท่าเรือเทศบาลตำบลบ้านเพนี้ ก็เป็นหนึ่งในหลายๆ ท่าเรือที่จะพานักท่องเที่ยวไปสู่เกาะเสม็ด แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของ จ.ระยอง

แต่วันนี้ผมไม่ได้มาที่ท่าเรือเทศบาลตำบลบ้านเพเพื่อไปเกาะเสม็ดนะครับ เหมือนอย่างวัยรุ่นกลุ่มใหญ่ที่ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวอยู่ข้างๆ ผมตอนนี้ แต่ผมกำลังจะไปเที่ยวเหมือนกัน แต่เป็นโฮมสเตย์เล็กๆ ที่ตั้งอยู่กลางทะเลระยอง ที่ต้องนั่งเรือเร็วไปแบบเท่ๆ เหมือนกับพวกที่จะไปเที่ยวเสม็ดเหมือนกัน

โฮมสเตย์กระชังลุงแกละแค่เอื้อมจากกรุงเทพฯ

 

โฮมสเตย์ที่ผมพูดถึง คือ โฮมสเตย์ “กระชังลุงแกละ” ครับ ใครจะไปโฮมสเตย์ที่นี่ก็ต้องมารอขึ้นเรือของทางโฮมสเตย์ที่ท่าเรือเทศบาลนี่แหละครับ ที่จอดรถก็สะดวก ปลอดภัย ไม่มีปัญหา ยืนรออยู่แป๊บเดียว เรือเร็วสีขาวลำเบ้อเริ่มก็วิ่งตัดผืนน้ำสีฟ้าครามมุ่งหน้ามารับผมแล้ว

เมื่อเรือมาเทียบท่า ผมก็กระโดดลงเรือทันที กะว่าจะนั่งเรือชิลชิล ปล่อยใจไปกับสายลม แสงแดด ให้สบายใจเสียหน่อย หุหุ

แต่พอเรือพุ่งออกจากท่าเทศบาลแล้วหันหน้าออกทะเลไปได้ไม่เกิน 2 นาที เครื่องเรือก็เบาลง และหันหัวเรือแล่นเข้าหากระชังปลาที่ตั้งอยู่หลังเขื่อนกันคลื่นหน้าหาดบ้านเพ จ.ระยอง แล้ว และสายตาผมก็เห็นเรือนแถวไม้หลังเล็กๆ เรียงกันอยู่ 34 หลัง ซึ่งตั้งอยู่กลางทะเลสีน้ำเงินแบบพอดิบพอดีเลย

ชายสูงอายุ ผิวคล้ำแดด แววตาที่มองลอดแว่นสายตาสดใส สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวตัวอย่างคล่องแคล่ว บ่งบอกให้รู้ว่าสุขภาพแข็งแรงทีเดียว เดินออกมาต้อนรับ ทำให้ผมรู้ว่าคุณลุงคนนี้ คือ ลุงแกละ เจ้าของโฮมสเตย์กระชังลุงแกละ

เมื่อปะหน้ากันอย่างนี้ ก็ต้องจับตัวมาถามไถ่เสียหน่อยว่า ทำไมถึงมาทำโฮมสเตย์กับเขาได้ ทั้งๆ ที่ใกล้ฝั่งนิดเดียวเอง นั่งเรือไม่ถึง 2 นาทีจากท่าเรือเทศบาล ก็มานั่งเท่ๆ กลางทะเลได้แล้ว

จะว่าไปแล้วโฮมสเตย์ที่นี่ดูแบบง่ายๆ กันเองๆ ครับ มีห้องพักขนาดใหญ่ 2 ห้อง ซึ่งมาแบบหมู่คณะจะเหมาะมาก มีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับนั่งล้อมวงหน้าทีวี จะร้องเพลง หรือเล่นเกมคิดเลขกันก็แสนจะเหมาะเหม็ง แล้วก็ส่วนพื้นที่ครัวและโต๊ะอาหาร มีกระชังปลา 45 กระชัง อยู่หน้าแพพัก ให้สมกับชื่อกระชังลุงแกละ

ลุงแกละ บอกว่า แรกเริ่มเดิมทีมีอาชีพเลี้ยงปลา เลี้ยงหอยในกระชังขาย ไม่ได้คิดว่าจะทำธุรกิจอะไรนอกเหนือไปจากเป็นชาวประมง แต่ระยะหลังๆ อาชีพประมงเริ่มมีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นน้ำเสีย ปลาเป็นโรค และที่สำคัญ อาหารปลาประเภทปลาเล็กปลาน้อยทั้งหลายมีราคาแพง ทำให้ต้นทุนในการเลี้ยงปลาสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ค่อยจะคุ้มเสียแล้ว รวมถึงอายุก็เริ่มมากขึ้นด้วย ทำให้เลี้ยงปลาน้อยลง

แต่ลูกๆ เห็นว่าสถานที่เลี้ยงปลาของลุงแกละน่าจะต่อยอดมาทำธุรกิจท่องเที่ยวได้ เพราะระยะทางก็ไม่ไกลจากฝั่งบ้านเพมากนัก นักท่องเที่ยวใช้เวลาเดินทางไม่นานนัก ก็จะพบกับความเป็นส่วนตัวและความเงียบสงบกลางทะเลได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

โฮมสเตย์กระชังลุงแกละแค่เอื้อมจากกรุงเทพฯ

 

“เมื่อเด็กๆ บอกว่าจะต่อยอดเป็นโฮมสเตย์ ผมก็เห็นด้วย เพราะที่เราก็ดี อยู่กลางทะเล อากาศก็ดี ผมก็ให้ลูกๆ เขาทำในเรื่องการตลาด ไปแนะนำผ่านเว็บไซต์ ซึ่งเขาก็มีความรู้ก็ทำไป ส่วนผมก็ช่วยในด้านการจัดการที่นี่ ทั้งดูแลอาหารและที่พัก”

ลุงแกละ บอกว่า เสน่ห์ของที่นี่นอกจากบรรยากาศที่แสนจะสบายๆ สงบ ผิดกับบรรยากาศบนฝั่งแล้ว อาหารทะเลที่ให้บริการยังถือว่าเป็นจุดขายอีกอย่างของกระชังลุงแกละ เพราะอาหารทะเลที่ทำให้นักท่องเที่ยวรับประทาน ลุงแกละเน้นเรื่องความสดเป็นอันดับแรก

“เราอยู่กับแหล่งอาหาร อยู่กับทะเล กับท่าเรือ เรามีแม่ครัว ปลาเราทำอาหารได้ทุกเมนู อย่าง 3 รส ทอด นึ่ง ทอดมัน ทำได้หมด แต่สำคัญที่สุดอยู่ที่ความสด ถ้าฝีมือดีแต่อาหารไม่สด ก็ช่วยอะไรไม่ได้ อาหารทะเลที่ว่าสดๆ ก็เพราะลุงแกละใช้ของสดแบบวันต่อวัน ไม่แช่เย็นค้างคืน ไม่มีเก็บไว้”

ผมลองชิมดูแล้วครับกับเมนูของที่นี่ อร่อยจริงๆ ครับ โอกาสหน้าต้องขอกลับไปชิมฝีมือแม่ครัวของที่นี่อีกสักครั้ง

นอกจากอาหารทะเลสดๆ แล้ว ใครอยากออกกำลังก็สามารถกระโดดน้ำเล่นหน้าที่พักได้เลย สุดแสนจะไฮโซ เหมือนมีสระว่ายน้ำส่วนตัวอยู่หน้าห้อง หรือถ้าไม่อยากตัวเปียก แต่อยากเหนื่อย ก็คว้าพายกระโดดขึ้นเรือคายัก ออกแรงพายโชว์ความเป็นแมนรอบๆ กระชังได้ตามสบาย

ลุงแกละ บอกว่า กลุ่มลูกค้าที่มาพักจะเน้นกลุ่มที่มาเป็นหมู่คณะ 10 คนขึ้นไป ไม่ได้เน้นรับนักท่องเที่ยวที่มาเป็นคู่หวานแหวว แล้วก็เน้นรับลูกค้าทีละกลุ่มครับ เพื่อให้มีความเป็นส่วนตัวมากที่สุด และรับได้มากสุดถึง 30 คนเลยทีเดียว

ส่วนสนนราคาก็มีให้เลือก 3 ระดับราคา เริ่มตั้งแต่คนละ 500 บาท ก็มาเที่ยวได้แล้วครับ แต่ราคานี้จะไม่รวมอาหารนะครับ กรุณาซื้อของสด กุ้ง หอย ปู ปลา เครื่องปรุงต่างๆ หอบหิ้วมาทำรับประทานกันให้สนุกสนานได้เลย เพราะมีเครื่องครัวพร้อมจาน ชาม ช้อน ไว้ให้บริการหมดแล้ว

แต่หากต้องการสบายหน่อยก็คนละ 1,300 บาท จะมีอาหารให้ 2 มื้อ คือ มื้อเย็น อาหารทะเลชุดใหญ่ ซึ่งผมลองมาแล้วครับ แหล่มมากๆ และอาหารเช้าอีก 1 มื้อ ที่มีทั้งชา กาแฟ และข้าวต้มทะเล

หรือถ้ากลัวเบื่อ ก็ต้องแพ็กเกจคนละ 1,700 บาท ที่รวมนำเที่ยวเกาะเสม็ดด้วยเรือเร็วของทางรีสอร์ตให้ด้วย

โฮมสเตย์กระชังลุงแกละแค่เอื้อมจากกรุงเทพฯ

“ทัวร์รอบเกาะเสม็ด เราพาไปดำน้ำ ดูปะการัง ให้อาหารปลา ไปเล่นน้ำตามอ่าว มีเวลาให้ 4-5 ชั่วโมง หลังจากเล่นน้ำแล้วพาไปดูพันธุ์ปลาทะเลหายากของกรมประมงที่เกาะเสม็ดอีกด้วย” ลุงแกละ แนะนำแบบน้ำไหลไฟดับทีเดียว

ผมถามราคานี้แพงหรือเปล่า ลุงแกละ บอกว่าไม่แพง เพราะสิ่งที่นักท่องเที่ยวได้รับ คือ อากาศที่ดี บรรยากาศ ที่สงบ อาหารทะเลที่สด ซึ่งสิ่งเหล่านี้เทียบเป็นตัวเงินไม่ได้ แต่เป็นสิ่งที่เรียกว่าความพอใจ

จะว่าไปแล้วก็ต้องยอมรับนะครับว่า การนำเอาธุรกิจเดิมมาพัฒนาต่อยอดเป็นธุรกิจใหม่ ถือว่าเป็นการไม่หยุดนิ่งที่แสนจะลงตัว เพราะในขณะนี้รายได้หลักมาจากท่องเที่ยว ส่วนกระชังปลาเป็นจุดขายให้กับธุรกิจใหม่ไปเสียแล้วสอบถามโทร. 0899349424

เหนื่อยนักลองไปพักกระชังลุงแกละสักคืนนะครับ แล้วจะรู้ว่าความสงบใกล้กรุงนั้นหาไม่ยาก

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด บีจี ปทุม พบ เมืองทอง ฟุตบอลไทยลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68