posttoday

เพิ่มสีชมพู2หมื่นล.

26 กันยายน 2554

เปลี่ยนจากโมโนเรลเป็นเฮฟวีเรลสุกำพลยัน4ปีเซ็นสร้างทั้ง10สาย

เปลี่ยนจากโมโนเรลเป็นเฮฟวีเรลสุกำพลยัน4ปีเซ็นสร้างทั้ง10สาย

สั่งทบทวนโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสีชมพู แครายมีนบุรี จากโมโนเรลเป็นเฮฟวีเรล ส่งผลงบเพิ่มอีก 2 หมื่นล้าน

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้มีการพิจารณาทบทวนการปรับแบบการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแครายปากเกร็ดมีนบุรี ระยะทาง 36 กม. ซึ่งอยู่ในขั้นตอนที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เตรียมลงนามในสัญญาว่าจ้างที่ปรึกษาออกแบบก่อสร้าง จากเดิมเป็นการก่อสร้างแบบรางเดี่ยว (โมโนเรล) อาจปรับเป็นแบบรถไฟฟ้าขนาดหนัก (เฮฟวี เรล) ลักษณะคล้ายกับรถไฟฟ้าใต้ดินที่ให้บริการในขณะนี้

ทั้งนี้ เพื่อให้คุ้มค่าและเหมาะสมกับการรองรับผู้โดยสารในเส้นทางดังกล่าว ทำให้งบประมาณค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้นประมาณ 2 หมื่นล้านบาท จากงบประมาณรางเดี่ยว ประมาณ 3.9 หมื่นล้านบาท

เพิ่มสีชมพู2หมื่นล.

อย่างไรก็ตาม การปรับแบบก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู จะต้องสรุปผลให้แล้วเสร็จก่อนกลางปี 2555 โดยจะต้องปรับในส่วนของแบบโครงสร้าง จุดที่ตั้งสถานี และประมาณการผู้โดยสาร ซึ่งมีข้อกังวลว่า หากมีการปรับรูปแบบไปก่อสร้างรถไฟฟ้าแบบหนัก อาจทำให้แผนการก่อสร้างต้องล่าช้าออกไปจากเดิมได้ ซึ่งเดิมคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการปี 2559

สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว–พัฒนาการ–สำโรง ระยะทาง 30.4 กม. เป็นโครงการที่จะต้องเร่งรัดดำเนินการ ซึ่ง รฟม.จะต้องตั้งงบประมาณในการว่าจ้างที่ปรึกษาออกแบบเบื้องต้น คาดว่าจะก่อสร้างได้เร็ว เพราะเป็นแบบรางเดี่ยว และมีเงื่อนไขให้ใช้วิธีการออกแบบพร้อมก่อสร้างได้ โดยไม่ต้องทำการออกแบบรายละเอียด

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในส่วนความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟฟ้าตามแผนของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ภายในปี 2554 จะสามารถลงนามในสัญญาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ระยะทาง 12.8 กม. ค่าก่ สร้างกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท และสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 กม. ค่าก่อสร้างกว่า 7.5 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ ในปี 2555 จะมีการเปิดประมูลและลงนามในสัญญาได้อีก 5 เส้นทาง ได้แก่ 1.สายสีชมพู ช่วงแคราย–ปากเกร็ด-มีนบุรี ระยะทาง 36 กม. 2.สายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ ระยะทาง 11.4 กม. 3.สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน และบางซื่อ-หัวลำโพง ระยะทาง 25.5 กม. 4.สายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 19.8 กม. และ 5.สายสีส้ม ช่วงจากศูนย์วัฒนธรรมบางกะปิ-มีนบุรี ระยะทาง 20 กม.

พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.คมนาคม กล่าวว่า ได้ติดตามแผนการก่อสร้างรถไฟฟ้า 10 เส้นทางตามนโยบายของพรรคเพื่อไทย ซึ่งได้สั่งการให้เดินหน้าไปตามแผน เพื่อให้สามารถเซ็นสัญญาก่อสร้างได้ภายใน 4 ปี

“ได้รับฟังรายงานการดำเนินโครงการรถไฟฟ้า 10 เส้นทาง ว่าไปถึงไหนอย่างไร ผมไม่ได้ลงไปรื้อหรือสั่งปรับเปลี่ยนอะไรเลย เพราะผมรู้ว่าหากลงไปรื้อหรือปรับเปลี่ยนจะเป็นเรื่องใหญ่ ตอนนี้ก็ให้ทุกอย่างเดินหน้าตามแผนไป ไม่ได้เร่งรัดอะไรเป็นพิเศษ” พล.อ.อ.สุกำพล กล่าว

ด้านนโยบายหาเสียงพรรคเพื่อไทยเกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้า ได้ชูนโยบายประชาชนจ่ายค่าโดยสารราคา 20 บาทตลอดสาย โดยระบุว่าจะทำทันทีเมื่อได้เป็นรัฐบาล ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าในทางปฏิบัติคงทำได้ทันทียาก แต่เมื่อประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทยต่างก็หวังจะได้นั่งรถไฟฟ้าในราคา 20 บาทตลอดสายทันที ไม่มีใครอยากรอให้ก่อสร้างต่ออีก 10 สายจนเสร็จ เพราะต้องใช้เวลายาวนาน และจะมีปัญหากับบริษัทผู้รับสัมปทาน จากรายได้จะลดลง รวมทั้งกระทรวงคมนาคมออกมาบอกว่า ไม่สามารถทำได้ทันที ต้องรอจนกว่าการก่อสร้างรถไฟฟ้า 10 สายแล้วเสร็จ เพราะผู้ถือหุ้นจะฟ้องร้องรัฐบาลได้

 

ข่าวล่าสุด

ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 12.72 จุด DELTA ฉุดดัชนี-ไร้ปัจจัยใหม่หนุน