posttoday

ร่างพรบ.คอมพิวเตอร์ปี 54 จี้ทบทวน ก่อนเพิ่มปัญหา

22 กันยายน 2554

พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

หรือเรียกสั้นๆ ว่า พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ถือเป็นกฎหมายที่ยังคลุมเครือและมีปัญหาในการใช้งานตลอด 5 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเรื่องการละเมิดสิทธิของประชาชน แต่ร่าง พ.ร.บ.ฉบับแก้ไขปี 2554 ที่จัดทำโดยกระทรวงไอซีที นอกจากจะไม่แก้ไขปัญหาแล้ว ยังสร้างความคลุมเครือมากขึ้น

สาวตรี สุขศรี อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฉบับปี 2554 แก้ไขในสาระสำคัญหลายประเด็น เช่น คำนิยาม ที่เพิ่มถ้อยคำหลายเรื่อง นิยามของผู้ดูแลระบบ เพื่อเพิ่มฐานความผิดสำหรับคนกลาง เพิ่มฐานความผิดกรณีทำสำเนาข้อมูลโดยมิชอบ เพิ่มความผิดฐานครอบครองภาพที่ผิดกฎหมาย ซึ่งหลายประเด็นอาจก่อให้เกิดปัญหามากขึ้นจาก พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับเดิม

สำหรับประเด็นเรื่องนิยาม ร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ขยายความระบบคอมพิวเตอร์ โดยระบุว่า รวมทั้งอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่อื่น ถ้อยคำดังกล่าวตั้งใจจะรวมอุปกรณ์สมัยใหม่ เช่น สมาร์ตโฟน หรือแท็บเล็ต แต่การระบุว่าอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่อื่น อาจหมายรวมถึง ระบบลิฟต์ ไมโครเวฟ ที่ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์เช่นเดียวกัน ซึ่งจะเป็นปัญหาด้านการตีความตามมา

นอกจากนี้ ได้นิยามผู้ให้บริการ รวมถึงผู้บริการด้านโทรคมนาคมเพิ่มเติมอีก ซึ่งเขียนกฎหมายให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ซึ่งในทางคดีอาจเสียเวลาพิสูจน์ หากดึงเข้าทุกคนเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยไม่ได้มุ่งไปที่ต้นตอผู้ก่อปัญหา

สาวตรี วิเคราะห์ต่อไปว่า ในร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่นี้ ยังมีบทบัญญัติหลายประการที่ขัดกับกฎหมายอื่นๆ เช่น กรณีความผิดฐานทำสำเนาข้อมูล วางกรอบไว้กว้าง และกว้างมากกว่ากฎหมายลิขสิทธิ์ เช่น การทำสำเนาไว้ใช้เอง ไม่ผิด แต่ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฉบับใหม่ ไม่สามารถทำสำเนาไว้ดูเองได้

ในเรื่องการหมิ่นประมาทด้วยภาพ ก็ซ้ำซ้อนกับกฎหมายอาญา หรือยกเว้นสำหรับสแปมเมลเพื่อการค้า สามารถดำเนินการได้นั้น ก็ต้องตีความในหลายกรณี เช่น กรณีการรับบริจาคเงิน หรือการโฆษณาชวนเชื่อจะเข้าข่ายผิดกฎหมาย หรือทำได้ ไม่ชัดเจน

“กล่าวโดยสรุป พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับเดิมมีปัญหาอยู่แล้ว แต่กฎหมายฉบับนี้ยิ่งมีปัญหามากขึ้น โดยเฉพาะการเขียนถ้อยคำในกฎหมายที่ไม่ชัดเจนและคลุมเครือ จึงควรทบทวนกฎหมายฉบับนี้เสียใหม่ ทบทวนหลักการของกฎหมาย โดยที่ต้องดำเนินการอย่างเปิดเผย โปร่งใส ให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างแท้จริง” สาวตรี กล่าว

วันฉัตร ผดุงรัตน์ ผู้ก่อตั้งและเจ้าของเว็บไซต์พันทิปดอทคอม กล่าวว่า ปัญหาของเมืองไทยไม่ได้อยู่ที่กฎหมาย แต่อยู่ที่กระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมายมากกว่า การใช้วิจารณญาณของเจ้าหน้าที่ที่ขาดความรู้ ความเข้าใจ จะทำให้เกิดปัญหา ก่อนที่กระบวนการจะไปถึงการตัดสินของศาล

“ทุกวันนี้เราแข่งขันกับผู้ประกอบการ ที่เหมือนอยู่ในลู่วิ่งเดียวกันทั่วโลก แต่อยู่ในกฎ กติกาที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง ผู้ประกอบการไทยจะทำอะไรนิด ก็ผิด โดนตัดแต้มอยู่ตลอดเวลา ขณะที่ต่างประเทศสามารถทำได้ มีเสรีภาพมากกว่าเรา ทำอย่างไรจึงจะสร้างสมดุลให้เกิดขึ้นได้ในสังคมไทย” วันฉัตร กล่าว

ปัจจุบันการร่างกฎหมายของไทยอิงกับกลุ่มประเทศอียูเป็นหลัก แต่ผู้ประกอบการเว็บไซต์ที่เติบโตมากส่วนใหญ่เกิดขึ้นในฝั่งสหรัฐ ซึ่งมีเสรีภาพมากกว่าและมีการขยายตัวในเชิงธุรกิจสูงกว่า เช่น เฟซบุ๊ก กูเกิล เป็นต้น สิ่งที่ไทยทำอยู่ในขณะนี้เหมือนแทงม้าผิดตัวหรือเลือกผิดข้าง

ด้าน สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า อยากให้ภาครัฐทบทวนการจัดทำร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับนี้ใหม่ โดยจำกัดให้เป็น พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมคอมพิวเตอร์โดยแท้ หากมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา การหมิ่นประมาท หรือเรื่องกระทบต่อความมั่นคง ให้ไปอยู่ในกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาว่าด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์แทน ส่วนการละเมิดสิทธิ เสรีภาพของบุคคล ก็มีกฎหมายอื่นรองรับอยู่แล้ว


 

 

ข่าวล่าสุด

บวท. ยกระดับความพร้อมรับปีใหม่ 2569 คาดเที่ยวบินพุ่ง 2.7 หมื่นเที่ยว