ตัน ปั้น ‘โทคิยะ’ ต่อยอดสเต็ก ฟิวชั่น คอร์ส

ธุรกิจร้านอาหารแนวใหม่สเต็ก ฟิวชั่น คอร์ส วางเป้า30 สาขาภายใน3-5ปี ชี้ต้นทุนข้าวขึ้นราคากระทบหนักร้านข้าวแกง

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทไม่ตัน ผู้ดำเนินธุรกิจเครื่องดื่มดับเบิ้ล ดริงค์ ชาเขียวพร้อมดื่ม อิชิตัน เปิดเผยว่าล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวธุรกิจร้านอาหารแบรนด์ใหม่ภายใต้ชื่อ “โทคิยะ” (Tokiya) ซึ่งเป็นธุรกิจร้านอาหารแบรนด์แรกของกลุ่มพนักงาน ทเวนตี ชาเลนเจอร์(20 challengers) ที่คัดเลือกมาจากผู้สมัครกว่า 1,000 คนไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยร้านดังกล่าวให้บริการอาหารเมนูสเต็ก คอร์ส จำนวน8 จาน ตามแนวคิดเดียวกับบริการรับประทานอาหาร(ซิท ดาวน์ ไดน์นิง)ในโรงแรมระดับ6ดาว

สำหรับชื่อร้านดังกล่าว หมายถึง ‘ศิลปะบนจานกระเบื้อง’ ที่แต่ละเมนูมีการปรุงรสชาติอาหาร และเครื่องดื่มระหว่างอาหารตะวันตกและตะวันออก จากพ่อครัว(เชฟ)ประจำร้านทั้ง 10 คน ซึ่งมาจากกลุ่มทเวนตี ชาเลนเจอร์ เช่นกัน และพนักงานส่วนที่เหลืออีก 10 คนจะอยู่ในฝ่ายปฏิบัติการณ์(โอเปอเรชัน) โดยพนักงานกลุ่มดังกล่าว จะเป็นผู้บริหารและดูแลงานทั้งหมดในทุกหน้าที่ภายในร้าน พร้อมพัฒนาธุรกิจร้านอาหารใหม่ๆ หรือ ภายใต้แบรนด์ใหม่ ในอนาคตด้วย

“ร้านโทคิยะ ให้บริการลักษณะ สเต็ก คอร์ส ฟิวชั่น ที่ปัจจุบันรูปแบบร้านดังกล่าว เปิดให้บริการในประเทศต่างๆในเอเชีย ทั้ง ใต้หวัน, สิงคโปร์ และ ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่นิยมของคนรุ่นใหม่ รวมถึงในประเทศไทย ที่พบว่าปัจจุบันนิยมรับประทานอาหารนอกบ้านและมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นทุกปี” นายตัน กล่าว

ในส่วนของค่าบริการคิดราคาเดียวรวมภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่ที่ 499 บาทต่อคอร์ส  โดยร้านโทคิยะรองรับจำนวน 192 ที่นั่ง บนพื้นที่ 600 ตร.ม. ใช้งบลงทุนสาขาแรก 20 ล้านบาท ที่ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ คาดให้บริการได้ 400-500 คนต่อวัน หรือ 2-3 รอบของที่นั่ง พร้อมวางเป้าในปีหน้า คาดเปิดให้บริการสาขาใหม่เพิ่มอีก 2-3 แห่ง ขึ้นอยู่กับทำเลทั้งในศูนย์การค้า และรูปแบบร้านเดี่ยว(สแตนด์ อโลน) บนพื้นที่ 500-600 ตร.ม. โดยเตรียมเปิดสาขาที่ 2 ทีทองหล่อราวปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า โดยคาดว่าแต่ละสาขาถึงจุดคุ้มทุนภายใน 2-3 ปี

ปัจจุบัน บริษัทดำเนินธุรกิจผ่านกลุ่มพนักงานชาเลนเจอร์ทั้ง 29 ราย ดังนี้ คือ กลุ่มไนน์ชาเลนเจอร์ จะดูแลธุรกิจเครื่องดื่ม อิชิตัน และ เมลท์มี ส่วนทเวนตี ชาเลนเจอร์ ดูแลธุรกิจร้านอาหารแบรนด์ โทคิยะ ดังกล่าว รวมถึงธุรกิจร้านอาหารใหม่ๆในอนาคต ที่วางเป้าหมายไว้ใน3-5ปีนับจากนี้ จะสามารถขยายสาขาร้านโทคิยะได้ไม่ต่ำกว่า 30 สาขาทั่วประเทศ  ส่วนต้นทุนการดำเนินธุรกิจร้านอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้นในขณะนี้ โดยเฉพาะวัตถุดิบราคาข้าวที่กำลังปรับราคาเพิ่มขึ้นตามนโยบายรับจำนำข้าวนั้น เบื้องต้นไม่กระทบกับการดำเนินธุรกิจบริษัท ด้วยใช้วัตถุดิบดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่เชื่อว่าการปรับราคาข้าวในครั้งนี้จะกระทบกับกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารริมถนน หรือ ร้านอาหารที่ใช้กลุ่มข้าวเป็นวัตถุดิบหลักอย่างแน่นอน

นายตัน กล่าวว่าสิ้นปีบริษัทวางเป้ารายได้รวมประมาณ 1500 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนรายได้จากลุ่มเครื่องดื่ม80% หรือประมาณ 1,200-1,300 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร 20% หรือประมาณ 200-300 ล้านบาท ซึ่งจะยังคงสัดส่วนรายได้ของบริษัทไว้อย่างต่อเนื่อง เพื่อบริหารความเสี่ยงธุรกิจบริษัทให้สมดุลย์ ด้วยธุรกิจเครื่องดื่มชาเขียวพร้อมดื่มถือเป็นธุรกิจประเภทอุตสาหกรรมที่ยังมีการเติบโตสูงต่อเนื่อง หลังจากที่บริษัททำตลาดอิชิคตันอย่างจริงจัง และส่งผลให้ภาพรวมตลาดชาเขียวพร้อมดื่มมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา มีอัตราเติบโตกว่า 10.9% จากการสำรวจของเอ.ซี.นีลเส็น

สำหรับการเติบโตของตลาด เป็นผลจากการที่มีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาทำตลาด และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย(โปรโมชัน)ของผู้เล่นรายเดิมและของบริษัทอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าภายในไตรมาส4 ปีนี้ตลาดชชาเขียวจะมีอัตราเติบโตราว 20% หรือมีมูลค่าตลาดรวมโตถึง 1 หมื่นล้านบาท