ศรีไทยชูเอสเนเจอร์บุกตปท.
ลั่น2ปีสยายปีกครบ6ปท.รอบไทยในประเทศครึ่งปีแรกฟุ้งโต300%
ลั่น2ปีสยายปีกครบ6ปท.รอบไทยในประเทศครึ่งปีแรกฟุ้งโต300%
ศรีไทยฯ ร่วมทุนเบียร์ลาว ขยายธุรกิจขายตรงเอสเนเจอร์ ตั้งเป้า 2 ปี บุก 6 ประเทศ รวมอินเดีย ปีนี้หวังกวาดยอด 400 ล้านบาท
นายบัญชา เหมินทคุณ รองกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจเครือข่ายเอสเนเจอร์ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ กล่าวว่า ภายใน 2 ปีนี้ บริษัทวางเป้าหมายขยายธุรกิจขายตรงเอสเนเจอร์ในภูมิภาคอาเซียนให้ครบ 6 ประเทศ ได้แก่ พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม อินโดนีเซีย และอินเดีย ล่าสุดได้ร่วมทุนกับบริษัท เบียร์ลาว ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อขยายธุรกิจเอสเนเจอร์ โดยศรีไทยฯ ถือหุ้น 80% เบียร์ลาวถือหุ้น 20% มีทุนจดทะเบียน 35 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ บริษัทได้เปิดสำนักงานที่สหภาพพม่า เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับที่ดีเนื่องจากคนพม่ามีกำลังซื้อสูง โดยสินค้าของเอสเนเจอร์ที่ได้รับความนิยมคือผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ซึ่งสามารถทำรายได้สูงถึง 70% ของรายได้ทั้งหมด และคาดว่าภายใน 2-3 เดือนข้างหน้า ยอดขายในพม่าจะอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาทต่อเดือน
นอกจากนี้ บริษัทได้เลื่อนแผนเปิดสำนักงานในประเทศกัมพูชาเร็วขึ้นเป็นภายในปีนี้ จากเดิมที่จะเปิดในปีหน้า จากนั้นจะเปิดในประเทศเวียดนาม ตามด้วยอินโดนีเซีย และอินเดีย
“ตลาดในอาเซียนมีศักยภาพในการเติบโตสูง อย่างในประเทศลาวเชื่อว่าจะมียอดเติบโตสูงเช่นเดียวกัน แม้ประชากรจะมีแค่ 35 ล้านคน แต่แผนจ่ายผลตอบแทนของธุรกิจเอสเนเจอร์ เปิดให้นักธุรกิจสามารถขยายเครือข่ายข้ามประเทศได้ เชื่อว่าจะทำให้เข้าถึงคนไทยในเขตชายแดนได้เพิ่ม” นายบัญชากล่าว
สำหรับแผนขยายตลาดในต่างประเทศจะเริ่มก้าวสู่ภูมิภาคอื่นๆ เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกาและยุโรป เป็นลำดับต่อไป แต่ยังไม่สามารถประเมินรายได้ได้ แต่ในประเทศคาดหวังปีนี้จะมีรายได้ 350400 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกรายได้เติบโตแล้ว 200-300%
นายบัญชา กล่าวว่า กลยุทธ์สำคัญในการขยายตลาดอาเซียน คือการพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพและได้รับการยอมรับในระดับสากล ล่าสุด บริษัทได้ร่วมมือเป็นพันธมิตรกับบริษัท ไบโอแลป ในเครือบริษัท ไบโอฟาร์ม เคมิคัลส์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตยาแห่งแรกและแห่งเดียวที่ได้รับรองมาตรฐาน EU GMP (PIC/s) จากสหภาพยุโรป ผลิตสินค้าตัวแรก คือผลิตภัณฑ์น้ำมันสกัดจากกุ้งทะเลลึกแอนตาร์กติก คาดว่าจะเพิ่มยอดขาย 20 ล้านบาทในช่วงที่เหลือของปีนี้
สำหรับปีนี้ บริษัทใช้งบลงทุนรวม 300 ล้านบาท ขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่จะทยอยเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลังอีก 10 รายการ การเปิดสำนักงานแห่งใหม่ที่ จ.อุดรธานี ถือเป็นสาขาที่ 5 ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต่อจากนครราชสีมา สกลนคร ร้อยเอ็ด และขอนแก่น และการขยายพื้นที่สำนักงานใหญ่ที่ กทม.อีก 200 ตารางเมตร เพื่อสร้างแล็บตรวจสุขภาพให้กับลูกค้า


