มิสเตอร์บันยกเครื่องเจาะลูกค้าใหม่

มิสเตอร์บัน ยกเครื่องร้านขนมอบระดับพรีเมียมขยายลูกค้ากลุ่มใหม่ ชูแฟรนไชส์เจาะต่างจังหวัด

นายอนุสรณ์ ตันยากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัน ผู้บริหารร้านมิสเตอร์บัน เปิดเผยว่าบริษัทวางแผนเปิดตัวร้านมิสเตอร์บันรูปแบบใหม่ในระดับพรีเมียม ภายใต้ชื่อ มิสเตอร์บันบูทิค โดยจะเปิดตัวสาขาต้นแบบ(แฟลกชิป สโตร์) บนพื้นที่ ประมาณ 35 ตร.ม เพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ ที่นิยมทานเบอเกอรีผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพสูง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาทำเลที่ตั้งร้านค้าต้นแบบ 1 สาขา ทั้งศูนย์การค้าพารากอน และ เซ็นทรัลเวิลด์ คาดใช้งบลงทุนราว 1.5-2 ล้านบาท/สาขา

พร้อมกันนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญ กับการขยายไลน์สินค้าใหม่ๆเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดให้บริการกลุ่มเครื่องดื่มแบรนด์ “เบสต์ มอลท์” (Best Malt) และกลุ่มไอศครีมแบรนด์ “บัน เอสกิโม” รวมถึงสินค้าหมวดอาหารว่างและขนมอบ ระดับบน(พรีเมียม) ที่พัฒนาสูตรจากเชฟโดยเฉพาะ เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับสินค้าภายในร้านและเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคกลุ่ทมเป้าหมายหลัก คือ กลุ่มครอบครัวเพิ่มมากขึ้น คาดพร้อมเปิดให้บริการธุรกิจสินค้าไลน์ใหม่ในเดือน ก.ย นี้ โดยตั้งเป้าหมายกลุ่มสินค้าพรีเมียม20% จากจำนวนยอดขายทั้งหมดยองมิสเตอร์บัน

สำหรับแผนดังกล่าว ถือเป็นการขยายธุรกิจเบเกอร์รีของบริษัท เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี จากการเพิ่มไลน์สินค้าใหม่ๆ จากปัจจุบัน มิสเตอร์บัน มีกลุ่มขนมปังและเบเกอร์รี เกือบ 30 ชนิด โดยบริษัทตรียมลงทุนกว่า 25 ล้านบาท เพื่อขยายศูนย์ผลิตสินค้าและบริการเพิ่มเติม ในพื้นที่ย่านรังสิต ซึ่งศูนย์ดังกล่าวจะเป็นแห่งที่ 2 ต่ออจากก่อนหน้านี้ บริษัทได้เปิดศูนย์สนับสนุนการผลิตสินค้าและบริการ หรือ บีเอสซี ที่บริเวณศูนย์การค้าเซียร์รังสิต

นอกจากนี้บริษัทภายใน 5 ปีนับจากนี้ บริษัทยังมีแผนเพิ่มสัดส่วนร้านมิสเตอ์บัน ในรูปแบบแฟรนไชส์เป็น 80% จากปัจจุบันมีสัดส่วน 25% โดยคาดว่าในช่วงเวลาดังกล่าว บริษัทจะสามารถเปิดให้บริการร้านมิสเตอร์บันได้ทั้งสิ้น 250 สาขา แบ่งเป็นสาขาของบริษัทราว50 สาขา และ สาขาแฟรนไชน์ 200 สาขา เพื่อขยายกลุ่มสินค้าให้สอดคล้องกับกลุ่มผู้บริโภคที่เข้าร้านมิสเตอร์บัน โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายในตลาดต่างจังหวัด  จากปัจจุบันมีฐานลูกค้าหมุนเวียน 6.3แสนรายต่อเดือน และ มีการใช้จ่ายต่อครั้งเฉลี่ย45 บาท

บริษัทวางเป้าในอนาคต จะมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น 1ล้านรายต่อเดือน และจกกการเพิ่มไลน์สินค้ากลุ่มใหม่ๆ ทำให้มีการใช้จ่ายต่อครั้งเพิ่มขึ้น 5-6% ส่วนรายได้ในปีนี้ จะมีการเติบโตจากสาขาเดิมราว10-15% ส่วนสาขาร้านที่เปิดใหม่คาดเติบโตประมาณ 30-35% โดยภายใน 5 ปี จะมีรายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท

“สำหรับต้นทุนการผลิตของมิสเตอร์บัน ในปัจจุบันแบกรับภาระต้นทุนวัตุถดิบ ทั้งไข่ไก่ และ น้ำตาล ซึ่งเป็นต้นทุนรวมที่ปรับขึ้นมาราว 1.5-3% เทียบกับปีที่ผ่านมา โดยบริษัทได้ปรับราคาสินค้าไปเล็กน้อยในต้นปีที่ผ่านมา จากภาพรวมตลาดเบเกอร์รีในแต่ละปี มีการเติบโตประมาณ 10-15% จากมูลค่า 8,000 ล้านบาท และตลาดขนมอบโดนัทราว 3,500 ล้านบาท” นายอนุสรณ์ กล่าว