นักเดทออนไลน์พึงระวัง! ติดตั้ง Stalkerware ไม่รู้ตัว เสี่ยงถูกสะกดรอยทางดิจิทัล
วิจัย Kaspersky เผย นักเดทออนไลน์เกือบ 1 ใน 4 เคยโดนสะกดรอยทางดิจิทัล จากการติดตั้ง stalkerware บนโทรศัพท์มือถือโดยไม่ได้รับความยินยอม แนะเข้มกฎหมายคุมเทคโนโลยี ป้องกันผู้ใช้ถูกละเมิด
จากการศึกษาวิจัยซึ่งสัมภาษณ์ประชาชน 1,000 คนของแต่ละประเทศ 21 ประเทศทั่วโลก รวม 21,000 คน พบว่านักเดทออนไลน์กระตือรือร้นที่จะดำเนินการเพื่อปกป้องตนเองในการมองหาความรัก อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนเกือบ 1 ใน 4 (23%) กล่าวว่า ตนเองเคยพบเจอการสะกดรอยตามทางออนไลน์จากคนที่เพิ่งออกเดทด้วย แต่ก็นับว่ายังมีความเสี่ยงที่จะถูกสะกดรอยตามและถูกละเมิดเพิ่มขึ้นจากการตั้งค่าแจ้งสถานที่อยู่ ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และการแชร์ข้อมูลในวงกว้างที่มากเกินไป
ประเภทของการละเมิดนั้นแตกต่างกันไป โดยผู้ตอบแบบสอบถาม 39% รายงานรูปแบบความรุนแรงหรือการละเมิดบางรูปแบบจากคู่รักในปัจจุบันหรือก่อนหน้านี้ ดังนี้
- ผู้ตอบแบบสอบถาม 16% ได้รับอีเมลหรือข้อความที่ไม่ต้องการ
- ผู้ตอบแบบสอบถาม 13 % ถูกถ่ายวิดีโอหรือถ่ายภาพโดยไม่ได้รับความยินยอม
- ผู้ตอบแบบสอบถาม 10% ยอมรับว่าถูกติดตามตำแหน่งของตน
- ผู้ตอบแบบสอบถาม 10% ระบุว่าบัญชีโซเชียลมีเดียหรืออีเมลของตนถูกแฮ็ก
- ผู้ตอบแบบสอบถาม 7% พบการติดตั้งสตอล์กเกอร์แวร์ (stalkerware) บนอุปกรณ์ของตนโดยไม่ได้รับความยินยอม
ผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นผู้หญิงที่เคยถูกละเมิดในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ซึ่งมีสัดส่วนที่มากกว่าผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นผู้ชาย (42% ต่อ 36%) ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลว่า นักออกเดทในปัจจุบันมีประสบการณ์ความรุนแรงหรือการละเมิดมากกว่าผู้ที่มีความสัมพันธ์ระยะยาว (48% ต่อ 37%)
ผู้ตอบแบบสอบถาม 34% กล่าวว่า ตนกังวลเกี่ยวกับโอกาสที่จะถูกสะกดรอยตามทางออนไลน์ และผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นผู้หญิงมีความกังวลต่อโอกาสนี้มากกว่าผู้ชายเล็กน้อย (36% ต่อ 31%)
หัวหน้านักวิจัยด้านความปลอดภัย Kaspersky กล่าวว่า “Internet of Things หรือโลกที่เชื่อมต่อถึงกันนั้นนำเสนอความเป็นไปต่างๆ ได้มากมาย แต่ก็มาพร้อมภัยคุกคาม และหนึ่งในภัยคุกคามของโลกที่เชื่อมต่อถึงกันก็คือ การเข้าถึงข้อมูลได้อย่างง่ายดาย ซึ่งทำให้ผู้ใช้ออนไลน์เสี่ยงต่อการถูกละเมิด แม้ว่าเหยื่อของการสะกดรอยตามจะไม่ถูกตำหนิเรื่องพฤติกรรม แต่แท้จริงแล้วผู้ใช้ออนไลน์มีสิ่งที่ควรทำเพื่อลดความเสี่ยง ผู้ใช้ควรหยุดคิดสักนิด และตรวจสอบข้อมูล รหัสผ่าน หรือข้อมูลใดๆ ที่ได้แชร์ออกไป เพื่อพิจารณาว่าข้อมูลนั้นจะถูกนำไปใช้โดยผู้ไม่หวังดีได้อย่างไรบ้าง”


