posttoday

“Go MAMMA” บริการแท็กซี่รับ-ส่งผู้สูงวัย เรียกคืนรอยยิ้มวัยเก๋า ให้ใช้ชีวิตนอกบ้านได้อีกครั้ง

25 มกราคม 2567

สำหรับคนวัยทำงาน การเดินทางออกนอกบ้านเป็นหนึ่งในเรื่องธรรมดาที่สามารถทำเมื่อไหร่ก็ได้ แต่หากมองในมุมของผู้สูงวัย การเดินทางออกนอกบ้านกลับไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น ธุรกิจแท็กซี่รับ-ส่งผู้สูงวัยอย่าง “Go MAMMA” จึงได้ถือกำเนิดขึ้นด้วยแนวคิด “อยากให้ผู้สูงวัย ได้กลับไปใช้ชีวิตนอกบ้านอีกครั้ง”

สำหรับคนวัยทำงาน การเดินทางออกนอกบ้านเป็นหนึ่งในเรื่องธรรมดาที่สามารถทำเมื่อไหร่ก็ได้ แต่หากมองในมุมของผู้สูงวัย การเดินทางออกนอกบ้านกลับไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น ธุรกิจแท็กซี่รับ-ส่งผู้สูงวัยอย่าง “Go MAMMA” จึงได้ถือกำเนิดขึ้น ด้วย Pain Point ที่ประสบเองจากผู้สูงอายุในครอบครัว สู่แนวคิด “อยากให้ผู้สูงวัย ได้กลับไปใช้ชีวิตนอกบ้านอีกครั้ง” เพราะเมื่อผู้สูงอายุแฮปปี้ คนในครอบครัวก็มีสุขภาพจิตที่ดีตาม และมากกว่าการเดินทางที่ปลอดภัย คือรอยยิ้มของผู้สูงวัยที่ชุบชูหัวใจลูกหลาน

“Go MAMMA” บริการแท็กซี่รับ-ส่งผู้สูงวัย เรียกคืนรอยยิ้มวัยเก๋า ให้ใช้ชีวิตนอกบ้านได้อีกครั้ง

จุดเริ่มต้นของธุรกิจ Go MAMMA

ก่อนที่จะมาเป็นผู้ให้บริการรถแท็กซี่สำหรับรับ-ส่งผู้ส่งอายุ Go MAMMA เริ่มต้นจากธุรกิจดูแลเด็กมาก่อน โดย “คุณเป้ รสรี ซันจวน” ซีอีโอของ Go MAMMA ระบุว่า ตนเองมีพี่สาวที่ต้องดูแลลูก และได้มองเห็นปัญหาในการต้องการพี่เลี้ยงมาช่วยดูแล ตนและพี่สาวจึงเกิดไอเดียว่าควรตั้งศูนย์จัดส่งพี่เลี้ยงดีหรือไม่ เพื่อพัฒนาพี่เลี้ยงให้ตรงกับความต้องการของคุณแม่

หลังจากวันนั้น คุณรสรีได้ก้าวเข้าสู่ธุรกิจดูแลแม่และเด็ก ซึ่งตนก็ต้องเรียนรู้วิธีดูแลเด็กก่อนจัดส่งพี่เลี้ยงไปยังแต่ละบ้านเช่นกัน ด้วยวิสัยทัศน์ที่เล็งเห็นว่า “แค่มีคนดูแล” อย่างเดียวคงไม่พอ แต่คนดูแลต้องมี “องค์ความรู้” ที่เหมาะสมกับการดูแลในระดับครอบครัว รวมถึงเหมาะสมกับช่วงวัยด้วย ตนจึงจัดตั้งหลักสูตรเพื่อฝึกอบรมให้กับพี่เลี้ยง รวมถึงหลักสูตรอบรมคุณพ่อคุณแม่ เนื่องจากวิธีที่เด็กรุ่นก่อนและเด็กรุ่นใหม่เติบโตมานั้นมีความแตกต่างกัน

แม้ธุรกิจดูแลแม่และเด็กจะดำเนินมาอย่างต่อเนื่องกว่า 15 ปี แต่คุณรสรีมองเห็นว่า ยังมีสมาชิกภายในบ้านอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้รับการดูแล นั่นคือ “กลุ่มผู้สูงอายุ” ประกอบกับในครอบครัวตนเองมีผู้สูงอายุที่อายุเกิน 80 ปี อยู่ราว 4-5 ราย จึงเกิดความคิดว่าเราควรเริ่มดูแลสมาชิกกลุ่มนี้อย่างไร

จุดหนึ่งที่ตนมองเห็น คือกลุ่มผู้สูงอายุมักมีปัญหาในเรื่องของการเดินทางออกนอกบ้าน ซึ่งต้องรอลูกหลานสะดวกก่อนจึงสามารถช่วยเดินทางรับ-ส่งไปยังจุดหมายที่ต้องการได้ ตนจึงปรึกษากับน้องสาวว่า ในเมื่อเรามีองค์ความรู้ในเรื่องการดูแลเด็ก พ่อแม่ ผู้สูงอายุและสมาชิกในครอบครัวอยู่เป็นทุนเดิมแล้ว เราควรนำชุดความรู้ตรงนี้มาบวกกับบริการที่เป็นความต้องการของผู้สูงอายุ ธุรกิจรถแท็กซี่สำหรับรับ-ส่งผู้สูงอายุ “ Go MAMMA” จึงได้ถือกำเนิดขึ้น

“Go MAMMA” บริการแท็กซี่รับ-ส่งผู้สูงวัย เรียกคืนรอยยิ้มวัยเก๋า ให้ใช้ชีวิตนอกบ้านได้อีกครั้ง

เพราะการดูแลผู้สูงวัยต้องอาศัยองค์ความรู้

คุณรสรี ระบุว่า ในแง่ของแท็กซี่สำหรับผู้สูงอายุในไทยไม่ว่าจะเป็นการช่วยรับ-ส่งผู้สูงอายุไปทำกิจกรรมต่างๆ หรือเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ปัจจุบันในไทยมีธุรกิจแบบนี้ค่อนข้างเยอะมาก ซึ่งตนมีความยินดีเป็นอย่างมากที่เห็นตลาดเพื่อการบริการผู้สูงวัยเติบโตขึ้น เนื่องจากสังคมไทยในปัจจุบันได้เข้าสู่สังคมสูงวัยแล้ว อัตราการเกิดน้อย และแน่นอนว่าคนช่วยดูแลผู้สูงอายุก็น้อยลงตาม หากเรามีบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้สูงอายุได้เพียงพอ น่าจะช่วยแบ่งเบาภาระของคนในสังคมได้มาก

ทาง Go MAMMA เอง ไม่ได้มองว่าเมื่อมีผู้เล่นในตลาดเยอะขึ้น จะทำให้ธุรกิจเกิดความเสียเปรียบ เนื่องจากชุดองค์ความรู้ที่ได้ถ่ายทอดให้กับพนักงานและผู้เข้ารับการอบรมให้มีความเข้าใจง่ายต่อการดูแลสมาชิกภายในครอบครัว การดูแลเด็ก การดูแลผู้สูงอายุให้เหมาะสมในระดับครัวเรือน นับเป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้เข้ารับบริการ และเป็นหนึ่งในจุดแข็งของ Go MAMMA ที่อยู่ในธุรกิจเพื่อการดูแลสมาชิกในครอบครัวมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 17 ปี

“Go MAMMA” บริการแท็กซี่รับ-ส่งผู้สูงวัย เรียกคืนรอยยิ้มวัยเก๋า ให้ใช้ชีวิตนอกบ้านได้อีกครั้ง

มากกว่าการรับ-ส่ง คือผู้ใช้อุ่นใจ คนขับพร้อมให้บริการ

เมื่อพูดถึงบริการรถแท็กซี่ สิ่งหนึ่งที่ผุดขึ้นในความคิดของผู้ใช้บริการส่วนใหญ่คือ “คนขับไว้ใจได้มากน้อยแค่ไหน?” ซึ่งทาง Go MAMMA ไม่ได้ปล่อยผ่านในจุดนี้ ด้วยความที่ดำเนินการพัฒนาบุคลากรมาตั้งแต่เริ่มธุรกิจพี่เลี้ยงเด็กเมื่อ 17 ปีที่แล้ว Go MAMMA ได้พัฒนาระบบในการคัดกรองบุคลากรที่จะเข้ามาดูแลผู้สูงอายุอย่างเข้มข้น ตั้งแต่ทัศนคติไปจนถึงใจที่พร้อมให้บริการ ด้วยคุณลักษณะ “3H” Head, Hands และ Heart 

บุคลากรที่จะมาเป็นคนขับรถของ Go MAMMA ต้องไม่มีปัญหาทางการเงิน ไร้ประวัติอาชญากรรม และจะอาศัยแค่ใจรักผู้สูงอายุอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องมีองค์ความรู้ในการดูแลผู้สูงอายุ เมื่อรับบุคลากรเข้ามาแล้ว ทางบริษัทไม่ได้มอบองค์ความรู้ให้อย่างเดียว แต่ยังมีกระบวนการพัฒนาเพื่อให้เกิดความชำนาญจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการอบรมแบบ Workshop ที่สามารถเข้าใจได้อย่างง่ายดาย และนำไปประยุกต์ใช้หน้างานได้จริง รวมถึงการทดลองงาน ที่ไม่ได้ให้ทดลองแบบข้อเขียนแต่ต้องปฏิบัติจริง เพื่อสร้างความมั่นใจว่าบุคลากรแต่ละคนมีความชำนาญพอที่จะสามารถดูแลผู้สูงอายุได้จริงและมีใจในการให้บริการผู้สูงอายุ

นอกจากนี้รถทุกคันยังติดตั้งระบบ Tracking ที่สามารถติดตามการใช้บริการของลูกค้าได้ ว่าเดินทางถึงไหน เวลาเท่าไหร่ พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลของคนขับให้ตรงกับพนักงานขับที่ได้ส่งข้อมูลให้ลูกค้าก่อนไปรับ เพื่อเป็นเครื่องยืนยันความปลอดภัยว่าคนขับที่ไปรับนั้น คือ คนที่ผ่านการอบรมและคัดเลือกจาก Go MAMMA แล้วจริงๆ

“Go MAMMA” บริการแท็กซี่รับ-ส่งผู้สูงวัย เรียกคืนรอยยิ้มวัยเก๋า ให้ใช้ชีวิตนอกบ้านได้อีกครั้ง

สำรวจพฤติกรรมการเดินทางของผู้สูงอายุในไทย

คุณรสรี ระบุว่าพฤติกรรมการเดินทางของผู้สูงอายุในไทยสามารถแบ่งได้เป็น กลุ่มที่พบปัญหาหาที่จอดรถยาก โดยเฉพาะในหลายโรงพยาบาล ปัญหาที่จอดรถไม่เพียงพอถือเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ ผู้ที่เรียกใช้บริการ Go MAMMA จึงต้องการคนขับรถส่วนตัวที่พอถึงจุดหมายปลายทางแล้วสามารถลงจากรถและออกไปใช้ชีวิตต่อได้เลย ตัดปัญหากวนใจเรื่องที่จอด ขณะที่ขากลับก็สามารถโทรเรียกรถให้มารับได้ทันที 

ขณะที่กลุ่มถัดมา คือกลุ่มที่มีความจำเป็นต้องเดินทางบ่อย เช่น กลุ่มลูกค้าที่ฟอกไต ซึ่งความถี่ในการเข้ารับบริการทางการแพทย์ต่อสัปดาห์จะยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ก็เพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง โดยปัจจุบันทาง GO MAMMA มีลูกค้าที่เรียกใช้บริการเพื่อเข้ารับการฟอกไตสูงสุดสัปดาห์ละ 3-4 วัน (บริการแบบไป-กลับ) 

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้ใช้เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของตน เพราะจุดประสงค์ของ Go MAMMA ไม่ใช่รถแท็กซี่สำหรับรับ-ส่งผู้ส่งอายุเพื่อเข้ารับบริการทางการแพทย์ตั้งแต่ต้น แต่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถกลับไปใช้ชีวิตนอกบ้านได้เหมือนที่เคยเป็นมา ไม่ว่าจะเป็นการพบปะเพื่อนฝูง การสังสรรค์ ร้องเพลง แต่ด้วยความจำเป็นของผู้สูงอายุส่วนใหญ่ที่ต้องเข้ารับบริการทางการแพทย์อยู่บ่อยครั้ง บริการของ Go MAMMA จึงเข้ามาช่วยแก้ Pain Point ในจุดนี้ได้เช่นกัน

“Go MAMMA” บริการแท็กซี่รับ-ส่งผู้สูงวัย เรียกคืนรอยยิ้มวัยเก๋า ให้ใช้ชีวิตนอกบ้านได้อีกครั้ง

แผนการลงทุนของ Go MAMMA ในอนาคต

ในปี 2024 นี้ คุณรสรีมองว่าการแบ่งปันองค์ความรู้ยังเป็นแกนหลักและสิ่งสำคัญของการต่อยอดธุรกิจ ซึ่ง Go MAMMA จะส่งมอบองค์ความรู้เพื่อพัฒนาบุคลากรในสายงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของภาครัฐที่มีนโยบายพัฒนากลุ่มคนที่ต้องดูแลผู้สูงอายุ การจัดตั้งสถานประกอบการที่อำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุ ลดปัญหาในการพาผู้สูงอายุออกนอกบ้านในชุมชนต่างๆ ช่วยผู้ประกอบการในธุรกิจต่างๆต่อยอดสินค้าที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นไปอีกด้วยการพัฒนาสินค้าที่ตอบสนองความต้องการกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มลูกหลานได้มากที่สุด

รวมถึงส่งต่อหลักสูตรและกิจกรรมให้กับภาคครัวเรือน ให้สามารถดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวตัวเองได้ สุดท้ายแล้ว การทำให้ผู้สูงอายุมองเห็นคุณค่าในตัวเองถือเป็นสิ่งที่มองข้ามไปไม่ได้ ด้วยบางท่านยังมีศักยภาพในตัวเอง แต่สังคมตัดสินเขาที่ตัวเลข การจัดกิจกรรมที่สนับสนุนให้ผู้สูงอายุสามารถพึ่งพาตัวเองได้ และถ่ายทอดประสบการณ์ ส่งต่อภูมิปัญญาให้กับคนรุ่นใหม่ใน “โครงการเพาะรักษ์” ยังเป็นเป้าหมายของ Go MAMMA ที่จะทำในปีนี้เช่นกัน

ปัจจุบันแอปพลิเคชัน Go Mamma เปิดให้ดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ Android และระบบ iOS ส่วนท่านใดที่ไม่สะดวกในการใช้แอปพลิเคชั่น ยังสามารถโทรจองรถและชำระเงินก่อนล่วงหน้าได้ 24 ชม. ที่เบอร์ 094-429-2296 หรือผ่านทาง Line 

ทั้งนี้ แม้ Go MAMMA จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์ในเรื่องการดูแลรับ-ส่งผู้สูงอายุ แต่คุณรสรี ยังระบุว่า เราสนับสนุนให้ลูกหลานหรือคนในครอบครัวดูแลผู้สูงอายุด้วยตัวเอง บริการของ GO MAMMA เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระ และช่วยอำนวยความสะดวกในบางครั้งคราวเท่านั้น เพราะคนที่จะดูแลผู้สูงวัยได้ดีที่สุดก็คือคนในครอบครัวของเขาเอง