posttoday

ร้องรัฐแก้ข้าวไทยปนเปื้อน หลังญี่ปุ่นออกเกณฑ์สารตกค้างใหม่

05 กุมภาพันธ์ 2561

ผู้ค้าข้าวยื่นกระทรวงพาณิชย์-เกษตรฯ เร่งแก้ปัญหา หลังญี่ปุ่นออกมาตรการใหม่ หวั่นกระทบตลาดส่งออกข้าว 3 แสนตัน คาดมีผล ต.ค.นี้

ผู้ค้าข้าวยื่นกระทรวงพาณิชย์-เกษตรฯ เร่งแก้ปัญหา หลังญี่ปุ่นออกมาตรการใหม่ หวั่นกระทบตลาดส่งออกข้าว 3 แสนตัน คาดมีผล ต.ค.นี้

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า สมาคมเตรียมทำหนังสือถึงกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอให้ช่วยแก้ไขปัญหากรณีที่กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของรัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมออกประกาศบังคับปรับปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุด (MRL) ของสารฟอสอีทิล (Fosetyl-aluminium) ซึ่งผสมในยาปราบศัตรูพืชปนเปื้อนในสินค้าเกษตร รวมทั้งข้าวในปริมาณไม่เกิน 0.01 มิลลิกรัม (มก.)/กิโลกรัม (กก.) จากเดิมที่กำหนดไม่เกิน 0.5 มก./กก.

ทั้งนี้ หากประกาศมีผลบังคับใช้จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกข้าวไทยไปตลาดญี่ปุ่นที่มีปริมาณส่งออกปีละ 3 แสนตันทันที เพราะจากการสุ่มตรวจข้าวไทยพบการปนเปื้อนของสารฟอสอีทิลในระดับ 0.1-0.2 มก./กก. ซึ่งเกินระดับของประกาศใหม่

“กระทรวงสาธารณสุขฯ ของญี่ปุ่นจะออกประกาศเกี่ยวกับสารดังกล่าว ในราชกิจจานุเบกษาเดือน มี.ค. 2561 และมีผลบังคับใช้ ต.ค. 2561 ทำให้การส่งออกข้าวไทยในตลาดญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดข้าวคุณภาพดีได้รับผลกระทบ เพราะส่งออกไม่ได้ ทำให้การส่งออกข้าวไทยไปตลาดญี่ปุ่นเสียหายกว่า 3 แสนตัน” นายชูเกียรติ กล่าว

นอกจากนี้ ที่สำคัญกระทรวงเกษตรฯ ของไทยกลับประกาศรับรองการใช้สารฟอสอีทิลเมื่อช่วงปลายปี 2560 ที่ผ่านมา ถือเป็นการรับรองใช้สารดังกล่าวในประเทศไทย ยิ่งทำให้หน่วยงานรัฐบาลญี่ปุ่นมีความกังวลต่อการออกประกาศรับรองการใช้สารฟอสอีทิลที่จะปนเปื้อนในข้าว และได้เดินทางเข้ามาหารือกับกระทรวงเกษตรฯ ของไทยแล้ว เบื้องต้นได้รับทราบว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะชะลออนุมัติประกาศรับรองสารดังกล่าวไว้ก่อน

นายชูเกียรติ กล่าวว่า ทางแก้ไขปัญหาขณะนี้ทั้งกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯ ควรใช้ทุกช่องทางในการเจรจาระดับรัฐบาล ขอให้ญี่ปุ่นทบทวนการออกประกาศบังคับใช้สารฟอสอีทิลในปริมาณไม่เกิน 0.01 มก. เพราะถือเป็นปริมาณที่น้อยเกินไป ซึ่งจะทำให้ไทยเสียตลาดส่งออกข้าวไปญี่ปุ่นให้กับสหรัฐและออสเตรเลีย ที่ห้ามมีการใช้สารฟอสอีทิลในประเทศ

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า กระทรวงสาธารณสุขฯ ญี่ปุ่นมีข้อกังวลต่อการประกาศของกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทย เพราะเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2560 คณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายทางการเกษตร ได้อนุมัติการขอขึ้นทะเบียนสำหรับสารฟอสอีทิล และจะออกใบอนุญาตการขึ้นทะเบียนสารดังกล่าว ซึ่งทางกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่น ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลการนำเข้าข้าวญี่ปุ่น เห็นว่าการอนุมัติดังกล่าวเป็นการอนุญาตให้ใช้สารฟอสอีทิลในไทย ขณะที่สหรัฐ แคนาดา และออสเตรเลีย ที่เป็นประเทศผู้ผลิตข้าวเช่นเดียวกับไทย แต่ไม่มีการรับรองใช้สารฟอสอีทิลเหมือนประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวระบุว่า กระทรวงเกษตรฯ ของไทยจะเดินทางไปหารือประเด็นดังกล่าวที่ประเทศญี่ปุ่นเร็วๆ นี้ และเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยจะเข้าพบนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ วันที่ 14 ก.พ. ซึ่งจะมีการหารือเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวด้วย

อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่น แจ้งว่า แม้จะประกาศบังคับใช้สารฟอสอีทิลปริมาณใหม่ แต่กระทรวงสาธารณสุขฯ ของญี่ปุ่นอาจพิจารณาข้าวนำเข้าที่มีปริมาณสารฟอสอีทิลตกค้างมากกว่า 0.01 มก. ว่าไม่ละเมิดเกณฑ์ปริมาณสูงสุด หากหน่วยงานรัฐมีหนังสือยืนยันว่าไม่มีการใช้ยาปราบศัตรูพืชที่ี่ผสมสารฟอสอีทิล และได้แจ้งให้ไทยดำเนินการเพื่อจัดการกับการปรับปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุดอย่างเร่งด่วน