posttoday

ไทยเร่งจีนรับมอบข้าวจีทูจี

11 ธันวาคม 2560

พาณิชย์ผลักดันจีนรับมอบข้าวจีทูจีอีก 6 แสนตันที่เหลือและซื้อเพิ่มอีก 1 ล้านตัน ส่วนสต๊อกข้าวรัฐ 2.03 ล้านตัน เปิดขายต้นปี 2561

พาณิชย์ผลักดันจีนรับมอบข้าวจีทูจีอีก 6 แสนตันที่เหลือและซื้อเพิ่มอีก 1 ล้านตัน ส่วนสต๊อกข้าวรัฐ 2.03 ล้านตัน เปิดขายต้นปี 2561

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้จัดทำแผนการขยายตลาดข้าวไทยในปี 2561 เสร็จเรียบร้อยแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการนำหารือกับ น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ ที่กำกับดูแลกรม โดยเน้นการขยายตลาดข้าวในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ได้แก่ การผลักดันให้จีนรับมอบข้าวภายใต้สัญญาจีทูจี 1 ล้านตันแรก ปัจจุบันยังเหลือการส่งมอบอีก 6 แสนตันให้ครบโดยเร็ว และจะผลักดันการเจรจาให้จีนซื้อข้าวอีก 1 ล้านตันที่ 2 ภายใต้เอ็มโอยูสินค้าเกษตรไทย-จีน

ทั้งนี้ นอกจากจีนแล้วจะเน้นการเจรจาขายให้กับอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา บังกลาเทศ อิรัก อิหร่าน และไนจีเรีย เป็นต้น และยังมีแผนที่จะร่วมกับภาคเอกชนในการจัดกิจกรรมขยายตลาดเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดข้าวไทยในตลาดเป้าหมาย เช่น ฮ่องกง จีน การเข้าร่วมงานแสดงสินค้า เพื่อแนะนำข้าวไทยและผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าวไทยที่เยอรมนี ในงานแสดงสินค้าเกษตรอินทรีย์ Biofach 2018 และที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในงานแสดงสินค้านานาชาติ Gulfood 2018 การจัดคณะผู้แทนการค้า เพื่อขยายความร่วมมือด้านการค้าข้าวกับสิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม แอฟริกาใต้ และไอวอรี่โคสต์ โดยเฉพาะเวียดนามจะมีการหารือเพื่อเพิ่มความร่วมมือในด้านการค้าข้าวด้วย

“ปีหน้าการทำตลาดข้าวไม่มีแรงกดดันมาก เพราะขณะนี้สต๊อกข้าวที่เคยเป็นแรงกดทับตลาดไม่มีเหลือแล้ว ที่เหลืออยู่ก็ไม่ใช่ข้าวสำหรับคนบริโภค คาดว่ากรมจะทำตลาดได้ง่ายขึ้น โดยการขยายตลาดข้าว นอกจากจะมุ่งผลักดันส่งออกข้าวคุณภาพดี ข้าวอินทรีย์ ข้าวสีชนิดต่างๆ แล้ว ยังจะให้ความสำคัญกับการผลักดันส่งออกผลิตภัณฑ์นวัตกรรมจากข้าวด้วย” นายอดุลย์ กล่าว

นอกจากนี้ กรมจะร่วมมือกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายข้าวไทยร่วมกับห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ตในตลาดสำคัญทุกภูมิภาคทั่วโลก เช่น จีน ไต้หวัน สเปน เยอรมนี อิตาลี อังกฤษ สหรัฐ แคนาดา เม็กซิโก คิวบา เปรู และชิลี เป็นต้น ส่วนภายในประเทศจะเข้าร่วมจัดนิทรรศการและการประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในงานต่างๆ เช่น งานแสดงสินค้าอาหารระดับนานาชาติ (ไทยเฟกซ์) งานไทยไรซ์ เฟสติวัล งานวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ และงานออร์แกนิก แอนด์เนเจอรัล เอ็กซ์โป 2018 เป็นต้น

สำหรับแนวทางการระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลที่เหลืออยู่ 2.03 ล้านตัน คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ได้ให้แนวทางในการระบายมาแล้ว โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดระบายได้ในช่วงต้นปี 2561 ซึ่งเป็นช่วงที่ผลผลิตข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2560/2561 หมดแล้ว และข้าวที่จะระบายก็ไม่มีผลกระทบต่อตลาดข้าว เพราะเป็นข้าวที่ใช้ในอุตสาหกรรม และไม่ใช่อาหารคน   

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ขณะนี้ไม่มีข้าวเพื่อการบริโภคของคน หรือข้าวดี เหลืออยู่ในสต๊อกรัฐบาล หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ได้มีการอนุมัติขายข้าวกลุ่ม 1 หรือข้าวเพื่อการบริโภคปริมาณ 5 หมื่นกว่าตัน ให้กับกรมราชทัณฑ์ไปหมดแล้ว ทำให้ขณะนี้เหลือแต่ข้าวที่ระบายเข้าสู่อุตสาหกรรมเท่านั้น แบ่งเป็น ปริมาณ 1.5 ล้านตัน เป็นข้าวกลุ่ม 2 หรือข้าวที่ต้องระบายเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมที่มิใช่คนบริโภค และกลุ่ม 3 อีกประมาณ 5 แสนตัน เป็นข้าวที่ต้องระบายเข้าสู่อุตสาหกรรมที่มิใช่คนและสัตว์บริโภค

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การระบายข้าวในกลุ่ม 2 และ 3 คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในปีหน้า เพราะต้องรอให้ผลผลิตข้าวนาปีฤดูกาล 2560/2561 ที่ขณะนี้กำลังทยอยออกสู่ตลาดหมดก่อน โดยคาดว่าผลผลิตข้าวเปลือกนาปีจะเริ่มลดน้อยลงในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. 2561 คาดว่าจะสามารถเริ่มระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลที่เหลือออกมาได้ และไม่น่าจะกระทบกับราคาข้าวในตลาด เพราะเป็นข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมที่มิใช่ข้าวเพื่อการบริโภคปกติ

ด้านราคาส่งออกข้าวไทยล่าสุด โดยราคาส่งออกข้าวขาว 5% อยู่ที่ตันละ 412 ดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าราคาข้าวชนิดเดียวกันของเวียดนามที่ส่งออกตันละ 390 ดอลลาร์ อินเดียส่งออกตันละ 390 ดอลลาร์ และปากีสถานส่งออกตันละ 372 ดอลลาร์ ส่วนข้าวนึ่งของไทยส่งออกที่ตันละ 437 ดอลลาร์ สูงกว่าอินเดียส่งออกตันละ 400 ดอลลาร์