posttoday

กลยุทธ์ใหม่ Meta ดึงฐานข้อมูลข่าว CNN - Fox ยกระดับ AI ให้รู้ทันโลก

08 ธันวาคม 2568

Meta บรรลุข้อตกลงกับกลุ่มสำนักข่าวชั้นนำระดับโลก อาทิ CNN และ Fox News เพื่อนำข้อมูลข่าวสารแบบเรียลไทม์เสริมศักยภาพให้ Meta AI หวังกลบช่องโหว่เรื่องข้อมูลไม่อัปเดต

KEY

POINTS

  • Meta เซ็นสัญญาใช้ข้อมูลจากสื่อใหญ่ เช่น CNN, Fox News, USA Today และ Le Monde เพื่อให้ Meta AI สามารถตอบคำถามเกี่ยวกับข่าวสาร เหตุการณ์ปัจจุบัน และข่าวด่วนได้ทันที
  • คำตอบจาก AI จะแนบลิงก์กลับไปยังต้นทาง ช่วยเพิ่มยอดเข้าชมให้กับเว็บไซต์สำนักข่าว
  • หวังเพิ่มความแม่นยำ ลดความผิดพลาดของข้อมูล และกู้ภาพลักษณ์ Llama 4 

 

Meta เดินหน้ายกระดับขีดความสามารถด้านปัญญาประดิษฐ์ครั้งใหญ่ โดยประกาศความร่วมมือเชิงพาณิชย์กับกลุ่มสำนักข่าวชั้นนำ เพื่อนำเนื้อหาข่าวสารมาป้อนให้ Meta AI สามารถรายงานสถานการณ์โลก ข่าวบันเทิง และข่าวด่วน (Breaking News) ได้แบบทันท่วงที

 

Meta ระบุว่าฟีเจอร์ใหม่นี้จะปลดล็อกให้ผู้ใช้งานที่สอบถามข้อมูลข่าวสารผ่าน Meta AI ได้รับคำตอบที่กลั่นกรองมาจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือหลากหลายแห่ง 

 

โดยระบบจะคัดเลือกเนื้อหาที่สดใหม่และตรงประเด็นที่สุดมานำเสนอ พร้อมแนบลิงก์บทความต้นฉบับเพื่อให้ผู้อ่านคลิกกลับไปอ่านรายละเอียดฉบับเต็มบนเว็บไซต์ของสำนักข่าว ซึ่ง Meta เชื่อว่าแนวทางนี้จะช่วยขยายฐานผู้อ่านใหม่ๆ ให้กับพาร์ตเนอร์สื่อได้อีกทางหนึ่ง

 

สำหรับพันธมิตรกลุ่มแรกที่ตบเท้าเข้าร่วมโครงการ ล้วนเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการสื่อ ไม่ว่าจะเป็น CNN, Fox News, Fox Sports, Le Monde Group, เครือสื่อ People Inc., The Daily Caller, The Washington Examiner และ USA Today โดย Meta มีแผนเดินหน้าเจรจาขยายความร่วมมือกับสำนักข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคต

 

ดีลนี้นับเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าจับตามอง เพราะก่อนหน้านี้ Meta มีท่าทีถอยห่างจากธุรกิจสื่อและข่าวสารอย่างชัดเจน เห็นได้จากการสั่งปิดฟีเจอร์ Facebook News (แท็บข่าว) ในปี 2024 และยุติการจ่ายเงินสนับสนุนสำนักข่าวมาตั้งแต่ปี 2022 

 

กลยุทธ์ใหม่ Meta ดึงฐานข้อมูลข่าว CNN - Fox ยกระดับ AI ให้รู้ทันโลก

 

 

ทว่าในครั้งนี้ บริษัทยอมควักกระเป๋าจ่ายเงินอีกครั้ง แต่เปลี่ยนวัตถุประสงค์จากการแสดงผลบนหน้าฟีด มาเป็นการซื้อ "วัตถุดิบคุณภาพ" เพื่อเทรนให้ AI ฉลาดขึ้น

 

"เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนา Meta AI ให้ตอบสนองไว แม่นยำ และมีความเป็นกลางมากยิ่งขึ้น" Meta ระบุผ่านบล็อกโพสต์ 

 

"การไล่ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบเรียลไทม์ถือเป็นโจทย์ยากของระบบ AI ในปัจจุบัน แต่การเชื่อมต่อกับแหล่งข่าวที่หลากหลาย จะช่วยให้เราส่งมอบข้อมูลที่ทันเหตุการณ์และสะท้อนมุมมองที่รอบด้านได้ดียิ่งขึ้น"

 

นักวิเคราะห์มองว่า การขยับตัวครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อดึงดูดผู้ใช้ให้หันมาพึ่งพาแชตบอตของ Meta มากขึ้น ท่ามกลางสมรภูมิ AI ที่มีคู่แข่งระดับพระกาฬครองตลาดอยู่ 

 

นอกจากนี้ ยังเป็นการเร่งสร้างจุดขายใหม่เพื่อกู้ภาพลักษณ์ หลังจากก่อนหน้านี้โมเดล Llama 4 ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องประสิทธิภาพการทำงานที่ไม่เป็นไปตามคาด

 

ปัจจุบัน Meta AI เปิดให้บริการแล้วในกว่า 200 ประเทศทั่วโลก โดยเชื่อมต่อผ่านอีโคซิสเต็มของบริษัททั้ง Facebook, Instagram, WhatsApp, Messenger รวมถึงแอปพลิเคชัน Meta AI แยกต่างหาก

 

อ้างอิง:

ข่าวล่าสุด

ศูนย์ฯ สิริกิติ์ Smart City ต้นแบบ! เปลี่ยนขยะเป็น RDF สู่ Net Zero 2050