ปิดกั้นได้ยันชีวิตจริง! เมื่อ Gemini จะถูกใช้ปิดกั้นโฆษณาผ่าน AR
โฆษณาถูกบล็อกในสายตาจริงด้วยแว่น AR และ Gemini AI นวัตกรรมสุดล้ำที่ลดสิ่งรบกวน อาจช่วยให้เราไม่ต้องเห็นโฆษณาตามป้าย เสา หรือฉลาก อีกต่อไป
KEY
POINTS
- โปรแกรมเมอร์ชาวเบลเยียมพัฒนาเทคโนโลยีที่ใช้แว่น AR (Snap Spectacles) ร่วมกับ AI Gemini เพื่อตรวจจับและปิดกั้นโฆษณาในชีวิตจริงแบบเรียลไทม์
- ระบบจะใช้แว่น AR สแกนภาพที่ผู้ใช้มองเห็น แล้วส่งให้ Gemini วิเคราะห์เพื่อระบุเนื้อหาที่เป็นโฆษณา จากนั้นจึงสร้างภาพสีแดงทับเพื่อบดบัง
- เทคโนโลยีนี้ยังเป็นเพียงแนวคิดและมีความท้าทาย เช่น ความแม่นยำของ AI ที่อาจปิดกั้นป้ายเตือนแทนโฆษณา และข้อจำกัดของอุปกรณ์ที่รองรับ
เมื่อพูดถึงบริการปิดกั้นโฆษณา สำหรับคนยุคนี้อาจไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไร บริการบนโลกออนไลน์ที่ให้เราใช้ชำระค่าบริการมีมากมาย ตั้งแต่ Youtube, Spotify, เกม ไปจนแอปพลิเคชันจำนวนมากตามท้องตลาดล้วนจูงใจด้วยวิธีนี้ เรียกว่าเป๋นหนึ่งในท่าหากินยอดนิยมที่เราพบเห็นได้ทั่วไป
แต่จะเป็นอย่างไรถ้าเราสามารถปิดกั้นโฆษณาที่มองเห็นได้แม้แต่บนโลกจริง
แว่น AR ที่สามารถปิดกั้นโฆษณาได้ในชีวิตจริงด้วย Gemini
ผลงานนี้เป็นของ Stijn Spanhove โปรแกรมเมอร์จากเบลเยี่ยม ที่อาศัยแนวคิดในการพัฒนาแว่น Augmented reality มาใช้งานร่วมกับ Gemini เพื่อค้นหา ตรวจจับ และปิดกั้นป้ายโฆษณาที่พบเห็นในชีวิตจริงได้แบบเรียลไทม์ เหมือนกับการสมัครบริการเสียเงินบนโลกออนไลน์
พื้นฐานของกลไกนี้จะอาศัย แว่น AR รุ่นที่ 5 ของบริษัท Snap Spectacles เป็นพื้นฐานในการแสดงภาพการมองเห็นที่ต้องการให้แก่ผู้ใช้งาน ร่วมกับโมเดล AI ประสิทธิภาพสูงจาก Google เพื่อระบุเนื้อหาที่ปรากฏในการแสดงผลว่า เป็นโฆษณาหรือไม่ แล้วจึงนำเทคโนโลยี AR มาปิดกั้นเนื้อหาดังกล่าว
ขั้นตอนการทำงานจะเริ่มต้นจากการใช้แอปพลิเคชันในแว่นตา AR เพื่อตรวจสอบพื้นผิวและรายละเอียดของวัตถุทุกชนิดในระยะการมองเห็นของผู้ใช้งาน จากนั้นข้อมูลบนป้ายทั้งหลายจะถูกส่งไปประมวลผลกับ Gemini ทั้งจากป้ายโฆษณา หน้าเอกสาร ไปจนฉลากบรรจุภัณฑ์อาหารต่างๆ
เมื่อตรวจพบเนื้อหาโฆษณาแว่น AR จะแทนที่เนื้อหาเหล่านั้นทั้งหมดด้วยสีแดง ทำการบล็อกและปิดกั้นการมองเห็นโฆษณาทั้งหมดที่เราพบออกจากชีวิตจริง ในขั้นตอนการทดสอบพบว่า สามารถบล็อกเนื้อหาโฆษณาที่โผล่บนกล่องซีเรียล หน้าหนังสือพิมพ์ หรือป้ายสาธารณะได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในทางหนึ่งที่จึงเหมือนการใช้ฟีเจอร์ปิดโฆษณาหรือติดตั้ง Adblock ขึ้นมาใช้งานบนชีวิตจริง
ความเป็นไปได้และข้อจำกัดการใช้งานในปัจจุบัน
สำหรับท่านที่รำคาญโฆษณาที่อัดแน่นในชีวิตประจำวัน การปิดกั้นทั้งหมดนั้นไปจากสายตาช่วยลดความรำคาญและสิ่งรบกวนสายตาในระยะยาว ในทางหนึ่งจึงอาจเป็นการลดสีสันฉูดฉาดและข้อความเตะตาทั้งหลายบนที่ส่งตรงมาจากแบรนด์ต่างๆ ให้เรากลับมาโฟกัสชีวิตได้ดียิ่งขึ้น
การปิดกั้นโฆษณาจะช่วยลดสิ่งเร้าหรือยั่วยุทางวัตถุออกไปจากความคิดของผู้ใช้งาน เราต่างทราบกันดีว่าเมื่อได้รับชมหรือเห็นโฆษณาบ่อยครั้งจะเกิดการจดจำแบรนด์และผลิตภัณฑ์ไปโดยไม่รู้ตัว ในทางหนึ่งนี่จึงเป็นแนวทางใหม่สำหรับรับมือวิธีการทำการตลาดที่ได้รับความนิยมในการใช้งานมานับร้อยปี
ตัวเทคโนโลยีแว่น AR ร่วมกับ AI ยังแสดงผลได้ดีเยี่ยม แม้จะเคลื่อนไหวหรือขยับศีรษะไปหลายมุมมองฟีลเตอร์ปิดกั้นก็ยังไม่หายไป ทำให้ในระยะยาวนี่เป็นเทคโนโลยีที่อาจนำไปใช้ในการต่อยอดได้หลากหลาย ทั้งการรักษาผู้ป่วยสมาธิสั้น มีอาการวิตกกังวล ไปจนออทิสติกให้มีสมาธิและจดจ่อให้แก่พวกเขาได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีนี้ยังได้รับการตั้งคำถามและวิพากษ์วิจารณ์ในหลายด้าน ที่ได้รับการพูดถึงแพร่หลายบนโลกออนไลน์คือ ฟีลเตอร์สีแดงที่นำมาทับนั้นน่ารำคาญและดึงดูดสายตากว่าโฆษณาที่พยายามปิดกั้นเสียอีก ตัวแอปยังทำงานได้กับแว่น AR ของ Snap Spectacles เป็นหลัก ไม่สามารถใช้ร่วมกับ Apple Vision Pro หรือ Meta Quest ที่เป็นแว่น AR ยอดนิยมจึงยังมีข้อจำกัด
ประเด็นน่ากังวลถัดมาคือ ความแม่นยำของ AI เราทราบดีว่าต่อให้พัฒนาไปแค่ไหน AI ก็ยังอาจเกิดอาการหลอน หากมีการปิดกั้นผิดพลาดแทนที่จะเป็นโฆษณาแต่กลับไปปิดกั้นป้ายเตือนก็อาจทำให้ผู้ใช้งานได้รีบอันตรายแทน อีกทั้งยังมีข้อจำกัดของแว่น AR ในด้านความเร็วการประมวลผลและแสดงผลที่ยังเป็นข้อจำกัดในหลายด้าน
ทำให้ปัจจุบันนี่เป็นเพียงเทคโนโลยีที่อยู่ในระดับแนวคิด และยังไม่สามารถผลักดันมาใช้จริง
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ต้องพูดถึงเช่นกันคือ แม้โฆษณาจะก่อความรำคาญแต่ไม่ได้มีเพียงเรื่องร้ายเสมอไป บางครั้งเป็นการนำเสนอคุณประโยชน์หรือทางแก้ปัญหา การปิดกั้นทั้งหมดอาจเป็นการตีและจำกัดกรอบการใช้ชีวิตแทน นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อการสร้าง Echo chamber แบบเดียวกับที่เกิดในโซเชียลมีเดีย แต่นี่จะเกิดในชีวิตจริงซึ่งจะทำให้ยิ่งซับซ้อนและอันตรายยิ่งกว่า
แม้จะเป็นแนวคิดที่มีความน่าสนใจ แต่ก็จำเป็นจะต้องใช้งานอย่างระมัดระวังต่อไป
ที่มา


