ทิม คุก กร้าว! Apple พร้อมช้อนดีล-ทุ่มไม่อั้น ลุยเต็มสูบสมรภูมิ AI
หลังตกเป็นรองคู่แข่งมานาน ในที่สุด ทิม คุก ก็ส่งสัญญาณชัด! Apple เตรียมฉีกนโยบายรัดเข็มขัด ทุ่มงบไม่อั้น ช้อนดีลยักษ์ใหญ่ไอที เพื่อไล่กวดคู่แข่งให้ทันในสมรภูมิ AI
ตามรายงานจากสำนักข่าว Reuters ทิม คุก ซีอีโอของ Apple ส่งสัญญาณถึงความพร้อมที่จะทุ่มงบประมาณมหาศาลเพื่อไล่ตามคู่แข่งในสมรภูมิปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ทั้งการลงทุนสร้างศูนย์ข้อมูล (Data Center) หรือแม้แต่การเข้าซื้อกิจการผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด ซึ่งถือเป็นการฉีกทุกตำรารัดเข็มขัดที่บริษัทเคยยึดถือมาอย่างยาวนาน
ที่ผ่านมา Apple ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องพยายามไล่ตามคู่แข่งยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft และ Google ซึ่งทั้งสองบริษัทสามารถดึงดูดผู้ใช้งานหลายร้อยล้านคนให้หันมาใช้แชทบอทและผู้ช่วยอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของตนได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จดังกล่าวต้องแลกมาด้วยต้นทุนมหาศาล โดย Google มีแผนจะใช้จ่ายถึง 85,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีหน้า
ขณะที่ Microsoft ก็มีแนวโน้มจะใช้จ่ายมากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่หมดไปกับการสร้างอาณาจักรศูนย์ข้อมูล (Data Center) ของตนเอง
ในทางตรงกันข้าม Apple เลือกใช้กลยุทธ์ที่แตกต่าง โดยพึ่งพาพาร์ทเนอร์อย่าง OpenAI สำหรับฟีเจอร์บางอย่างบน iPhone และมุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองแบบเงียบๆ เช่น การอัปเกรด Siri
ทว่าผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่ราบรื่นนัก โดยบริษัทต้องประกาศเลื่อนการอัปเกรด Siri ครั้งใหญ่ออกไปเป็นปีหน้า ทำให้เกิดคำถามว่า Apple จะยอมตามหลังคู่แข่งต่อไปอีกนานแค่ไหน
ระหว่างการประชุมทางโทรศัพท์กับนักวิเคราะห์หลังการประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ตามปีงบประมาณของบริษัท นักวิเคราะห์ได้ตั้งข้อสังเกตว่า
ในอดีต Apple ไม่ค่อยมีการเข้าซื้อกิจการขนาดใหญ่ จึงได้สอบถามว่า Apple จะพิจารณาแนวทางที่แตกต่างออกไปเพื่อสานฝันเป้าหมายด้าน AI หรือไม่
ซึ่งซีอีโอ ทิม คุก ได้ตอบว่า ในปีนี้บริษัทได้เข้าซื้อกิจการขนาดเล็กไปแล้ว 7 แห่ง และพร้อมเปิดรับการเข้าซื้อกิจการที่ใหญ่กว่านั้น
"เราเปิดกว้างต่อการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) ที่จะช่วยเร่งรัดแผนงานของเรา เราไม่ได้ยึดติดกับขนาดของบริษัท แม้ว่าบริษัทที่เราเข้าซื้อในปีนี้ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทขนาดเล็กก็ตาม" คุกกล่าว
"เราถามตัวเองเสมอว่าบริษัทนั้นๆ จะช่วยเร่งแผนงานของเราได้หรือไม่ และถ้าคำตอบคือใช่ เราก็สนใจ"
โดยปกติแล้ว Apple จะเน้นการเข้าซื้อบริษัทเทคโนโลยีขนาดเล็กที่มีทีมงานเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อนำองค์ความรู้มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตัวเอง
แต่ดีลใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาคือการเข้าซื้อ Beats Electronics ในปี 2014 ที่มูลค่าสูงถึง 3 พันล้านดอลลาร์ และอีกหนึ่งดีลใหญ่คือการซื้อธุรกิจชิปโมเด็มของ Intel ด้วยมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์
สถานการณ์ของ Apple ในตอนนี้นับว่าน่าจับตา เมื่อรายได้ก้อนโตจากดีลที่ให้ Google เป็น Search Engine หลักบน iPhone กำลังสั่นคลอนอย่างหนักจากคดีผูกขาดในศาลสหรัฐฯ
ในขณะเดียวกัน คู่แข่งหน้าใหม่อย่างสตาร์ทอัพ Perplexity ก็พร้อมใช้ AI เข้ามาท้าชิงความเป็นเจ้าแห่งการค้นหา ซึ่งก็มีกระแสข่าวหนาหูว่า Apple เองก็เคยเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการนี้ด้วยเช่นกัน
Apple ยังประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีด้วยว่าจะทุ่มงบมากขึ้นให้กับศูนย์ข้อมูล ซึ่งปกติแล้วเป็นส่วนที่ Apple ไม่ได้ลงทุนสูงมากนักในแต่ละปี
ตอนนี้ Apple หันมาใช้ชิปที่ออกแบบเองสำหรับประมวลผลงานด้าน AI โดยเฉพาะ พร้อมชูจุดเด่นเรื่องการควบคุมข้อมูลส่วนตัวให้ปลอดภัยเหมือนฟีเจอร์อื่นๆ ในเครื่อง
เพื่อเน้นย้ำทิศทางใหม่นี้ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) ของ Apple ได้ออกมายืนยันว่า บริษัทจะทุ่มเม็ดเงินลงทุนในดาต้าเซ็นเตอร์เพิ่มขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
"เราอาจจะไม่ได้เห็นการเติบโตแบบก้าวกระโดด แต่รับรองว่าเป็นการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ" ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินกล่าว
"ซึ่งแน่นอนว่าทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการที่เราทุ่มสุดตัวให้กับโลกของ AI"
ความเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นว่า Apple ในยุคของ ทิม คุก พร้อมสลัดภาพลักษณ์สุขุมเยือกเย็นทิ้งไป เพื่อกระโจนสู่สมรภูมิ AI อย่างเต็มกำลัง
ซึ่งหลังจากนี้ วงการเทคโนโลยีคงต้องจับตาดูว่า Apple จะทุ่มเงินซื้อบริษัทไหนมาเป็นจิ๊กซอว์ตัวสำคัญในการพลิกเกมครั้งนี้


