ถอดรหัส Xiaomi ทุ่มสร้าง "ชิป" ของตัวเอง เดิมพันอนาคตเทคโนโลยีจีน
ถอดรหัส Xiaomi สมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่จากจีน ยอมทุ่ม 2.5 แสนล้านบาท สร้าง 'ชิปมือถือ' ของตัวเองเดิมพันอนาคตเทคโนโลยีจีน
วงการเทคโนโลยีโลกกำลังจับตาการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของ Xiaomi บริษัทสมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่จากจีน ที่ประกาศแผนลงทุนมหาศาลถึง 5 หมื่นล้านหยวน
หรือประมาณ 2.5 แสนล้านบาท ตลอดระยะเวลาหนึ่งทศวรรษข้างหน้า เพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม นั่นคือการพัฒนา "ชิปประมวลผล" สำหรับอุปกรณ์มือถือของตนเอง
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า การเดิมพันครั้งนี้ไม่ใช่แค่การทำชิปธรรมดา แต่คือการประกาศเจตนารมณ์ที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้เล่นหลักในสมรภูมิเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นขุมพลังสำคัญและหัวใจของอุปกรณ์ไฮเทคยุคใหม่ทั่วโลก
ถอดรหัส Xiaomi ทุ่ม 2.5 แสนล้านบาท สร้าง 'ชิปมือถือ' ของตัวเอง
ทำไม Xiaomi ถึงต้องทุ่มงบมหาศาลขนาดนี้? Lei Jun ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวเรือใหญ่ของ Xiaomi ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนผ่านโพสต์บน Weibo โดยระบุว่า
“ชิปคือยอดพีระมิดที่เราต้องปีนขึ้นไปให้ถึง และเป็นสงครามที่เราหลีกหนีไม่ได้ หากเราต้องการเป็นบริษัทเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ที่ยิ่งใหญ่”
นี่ไม่ใช่แค่การทำชิปเพื่อลดต้นทุน หรือเพิ่มกำไรในระยะสั้น แต่มันคือการสร้างรากฐานทางเทคโนโลยีของตนเองในระยะยาว
เพื่อให้สามารถควบคุมชะตากรรมของผลิตภัณฑ์ เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างความแตกต่างในการแข่งขันที่ดุเดือด
ก้าวแรก ชิป Xring O1 คืออะไร?
ก้าวแรกของการเดินทางครั้งสำคัญนี้คือการเปิดตัวชิปประมวลผลที่ออกแบบเองในชื่อ Xring O1 ซึ่ง Lei Jun ยืนยันว่าจะเผยโฉมอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้
แผนการลงทุน 10 ปีเพื่อสร้างชิป Xring นี้ มีจุดเริ่มต้นที่ชัดเจนมาตั้งแต่ปี 2021 โดยข้อมูลจาก Xiaomi ระบุว่า ตลอดช่วงสี่ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ใช้จ่ายไปแล้วกว่า 1.35 หมื่นล้านหยวน
ในปีนี้ปีเดียว มีการจัดสรรงบวิจัยและพัฒนาด้านชิปไว้อีก 6 พันล้านหยวน และที่น่าสนใจคือทีมงานด้านเซมิคอนดักเตอร์ของ Xiaomi ก็เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด มีบุคลากรผู้เชี่ยวชาญรวมแล้วกว่า 2,500 คน
ชิป 3 นาโนเมตร เทคโนโลยีล้ำหน้า
Lei Jun ระบุว่า ชิป Xring O1 จะผลิตด้วยเทคโนโลยีการผลิตระดับ 3 นาโนเมตร รุ่นที่สอง ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากในปัจจุบัน
แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยชื่อผู้ผลิต ที่รับผลิตชิปนี้ให้ แต่การใช้เทคโนโลยี 3 นาโนเมตรนี้เองที่บอกใบ้สำคัญ เพราะสะท้อนว่า Xiaomi ไม่ได้พึ่งพาผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของจีนอย่าง SMIC (Semiconductor Manufacturing International Corp.)
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? เพราะปัจจุบัน SMIC ยังคงติดอยู่ที่กระบวนการผลิตระดับ 7 นาโนเมตร และยังไม่สามารถก้าวข้ามไปสู่เทคโนโลยีที่ละเอียดกว่านั้นได้ อันเนื่องมาจากข้อจำกัดและมาตรการคว่ำบาตรทางการค้าจาก สหรัฐอเมริกา
เดินตามรอย Apple ชิงความได้เปรียบเหนือคู่แข่งในประเทศ?
ที่ผ่านมา Xiaomi พึ่งพาชิปประมวลผลสำหรับมือถือจากผู้ผลิตภายนอกเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น Qualcomm หรือ MediaTek มาโดยตลอด
แต่การตัดสินใจครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า Xiaomi กำลังมองไปที่โมเดลความสำเร็จของคู่แข่งระดับโลกอย่าง Apple
ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า Apple ออกแบบชิปของตนเองให้ทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ได้อย่างลงตัว เพื่อสร้างระบบนิเวศของอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพและความเสถียรสูงสุด
การเดินตามรอยนี้แสดงให้เห็นถึงความต้องการของ Xiaomi ในการควบคุมและเพิ่มประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ของตนเองได้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ การมีชิป 3 นาโนเมตรที่พัฒนาขึ้นเอง อาจทำให้ Xiaomi ได้เปรียบอย่างมากในตลาดภายในประเทศ เมื่อเทียบกับคู่แข่งสำคัญอย่าง Huawei
ซึ่งเผชิญข้อจำกัดในการเข้าถึงเทคโนโลยีการผลิตชิปที่ล้ำหน้ากว่าระดับ 7 นาโนเมตร เนื่องจากสถานการณ์ของผู้ผลิตพันธมิตรหลักอย่าง SMIC
สอดคล้องเป้าหมายระดับชาติของจีน
การลงทุนจำนวนมหาศาลในภาคส่วนชิปนี้ ยังสอดคล้องกับเป้าหมายสำคัญระดับชาติของจีนภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ที่ต้องการให้ประเทศพึ่งพาตนเองได้
และก้าวขึ้นเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีล้ำสมัย รวมถึงอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อลดการพึ่งพาต่างชาติให้ได้มากที่สุด
อาณาจักร Xiaomi ยังมีอะไรอีก?
นอกเหนือจากการลงทุนในชิปเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในธุรกิจสมาร์ทโฟนที่เป็นแกนหลักแล้ว Xiaomi ยังคงเดินหน้ามองหาแหล่งรายได้และนวัตกรรมใหม่ๆ
โดยได้ทุ่มเททรัพยากรอย่างมหาศาลให้กับธุรกิจ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความพยายามในการขยายอาณาจักรเทคโนโลยีของ Xiaomi
การลงทุนในชิปของ Xiaomi ครั้งนี้ จึงเป็นมากกว่าแค่การพัฒนาส่วนประกอบ แต่คือการวางหมากระยะยาวเพื่อยืนหยัดในสมรภูมิเทคโนโลยีระดับโลก
และขับเคลื่อนเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของบริษัทและของประเทศจีนไปพร้อมๆ กัน


